นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด เปิดเผยว่าภารกิจของบริษัทฯ นอกเหนือจากการสร้างมูลค่าองค์กรให้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังต้องผลิตไฟฟ้าเพื่อเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีความมั่นคงด้วย ความสำเร็จในการร่วมทุนโครงการราชบุรี โคเจนเนอเรชั่นได้ตอบสนองต่อภารกิจดังกล่าวเป็นอย่างดี ทั้งนี้ บริษัทฯ จะได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตไฟฟ้าผสานเข้ากับความแข็งแกร่งของกลุ่มน้ำตาลราชบุรี พัฒนาโครงการร่วมทุนให้ยังประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“โครงการราชบุรีโคเจนเนอเรชั่นเป็นโครงการประเภทโคเจนเนอเรชั่นแห่งที่สามและเป็นโครงการในประเทศแห่งที่ 16 ของบริษัทฯ ส่งผลให้กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 เมกะวัตต์ โครงการนี้จะเป็นเงินส่วนทุนของบริษัทฯ ประมาณ 410 ล้านบาท ความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือและความเป็นพันธมิตรของทั้งสองบริษัทฯ ที่มีเป้าหมายร่วมกัน คือ การสร้างความเติบโตของบริษัทฯ และเสริมสร้างความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศ” นายพงษ์ดิษฐ กล่าว
นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท น้ำตาลราชบุรี จำกัด เปิดเผยว่า โครงการราชบุรีโคเจนเนอเรชั่น ได้รับการพิจารณาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ภายใต้กรอบปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าจำนวน 2,000 เมกะวัตต์ และผ่านการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ประเภทสัญญา Firm ระบบ Cogeneration พ.ศ. 2553 ตามมติคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เมื่อปี 2553 โครงการนี้มีมูลค่า 4,700 ล้านบาท กำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า กำหนดเดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2562 โดยมี กฟผ. และบริษัทในเครือของน้ำตาลราชบุรี เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้า
“บริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพความสามารถของราชบุรีโฮลดิ้ง ซึ่งมีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและบริหารโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 10 ปี อีกทั้งยังเป็นองค์กรธุรกิจที่มีเจตจำนงชัดเจนด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นับจากนี้ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันเดินหน้าพัฒนาโครงการราชบุรีโคเจนเนอเรชั่น และเชื่อมั่นว่าโครงการจะดำเนินการได้สำเร็จตามแผนงานในปี 2562” นายสุนทร กล่าวปิดท้าย
บริษัท ราชบุรีโคเจนเนอเรชั่น จำกัด ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. จำนวน 90 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 โดยกำหนดเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2562 ส่วนกำลังการผลิตอีก 10 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งไอน้ำ 15 ตันต่อชั่วโมง จะผลิตและจำหน่ายให้กับบริษัท น้ำตาลราชบุรี จำกัด และ บริษัท ราชบุรีเอทานอล จำกัด โครงการนี้นอกจากจะช่วยระบบไฟฟ้าของประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้นแล้ว ระบบผลิตแบบโคเจนเนอเรชั่นยังส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าโดยความร้อนที่ได้จากการผลิตไฟฟ้ายังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการผลิตพลังงานรูปแบบอื่นได้อีก เช่น ไอน้ำ ที่สามารถใช้ในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรม ช่วยลดต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายการใช้พลังงานและเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมของประเทศ