นางสาวบุษยา ประกอบทองผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ ผู้จัดงานอินเตอร์เนชั่นแนล บางกอกไบค์ 2014 ครั้งที่ 4“International Bangkok Bike 2014” ครั้งที่ 4 กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าเพื่อเป็นการยกระดับการจัดงานขึ้นสู่งานเทรดโชว์ จึงมีเป้าหมายอย่างชัดเจน ในการเพิ่มจำนวนพันธมิตรการจัดงาน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่สำคัญ สำหรับงานมหกรรมจักรยานฯ ภายในเดือนตุลาคมนี้ บริษัทฯมุ่งเน้นการเปิดตัวสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ ในปี 2015 ที่เกี่ยวกับจักรยานอย่างครบครันและครบทุกแบรนด์ เพื่อให้คนรักจักรยานได้ยลโฉมเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย หลังจากที่แบรนด์ต่างๆ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานยูโรไบค์(EUROBIKE 2014) เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานอกจากนี้ยังเป็นการเดินหน้าเปิดเจรจาการค้าเต็มรูปแบบ ทั้งแบบ B2B หรือ การเจรจาการค้าระหว่าง ผู้ประกอบการธุรกิจจักรยานจากต่างประเทศ และผู้ประกอบการธุรกิจจักรยานในไทย และ B2C หรือ การเจรจาการค้าระหว่าง ผู้ประกอบการธุรกิจจักรยานภายในประเทศด้วยกันเอง ในรูปแบบของการเปิดหา และรับสมัครตัวแทนจำหน่ายสินค้าจักรยานรายใหม่ๆ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่เริ่มสนใจเข้ามาดำเนินธุรกิจด้านจักรยาน รวมถึง SMEs ที่เกี่ยวข้อง
“ สำหรับการจัดงานครั้งนี้บริษัทฯ ได้ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 15 ล้านบาทโดยเพิ่มพื้นที่แสดงงานจากเดิม 5,000 ตรม. เป็น 7,000 ตรม. เพื่อรองรับผู้เข้าร่วมแสดงงานที่มีมากขึ้น รวมทั้งยกระดับการจัดงานสู่อินเตอร์ปรับชื่องานใหม่เป็น “International Bangkok Bike 2014” เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์การจัดงานที่มีความยิ่งใหญ่ และเป็นสากลมากยิ่งขึ้น โดยมีผู้ประกอบการที่มาร่วมจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการจาก 300 บูธ ซึ่งแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ดังนี้
ทั้งนี้ภายในงานยังเป็นการเดินหน้าเปิดเจรจาการค้าเต็มรูปแบบ ทั้งในรูปแบบของ B2B และ B2C ในการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างกัน โดย บริษัทฯ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการประสานงานให้ระหว่าง ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมเจรจา ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ สามารถทำนัดเพื่อเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการได้แล้วกว่า 30 นัด ทั้งนี้บริษัทฯ คาดหวังว่า การเปิดเจรจาธุรกิจครั้งนี้จะสามารถทำให้เกิดการขยายช่องทางการตลาดสู่ต่างประเทศมากขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมตัวผู้ประกอบการเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยจะสามารถเติบโตได้อีกมาก
นอกจากนี้ยังพลาดไม่ได้กับ กิจกรรมและสีสันไฮไลท์ที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย อาทิเช่น Exclusive Bike Parking จุดจอดและรับฝากจักรยานที่ได้มาตรฐานและปลอดภัยเพื่อรองรับนักปั่นที่นำจักรยานเข้ามาชมงาน การประมูลจักรยานเสือหมอบ จาก 4 แบรนด์ดัง วันละ 1 คัน ราคาเริ่มต้นประมูลเริ่มต้นที่ 9,999 บาท โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับองค์กรที่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับจักรยานเพื่อสังคมต่อไป สนาม Indoor Bike Park หรือ สนามทดสอบทักษะในการปั่นจักรยาน จะได้ทดสอบสมรรถนะของตัวเองในการบังคับจักรยานในสนามทดสอบ ซึ่งภายหลังจากจบงานครั้งนี้แล้ว ทางคณะผู้จัดงานจะร่วมกับห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ได้ร่วมมือกันในการทำประโยชน์เพื่อสังคม เป็นลักษณะของ CSR Project คือ การนำสนามทดสอบทักษะการปั่น Indoor Bike Park นี้ ไปสร้างและมอบให้กับชุมชนจักรยานพระราม 8 เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันในหมู่นักปั่นอีกด้วย
“การจัดงาน International Bangkok Bike 2014 ครั้งที่ 4 นี้ บริษัทฯ มั่นใจว่า จะมีผู้เข้าร่วมแสดงงานทั้งสิ้น กว่า 300 บูธ มีผู้เข้าชมงานตลอด 4 วัน กว่า 150,000 คน สร้างเงินสะพัดภายในงานทั้งสิ้น ไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท โดยงานดังกล่าว จะเป็นปัจจัยเสริมในการกระตุ้นภาพรวมของตลาดธุรกิจจักรยานของประเทศ ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี”
ด้าน คุณภัทรพร สิทธิวนิช ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดงานมาตลอด 4 ครั้งที่ผ่านมากล่าวว่า กระแสความนิยมการปั่นจักรยานในประเทศไทยเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่การปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ เพื่อการเดินทาง รวมไปถึงการปั่นจักรยานเพื่อการท่องเที่ยว และเนื่องด้วยในปีนี้ ททท. ได้วางกลยุทธ์การทำตลาดตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ปีการท่องเที่ยววิถีไทยในตลาดทั่วโลก ภายใต้ชื่อแคมเปญว่า DISCOVER THAINESS 2015 เพื่อปลุกกระแสและกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้ามาค้นหาความเป็นไทย โดยมีการจัดหมวดสินค้าทางการท่องเที่ยว ในปีท่องเที่ยววิถีไทย ขึ้นมาทั้งหมด 7 กลุ่ม โดยใช้สัญลักษณ์ของสี ภายใต้ชื่อ “สีรุ้งแห่งความสุข” เชื่อมโยงความรู้สึกของนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้เข้าถึงวิถีไทย 7 กลุ่มนั้น การปั่นจักรยาน เป็นหนึ่งในหมวดสินค้าท่องเที่ยวที่จะได้รับการโปรโมทในแคมเปญนี้ คือหมวด Feel Energetic ใช้สีน้ำเงิน ซึ่งหมวดนี้ยังมีการท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมดำน้ำ มวยไทย กอล์ฟอีกด้วย
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ททท. มีการรณรงค์ ส่งเสริมการปั่นจักรยานท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะได้ให้การสนับสนุน บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด หรือ นีโอ ในการจัดงาน BANGKOK BIKE อย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยครั้งที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าชมกิจกรรม “So Far So Green” สองล้อเที่ยวไป หัวใจสีเขียว ของ ททท. กว่า 100,000 คน ตลอด 4 วันจัดงาน
สำหรับภายในงานครั้งนี้ ททท. เน้นสานต่อกิจกรรมการเปิดตัวเส้นทางการท่องเที่ยวจากครั้งที่ผ่านมา โดย ททท. ได้มีการทดสอบสินค้าใหม่เพิ่มเติมอีก 2 เส้นทาง ที่มีความพร้อมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างชาติ ในการปั่นจักรยานท่องเที่ยว ได้แก่
1. เส้นทาง ปั่นเที่ยวบางพลับ ตักบาตรขนมครก ซึ่งเป็นเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยวระยะสั้น จาก กรุงเทพ - สมุทรสงคราม สามารถปั่นแบบ ไปเช้า-เย็นกลับ หรือ แบบค้าง 1 คืนได้ ถือเป็นการปั่นจักรยานเพื่อชมวิถีชีวิต และสัมผัสประเพณีดั้งเดิมของชุมชนที่หาชมได้ยาก เช่น วิธีการโม่แป้งแบบโบราณเพื่อทำขนมครก ถวายแด่พระสงฆ์ วิธีการทำซอจากชุมชนบ้านพญาซอ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากถ่านผลไม้ การทำว่าวจุฬา การทำน้ำตาลมะพร้าว เป็นต้น นอกจากนี้ ภายในชุมชนยังมีเส้นทางปั่นจักรยานสีเขียวเพื่อชมสวนผลไม้อีกด้วย
2. เส้นทาง ปั่นชมวิถีชีวิต บ้านนาต้นจั่น อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย เป็นเส้นทางการปั่นจักรยานแบบ 2 วัน 1 คืน เพื่อชมการทอผ้าไหม การทำผ้าหมักโคลน งานไม้ภูมิปัญญาตาวงษ์ งานแปรรูปเฟอร์นิเจอร์ไม้ สัมผัสกิจกรรมการทำอาหาร และกิจกรรมพื้นบ้าน – ปั่นเที่ยวชมสวนผลไม้ เป็นต้น
ดังนั้นภายในงาน International Bangkok Bike 2014 ครั้งที่ 4 นี้ ททท. ได้นำเส้นทางปั่นจักรยานทั้ง 2 เส้นทาง เข้าร่วมประชาสัมพันธ์ และทำการตลาดอย่างเป็นทางการ โดยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ We Love Bicycle ที่ผู้จัดงาน บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด จัดทำขึ้น เพื่อรวบรวมโรงแรม รีสอร์ท สถานที่ท่องเที่ยวที่ยินดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยจักรยานทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ มาไว้ในโครงการดังกล่าว
“ สำหรับการร่วมสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้ ททท. คาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวด้วยจักรยานของประเทศให้เพิ่มขึ้น จาก 260,000 คนเป็น 320,000 คน มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาปั่นจักรยานท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีก 15% ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าตลาดการท่องเที่ยวด้วยจักรยานในปีนี้ เติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 1,200 ล้านบาท”
คุณจันทนา ติยวัชรพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอล เอ ไบซิเคิ้ล (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในพันธมิตรที่ร่วมสนับสนุนการจัดงานตลอดมากล่าวว่าทางแอล เอ ไบซิเคิ้ล ในฐานะผู้นำด้านการผลิต จำหน่ายทั้งนำเข้าและส่งออกจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในไทย ได้เข้าร่วมงานมหกรรมจักรยานสำหรับผู้มีใจรักการปั่น หรือ บางกอกไบค์ มาตั้งแต่เริ่มจัดงานครั้งแรก ต้องถือการจัดงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมงานเพิ่มมากขึ้นทุกครั้ง สำหรับการเข้าร่วมงานครั้งที่ 4 นี้ เราเองก็ได้นำเข้าจักรยานรุ่นใหม่ โมเดลใหม่ล่าสุดหลากหลายแบรนด์ที่เพิ่งเปิดตัวในฝรั่งเศสเข้ามาโชว์ในงาน เชื่อว่านักปั่นจะต้องชื่นชอบแน่นอน นอกเหนือไปจากนี้ ทางแอล เอ ยังได้นำจักรยานไฟฟ้า LA E-Ride หลายรุ่นมาจัดแสดงอีกด้วย
“กระแสการขี่จักรยานกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะกระแสการรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งแผ่วงกว้างไปทั่วโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความนิยมใช้จักรยานไฟฟ้า หรือ E-Bike มีการขยายตัวอย่างกว้างขวาง เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 โดยในปี ค.ศ. 2010 ประมาณการว่ามีจักรยานไฟฟ้าเฉพาะในประเทศจีน แล้วกว่า 120 ล้านคัน และพบว่ามีการใช้และขายจักรยานฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในประเทศอินเดีย ที่มีประชากรกว่า 1000 ล้านคน ในประเทศสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และสวิสเซอร์แลนด์ ล้วนพบว่ามีการขยายตัวของตลาดจักรยานไฟฟ้าอย่างกว้างขวาง แม้จะมีราคาสูงกว่ารถจักรยานธรรมดาก็ตามกมที่นิยม E-Bike จะเน้นในเรื่องของคุณภาพเป็นหลัก และยินดีจ่ายเงินแพงเพื่อซื้อสินค้า จักรยานไฟฟ้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นผลดีต่อสภาพแวดล้อมในเมืองจากการศึกษาผลกระทบของจักรยานไฟฟ้าเมื่อเทียบกับการขนส่งแบบอื่นๆ พบว่าจักรยานไฟฟ้ามีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานกว่ารถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ (Sport Utility Vehicle – SUV) 18 เท่ารถยนต์นั่ง (Sedan) 13 เท่าระบบขนส่งโดยราง เช่น รถไฟฟ้า (Rail transit) 6 เท่าความนิยมใช้พาหนะจากพลังงานไฟฟ้าในทวีปยุโรปฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าภายในปี 2016 จะมีผู้ใช้พาหนะจากพลังงานไฟฟ้ามากกว่า 2,000,000 คัน ในทวีปยุโรปฝั่งตะวันตก เชื่อว่า เทรนด์นี้จะเริ่มเข้ามาทางฝั่งเอเชียและตลาดบ้านเราในไม่ช้า ซึ่งทางแอลเอ ก็ได้มีการพัฒนาสินค้าไว้รองรับตลาดนี้อยู่แล้ว”
คุณวรเดช กฤตยาเกียรณ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกิจการสาธารณะ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้สนับสนุนการจัดงาน กล่าวว่า “สำหรับงาน International Bangkok Bike 2014 ปีนี้ เหตุผลหลักๆ ที่บิ๊กซี เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมครั้งนี้ คือ บิ๊กซี ในฐานะห้างค้าปลีกคนไทยที่อยู่เคียงคู่กับสังคมไทยมากว่า 20 ปี พนักงานบิ๊กซีทุกคนภูมิใจ และยึดมั่นในหลักการสำคัญที่จะส่งเสริมให้สังคมไทยดียิ่งๆขึ้นผ่านแนวทางการ พัฒนาสังคม 4 ข้อ ดังนี้ 1) ส่งเสริมการศึกษา 2) พัฒนาชุมชน 3) สร้างเสริมสุขภาพ และ 4) ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม จะเห็นได้ว่าการขี่จักรยานนั้น นอกจากจะนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีของผู้ขับขี่แล้ว การปั่นจักรยานยังช่วยประหยัดเงิน ประหยัดค่าน้ำมัน ยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วยแล้ว เพราะจักรยานเป็นยานพาหนะซึ่งไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ใดๆ ที่ทำให้ต้องเป็นตัวปล่อยมลพิษทางอากาศออกมาสู่โลกภายนอก ซึ่งการรักษาสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นหนึ่งในแนวทางหลักที่บิ๊กซีให้ความสำคัญ และนอกจากจักรยานจะส่งเสริมสิ่งแวดล้อมแล้ว ในแง่สุขภาพจิตที่ดี การขี่จักรยานยังนำพาให้เราพบสังคมใหม่ๆ สังคมการปั่นจักรยานก็ค่อนข้างจะอบอุ่นและเป็นมิตร ทุกคนสามารถรู้จักกันได้ภายในเวลาอันรวดเร็วเพราะสนใจในกิจกรรมที่เหมือนๆ กัน และหากใครมีปัญหาอะไรก็มักจะช่วยเหลือกัน มีผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ออกมาว่าคนที่ไม่มีเพื่อน และไม่เข้าสังคมมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยมากกว่าคนสูบบุหรี่ และคนที่เป็นโรคอ้วนเสียอีก จะเห็นได้ว่า ผลดีของการขี่จักรยานนั้น ล้วนส่งเสริมและสอดคล้องไปในแนวทางที่บิ๊กซีให้ความสำคัญ
ดังนั้น บิ๊กซีจึงยินดีที่จะเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้ โดยภายในงาน International Bangkok Bike 2014 นั้น บิ๊กซีได้สนับสนุนในส่วนสนาม Big C Biking Park เพื่อให้ทุกท่านที่มาร่วมงาน สามารถขึ้นไปทดลองฝึกทักษะการขี่จักรยานในพื้นผิวต่างๆ ทั้งนี้ นอกจากบิ๊กซีจะสนับสนุนสนามฝึกหัดขี่จักรยานภายในงานครั้งนี้แล้ว เพื่อให้เป็นไปตามปรัชญาหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการใช้ทรัพยากรให้มีคุณค่าและได้ประโยชน์สูงสุด ภายหลังการจัดงาน บิ๊กซี จึงร่วมกับ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ในฐานะผู้จัดงาน และ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย จัดให้มีพิธีส่งมอบสนามขับขี่จักรยาน Big C Biking Park นี้แด่ กรุงเทพมหานคร โดยสนาม Big C Biking Park นี้จะติดตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะพระราม 8 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถไปทดลองฝึกทักษะการขับขี่จักรยานได้ และบิ๊กซีหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สนาม Big C Biking Park จะเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้มีผู้สนใจและหันมาขับขี่จักรยานทั้งในแง่การใช้งานจริงและในแง่กิจกรรมสันทนาการมากขึ้นต่อๆ ไป” ปัจจุบัน บิ๊กซี มีสาขาทั้งสิ้น 483 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น ไฮเปอร์มาร์ต 124 สาขา Market 38 สาขา จัมโบ้ 3 สาขา และ บิ๊กซีมินิ 318 สาขา
อนึ่ง การจัดงานInternational Bangkok Bike 2014 ครั้งที่ 4 ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรการจัดงานในหลายส่วน ได้แก่ องค์กรภาครัฐ อาทิเช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวด้วยจักรยาน และ ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย ร่วมรณรงค์ส่งเสริมให้เกิดการเดิน และการปั่นจักรยาน ผ่านโครงการ เดินไป ปั่นไป หรือ I Bike I Walk องค์กรภาคเอกชน อาทิเช่น ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ร่วมจัดทำโปรโมชั่นอำนวยความสะดวก รวมถึงกระตุ้นการซื้อขายในงาน
และที่ขาดไม่ได้ คือ 10 บริษัท ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจจักรยานไทย ที่เข้าร่วมเปิดตัวสินค้า ใหม่ในปี 2015 รวมถึงเปิดหาพันธมิตรทางการค้าใหม่ๆ ในลักษณะของ B2B ภายในงานอีกด้วย
งาน International Bangkok Bike 2014” ครั้งที่ 4 หรือ มหกรรมจักรยานของผู้ที่มีใจรักการปั่น งานดีๆ ที่นักปั่นพลาดไม่ได้ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2- 5 ตุลาคม 2557 ณ ฮอลล์ 3-4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2203-4232-5 หรือ ติดตามข่าวสารการจัดงานได้ที่ www.internationalbangkokbike.com และ facebook : www.facebook.com/BKBEXPO