สองบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเมล็ดพันธุ์ของโลก อีสท์ เวสท์ ซีด (EWS) และมอนซานโต้ จับมือเซ็นสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ หวังใช้ศักยภาพของสองบริษัทส่งเสริมตลาดผักเมืองหนาว เพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในการสร้างแหล่งอาหารป้อนตลาดโลก
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่โรงแรม วี.ซี.แอด สวนผัก จังหวัดเชียงใหม่ นายบรูโน่ เลอฟรัว ผู้จัดการกลุ่มสายงานขายและการตลาด กลุ่มบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด เนเธอร์แลนด์ และนายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ได้ร่วมลงนามในสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างกลุ่มอีสท์ เวสท์ ซีด บริษัทผู้นำตลาดด้านเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อน กับกลุ่มมอนซานโต้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเมล็ดพันธุ์อันดับหนึ่งของโลก โดยมี นายเวนโจ ลาเปซ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ประจำทวีปเอเชีย - กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ผัก และนายบุญเลิศ อภินัยประสิทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายขาย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากบริษัท มอนซานโต้ ร่วมลงนามฯ นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของวงการเมล็ดพันธุ์ที่ผู้นำอันดับต้นของโลกจับมือเป็นพันธมิตรเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจของทั้งสองฝ่าย
นายบรูโน่ เลอฟรัว ผู้จัดการกลุ่ม สายงานขายและการตลาด กลุ่มบริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด กล่าวถึงความร่วมมือระหว่าง อีสท์ เวสท์ ซีด กับมอนซอนโต้ในครั้งนี้ว่า จะทำให้ อีสท์ เวสท์ ซีด สามารถขยายโอกาสทางการตลาดจากความสำเร็จเดิมในฐานะผู้ครองตลาดอันดับหนึ่งในเซ็กเม้นตลาดเมล็ดพันธุ์ผักเขตร้อนที่ปัจจุบันมีมาร์เก็ตแชร์ 38% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยการเพิ่มไลน์สินค้าในกลุ่มเมล็ดพันธุ์ผักเมืองหนาวจากแบรนด์ “เซมินีส” และ “ดีรอยเตอร์” ของมอนซานโต้ ด้วยเอกสิทธิ์การเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าวภายใต้บรรจุภัณฑ์ของ อีสท์ เวสท์ ซีด ครอบคลุมถึงงานส่งเสริม การทำกิจกรรมทางการตลาด รวมถึงงานบริการหลังการขายแต่เพียงผู้เดียว เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงเมล็ดพันธุ์ของมอนซานโต้ได้มากขึ้นผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแกร่งของ อีสท์ เวสท์ ซีด ใน 4 ประเทศสำคัญในอาเซียนคือ ไทย มาเลเซีย เวียดนามและเมียนมาร์ โดยในประเทศไทยได้คัดเลือกสายพันธุ์ที่จะวางจำหน่ายชุดแรกจำนวน 9 รายการ คือ1. พริกเผ็ดลูกผสม “ฮอทชิลลี่”2. ผักกาดหอมห่อ “ไรเดอร์”3. ผักสลัดห่อ “ฟริลิซ”4. สควอชลูกผสม “เซเนเตอร์”5. แตงร้าน “มาลินี”6. แตงโมลูกผสม “สวีทโกลด์”7. ถั่วแขก “สตริงเลซ บลูเลค เอส-7”8. ถัวแขกพุ่ม “มาทาดอร์”9. หัวหอมใหญ่ “การเน็กซ์ 33”
ความร่วมมือกันครั้งนี้ถือเป็นรูปแบบการทำการตลาดร่วมกัน (Marketing Collaboration หรือ Distribution Partnership) ในระดับอาเซียน ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งในด้านธุรกิจเมล็ดพันธุ์ให้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่เกษตรกร ตอบสนองความต้องการเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อใช้ปลูกเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโลกต่อไปอีกด้วย
นอกเหนือจากความร่วมมือดังกล่าว อีส เวสท์ ซีด ยังคงทุ่มเทค้นคว้าและปรับปรุงพันธุ์พืชใหม่ๆ ภายใต้การดำเนินงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ ไซมอน กรูท ที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย และเป็นบริษัทเอกชนรายแรก และรายเดียวในเอเชียที่ทุ่มงบประมาณเกือบ 30 ล้านบาท นำเข้าเครื่องดีเอ็นเอมาร์กเกอร์ (DNA Marker) เพื่อใช้ในการเทียบสอบรหัสพันธุกรรม ช่วยย่นเวลางานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ลงเท่าตัว จึงมีพืชสายพันธุ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ อีสท์ เวสท์ ซีด ยังได้รับใบรับรองคุณภาพห้องปฏิบัติการทดสอบเมล็ดพันธุ์พืชตามมาตรฐานโลก จากสมาคมทดสอบเมล็ดพันธุ์นานาชาติ ISTA (International Seed Testing Association) เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ทั้งยังมุ่งมั่นรักษามาตรฐานกระบวนการผลิต นับแต่ขั้นตอนการคัดเมล็ด การทดสอบความสมบูรณ์และความบริสุทธิ์ของเมล็ดพันธุ์ในห้องปฏิบัติการ ไปจนถึงกระบวนการเคลือบเมล็ดเพื่อเสริมความต้านทานต่อโรคในระยะงอก ก่อนนำไปบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรอย่างดีว่าจะสามารถปกป้องและรักษาคุณภาพของเมล็ดพันธุ์กระทั่งถึงมือเกษตรกร
ด้าน นายเวนโจ ลาเปซ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ประจำทวีปเอเชีย - กลุ่มธุรกิจเมล็ดพันธุ์ผักของมอนซานโต้ กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า กลุ่มบริษัทมอนซานโต้เล็งเห็นถึงศักยภาพทางด้านการตลาดที่แข็งแกร่งทั้งด้านการบริหารเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย และการเข้าถึงกลุ่มเกษตรกรผ่านทีมงานภาคสนามที่กระจายอยู่ทั่วประเทศของ อีสท์ เวสท์ ซีด ในขณะที่กลุ่มมอนซานโต้มีศักยภาพสูงด้านการพัฒนาสายพันธุ์พืชเมืองหนาว การผนึกกำลังกันในครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้ทั้งสองฝ่ายได้ขยายโอกาสทางการตลาดมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มมอนซานโต้เองก็สามารถใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายอันแข็งแกร่งของอีสท์ เวสท์ ซีด เพื่อเพิ่มโอกาสทางการขาย และทำให้สินค้าเข้าถึงเกษตรกรได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ อีสท์ เวสท์ ซีด และมอนซานโต้ ต่างมีนโยบายตรงกันที่จะไม่นำพืชที่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO มาจำหน่ายโดยเด็ดขาด แต่จะใช้เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์พืช (Breeding) ซึ่งอาศัยวิธีการศึกษาและคัดเลือกลักษณะเฉพาะพันธุ์ เพื่อให้เกิดลูกผสมที่มีคุณลักษณะและคุณสมบัติตามต้องการ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit