นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนตู้คอนเทนเนอร์บรรจุเนื้อสุกรชุดปฐมฤกษ์ เพื่อส่งขึ้นเรือไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย ว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเน้นส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าเสรี โดยเฉพาะการเปิดตลาดใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้มากขึ้น กระทรวงเกษตรฯได้เร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการส่งออก การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิต ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า โดยขณะนี้ประเทศไทยพร้อมแล้วที่จะส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังประเทศรัสเซียเพิ่มขึ้น หลังจากที่กรมสัตวแพทย์และสุขอนามัยพืชรัสเซีย (FSVPS) ได้ส่งคณะผู้แทนเดินทางมาตรวจระบบการผลิตสินค้าปศุสัตว์ของไทยเสร็จสิ้นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และผู้แทนทางการรัสเซียยอมรับว่าสินค้าปศุสัตว์ของไทยมีความสะอาด ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย เป็นไปตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับกฎหมายความปลอดภัยด้านอาหารของรัสเซีย และกลุ่มประเทศ Customs Union ส่งผลให้ประเทศไทยสามารถส่งออกสินค้าปศุสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อสุกร ไปยังประเทศรัสเซีย รวมถึงประเทศเบรารุส และคาซัคสถานได้ด้วย
“ขบวนคาราวานตู้คอนเทนเนอร์บรรจุเนื้อสุกรสดชุดปฐมฤกษ์ของการส่งออก ไปยังสหพันธรัฐรัสเซียเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยนี้ ประกอบด้วยเนื้อสุกรแช่แข็ง จำนวน 48 ตัน(สี่หมื่นแปดพันกิโลกรัม) ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการประสานความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนถึงสมาคมต่างๆ ได้แก่ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมสัตวแพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทย และสมาคมผู้ผลิตและแปรรูปสุกรเพื่อการส่งออก เป็นต้น ทำให้ประเทศไทยมีมาตรฐานการควบคุมสินค้าทั้งระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระดับฟาร์มสุกร กระทั่งถึงโรงฆ่าและการแปรรูป” นายปีติพงศ์กล่าวนายสัตวแพทย์
นายสัตวแพทย์อยุทธ์ หรินทรานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “รัสเซียมีความต้องการนำเข้าเนื้อสุกรจากไทยไม่น้อยกว่าเดือนละ 5,000 ตัน จากปริมาณความต้องการสุกรทั้งหมดปีละ 10 ล้านตัว ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะได้ขยายกำลังการผลิตเนื้อสุกรให้มากยิ่งขึ้น และจะส่งผลดีต่อประเทศไทยในด้านการสร้างงาน สร้างรายได้ ตลอดจนนำเงินตราเข้าประเทศ ซึ่งการนำเข้าเนื้อสุกรชุดปฐมฤกษ์จากประเทศไทยในครั้งนี้ ทางการรัสเซียได้ส่ง ดร.ดีมิทรี แพฟ-ลอฟ เป็นผู้แทนสัตวแพทย์รัสเซียเพื่อทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์ในการควบคุมขบวนการผลิตเนื้อสุกรส่งออก ณ โรงฆ่าและแปรรูป นอกจากนี้จากข้อมูลการส่งออกด้านปศุสัตว์ของไทยไปยังรัสเซียในปีที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่ารวมถึง 83.14 ล้านบาท คิดเป็นน้ำหนักส่งออกรวม 1,098.66 ตันจากผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูป, เนื้อไก่แช่แข็ง และเนื้อเป็ดแช่แข็ง”
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ประเทศไทยจะผลิตเนื้อสุกรป้อนสู่ตลาดรัสเซีย และประเทศในเครือ Customs Unoin อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเปิดตลาดใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้มากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต” รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวทิ้งท้าย.