ทีเอ็นเอส สำรวจความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างในประเทศไทย จำนวน 500 คนที่ระบุว่าอยู่ในระหว่างเตรียมการและมีโครงการจะซื้อรถภายในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า ทั้งที่พำนักอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ โคราช ชลบุรี และหาดใหญ่ พบว่า 1 ใน 4 ของกลุ่มผู้มีโครงการซื้อรถจะตัดสินใจซื้อภายในสิ้นปี 2558 นี้ ทั้งนี้ ผลชี้ว่ากำลังซื้อจะลดความแรงลงเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 โดยราว 21% วางแผนตัดสินใจซื้อรถในช่วงดังกล่าว ก่อนจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง เมื่อกว่าร้อยละ 27 ระบุจะตัดสินใจซื้อรถในช่วงไตรมาส 2 และอีกร้อยละ 28 จะตัดสินใจซื้อรถในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2558
นายอภิรักษ์ รัตนวิเชียร ผู้อำนวยการงานวิจัยสายธุรกิจยานยนต์ ทีเอ็นเอส ประเทศไทย กล่าวว่า ผลสำรวจพบสัญญาณที่ดีที่ผู้คนเริ่มตัดสินใจใช้จ่ายในการซื้อรถก่อนสิ้นปี อย่างไรก็ตาม รถรุ่นใหม่ๆที่มีการเปิดตัวภายในงานไทยแลนด์อินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์เอ็กซ์โปในเดือนนี้นั้นอาจต้องเผชิญภาวะจากกำลังซื้อที่ลดความแรงลงเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า อย่างไรก็ตาม นโยบายทางด้านราคาและโปรโมชั่นพิเศษจะช่วยสร้างโอกาสการขายและกระตุ้นตลาดได้มากขึ้น
ผลสำรวจยังพบว่า 4 ใน 5 (80%) ของผู้ที่มีโครงการซื้อรถภายใน 1 ปียังคงตัดสินใจซื้อรถตามโครงการที่ตั้งไว้ โดยปัจจัยที่มีอิทธิพลเร่งกระตุ้นการซื้อรถยนต์ได้ดีในช่วงนี้คือข้อเสนอพิเศษทางด้านการเงินอย่าง เงินดาวน์ต่ำพิเศษ และ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อถึงร้อยละ 42 และร้อยละ 38 ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน บริการหลังการขายที่ให้ความคุ้มครองและมอบความสบายใจให้แก่ผู้ซื้อรถเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อรถในกลุ่มผู้วางแผนจะซื้อรถอยู่แล้ว ซึ่งบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงที่และบริการรถทดแทนระหว่างซ่อมบำรุง เป็นสองบริการหลังการขายที่ดึงดูดใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้สูงสุด โดยร้อยละ 54 ให้ความสำคัญกับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และร้อยละ 48 ยอมรับว่าบริการรถทดแทนระหว่างซ่อมบำรุงมีผลต่อการตัดสินใจของตนเอง
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 ผู้บริโภคกลุ่มที่วางแผนซื้อรถยังมีความเชื่อมั่นและทัศนคติเชิงบวก โดยร้อยละ 62 ยังคงมองว่าความเป็นอยู่ส่วนบุคคลจะดีขึ้นเรื่อย ตามมาด้วย ทิศทางการเมือง (59%) เศรษฐกิจ (49%) ภาพลักษณ์ประเทศในมุมมองชาวต่างชาติ (49%) และ โครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม (47%)
นายอภิรักษ์ กล่าวสรุปว่า ผู้บริโภคในอุตสาหกรรมยานยนต์กลุ่มนี้คุ้นเคยและเริ่มปรับตัวกับสถานการณ์ต่างๆได้เร็วขึ้น และหันมาสร้างแรงบันดาลใจส่วนตัวด้วยการเติมเต็มความต้องการครอบครองรถคันใหม่ตามแผนเดิมหากปัจจัยส่วนบุคคลเอื้ออำนวยและมีข้อเสนอที่น่าสนใจ ผลสำรวจยังสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศที่ภาคธุรกิจควรจับตามอง โดยการกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้ในแบรนด์อย่างต่อเนื่องมีบทบาทสำคัญผลักดันให้การตัดสินใจซื้อที่ชะลอตัวกลับคืนมาสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ด้วยการมอบข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้า รวมถึงบริการมาตรการรับรองความมั่นใจให้แก่ลูกค้าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในระยะสั้นได้ดีเกี่ยวกับผลสำรวจ Car Buyer Confidence
การสำรวจ Car Buyer Confidence 2014-2015 จัดทำขึ้นระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน 2557 ด้วยวิธีสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกลุ่มตัวอย่าง 500 คนในหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ที่ระบุว่ามีการหาข้อมูลรถและมีโครงการจะซื้อรถภายใน 1 ปี เกี่ยวกับทีเอ็นเอส
ทีเอ็นเอส เป็นหนึ่งในบริษัทวิจัยชั้นนำระดับโลก ด้วยเครือข่ายสำนักงานในกว่า 80 ประเทศที่มีความเชี่ยวชาญในงานวิจัยทางการตลาดเพื่อให้คำปรึกษาเรื่องกลยุทธ์การเติบโตทางธุรกิจในหลากหลายด้าน อาทิ การขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ การพัฒนานวัตกรรมสินค้า แบรนด์และการสื่อสารการตลาด การพัฒนาความสัมพันธ์ลูกค้าและพนักงานในองค์กร ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมวิจัยและโซลูชั่นด้านการวิจัยที่ได้รับการยอมรับทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจ ทีเอ็นเอส เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทแคนทาร์ (Kantar) ซึ่งเป็นกลุ่มให้คำปรึกษา ข้อมูล และการวิเคราะห์เจาะลึกในเครือ WPP อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับทีเอ็นเอสได้ที่ www.tnsglobal.com
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit