เริ่มต้นสาระบันเทิงบนเวทีด้วยการแสดงในชุด “The Spirit of Giants” การแสดงแสง สี สุดตระการตา กำกับการแสดงโดย นิกร แซ่ตั้ง จากคณะละคร 8x8 คณะละครที่เน้นงานแสดงที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และสังคมมนุษย์ กับเรื่องราวในตำนานของยักษ์วัดแจ้ง ทศกัณฐ์ และสหัสเดชะ กับ ยักษ์วัดโพธิ์ พญาขร และพญาสัทธาสูร ทะเลาะกัน ต่างฝ่ายต่างแสดงอิทธิฤทธิ์เพื่อเอาชนะ จนเมื่อยักษ์วัดแจ้งได้เห็นถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น จึงยอมขอโทษ และสลายกายอันใหญ่โต เพื่อแสดงความสำนึกผิด และผลของการต่อสู้กันทำให้พื้นที่ตรงนั้นเลี่ยนเตียน จึงเป็นที่มาของการเรียกพื้นที่บริเวณนั้นว่า “ท่าเตียน” ซึ่งพื้นที่เลี่ยนเตียนนั้นเปรียบได้กับอัตตา และความโอหังของยักษ์วัดแจ้งที่ได้หมดลงไป ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างวัดแจ้งขึ้นมาใหม่ และยักษ์วัดโพธิ์ก็ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ดูแลชาวบ้านต่อไป บ้านเมืองจึงกลับมามีความสุขอีกครั้ง
ส่วนสตรีทโชว์ในโซน ยักษ์คิ้ว หลิ่วตา YAK Cute ! ก็สามารถเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากผู้ชมมากที่สุด ที่จับยักษ์ตัวเป็นๆ มาเล่าขาน กวนตำนาน ความเชื่อ และความผูกพันระหว่างคนกับยักษ์ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์กับสำนวน อย่างเจ้าชู้ยักษ์ หมายถึงผู้ชายที่เจ้าชู้ขั้นเทพ มีที่มาจากเรื่องรามเกียรติ์ ที่ทศกัณฐ์นั้นมีเมียน้อยเมียใหญ่เต็มไปหมด แต่ก็ยังไปลักพาตัวนางสีดามีอีก, ยักษ์ลักมา ลิงพาไป ที่หมายถึงผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัว หรือเรื่องราวของการสวดภาณยักษ์ ที่ว่ากันว่าเป็นพิธีกรรมสวดปัดเป่าไล่สิ่งชั่วร้าย และเรื่องราวของผีเสื้อสมุทร และตำนานท่าเตียน
นอกจากนี้ผู้มาร่วมงาน “ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม ครั้งที่ 5” ตอนปลุกยักษ์ ยังได้รับฟังข้อคิดดีๆ เพื่อจุดประกายให้ค้นหาแรงบันดาลใจสู่การปลุกยักษ์ในตัวเอง จากแขกรับเชิญที่มาร่วมพูดคุยในงาน อาทิ วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ตัวแทนคนเห็นยักษ์ ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของคนคิดยักษ์จากทั่วโลกที่เขาได้มีโอกาสไปพบเจอ, เก่ง The Voice ธชย ประทุมวรรณ ตัวแทนคนเป็นยักษ์ ศิลปินหนุ่มที่นำความเป็นไทยมาผสมผสานกับความสมัยใหม่ได้อย่างลงตัวที่กล้าสร้างจุดแตกต่างของตนเองในโลกบันเทิง และ จิรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์ ตัวแทน คน Gen ยักษ์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Cheeze ที่จุดกระแสการแต่งตัวแนวสตรีทแฟชั่นให้บูมขึ้นในเมืองไทย
อีกหนึ่งโซนที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน กับโซน คิดอย่างยักษ์ Like a YAK! ที่ให้ผู้ร่วมงานเข้าไปฟังเสียงความคิดอ่านของคนพันธุ์ยักษ์ระดับโลก และพลพรรคยักษา YAK International ! ที่ตื่นตากับสารพัดยักษ์นานาชาติ ที่ทุกคนถ่ายรูปเซลฟี่ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ ไซคลอป ยักษ์ตาเดียวจากกรีก หรือ ทาลอส เจ้ายักษ์ผู้พิทักษ์แห่งเกาะครีต และโอนิ ยักษ์ญี่ปุ่น รวมถึงโซน เซียมซีเสี่ยงยักษ์ YAK Guesstimate ที่ทุกคนต้องแวะเสี่ยงทาย ที่อาจทำให้คุณต้องเซอร์ไพรส์กับคำทำนายที่คุณอาจคาดไม่ถึง อย่างเซียมซีใบที่ 9 “ฮัลค์” เจ้ายักษ์แรงเยอะตัวเขียวปั้ด ผู้ที่ได้ใบนี้ จะได้พลังอันลึกลับ หากใช้ถูกที่ ปล่อยพลังที่มีกับการทำงาน หรือเซียมซีใบที่ 23 “เชร็ค” ยักษ์สีเขียว หากลืมหน้าตาจะได้เห็นภายในที่ดีงาม ที่มีคนรักมากมาย และโซน เป็น..เยี่ยงยักษ์ I am YAK ที่จะเผยให้เห็นเรื่องราวของคนคิดยักษ์ในแต่ละช่วงอายุ และอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สร้างสีสันให้แก่งาน ด้วยการกินแบบยักษ์กับอาหารจานยักษ์ ที่นำมาจัดแสดง และให้ชิมกันในงาน ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้นยักษ์ไจแอนท์ขนาดเท่าชามก๋วยเตี๋ยว, ข้าวมันไก่จานยักษ์ที่พร้อมเสิร์ฟบนจานลายคราม, เย็นตาโฟโบราณชามยักษ์ที่อัดแน่นด้วยซีฟู้ดนานาชนิด, ทอดมันปลากรายไซส์ XXL ขนาดยักษ์ หรือ เฉาก๊วย / หวานเย็นถ้วยยักษ์
ต้องคอยติดตามกันแล้วว่า ในปีหน้า เทศกาล ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม จะจัดงานอะไรให้คนกรุงเทพได้ความรู้ ผ่านกิจกรรมที่สร้างสรรค์ และยังเปิดประสบการณ์ใหม่ของการท่องเที่ยวเรียนรู้พิพิธภัณฑ์ในตอนกลางคืน ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นสบายช่วงเดือนธันวาคม โดยสามารถติดตามกิจกรรมดีๆ เช่นนี้ได้ที่ www.museumsiam.org หรือ facebook.com/museumsiamfan
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit