ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,422 คู่สัญญา แบบ 10 บาทอยู่ที่ 5,346 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 15.1 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 8.3% GFZ14 ปิด 18,820 บาท และ GFG14 ปิด 18,980 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,840 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,930 บาท
สัญญา Comex ลดลง 13.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,194.3 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 55.93 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 721.56 ตัน ( ขายออก 1.8 ตัน)
ข่าวที่สำคัญ
-เมื่อคืนนี้ทองคำได้รับแรงหนุนค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าขึ้นกว่า 2% หลังสหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ จึงช่วยให้ราคากลับมายืนเหนือ 1,200 เหรียญได้อีกครั้ง ก่อนจะกลับหลุดลงมาเพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าการร่วงลงอย่างหนักของค่าเงินรูเบิล จะส่งผลให้รัสเซียลดการสำรองทองคำ ขณะนักลงทุนเริ่มชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุมเฟดในคืนนี้
-นักวิเคราะห์ ระบุว่า จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงกว่า 41% ในปีนี้ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรัสเซีย และทำให้ธนาคารกลางรัสเซียได้อัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากเพื่อยับยั้งการร่วงลงของค่าเงินรูเบิล แต่การกระทำดังกล่าวอาจจะไม่เพียงพอ และอาจส่งผลให้รัสเซียจำเป็นต้องขายทองคำที่สำรองไว้เพื่อบรรเทาการตกของค่าเงินรูเบิล
-ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2486 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2435 ยูโร/ดอลลาร์ และในเช้านี้ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่องสู่ระดับ 1.2505 ยูโร/ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากการเข้าทำกำไรของนักลงทุนก่อนทราบผลการประชุมเฟดในคืนนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาในเชิงลบ
-นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด หลังสิ้นสุดการประชุมในคืนนี้ เพื่อประเมินความชัดเจนเกี่ยวกับกรอบเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงอาจส่งผลให้นักลงทุนในตลาดต่างๆทำการเทขายทำกำไร ก่อนจะทราบถ้อยแถลงดังกล่าว
-เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียจะประกาศใช้นโยบายควบคุมเงินลงทุน เพื่อผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุนและช่วยหยุดยั้งการร่วงลงของค่าเงินรูเบิล หลังจากที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุด 17% ที่มีผลบังคับใช้ในวันนี้ ไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ โดยค่าเงินรูเบิลยังคงปรับตัวลดลงอย่างหนักกว่า 19% สู่ระดับ 80.10 รูเบิล/ดอลลาร์
-ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 60 เหรียญ/บาร์เรลอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ คาดการณ์ว่า กนง. จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.75% จากระดับ 2.0% เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจขณะนี้มีการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนวันอังคาร
-Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.09 M ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 1.04 M
-Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.05 M ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 1.03 M
-Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 54.8 ตัวเลขจริงที่ออกมาอยู่ที่ระดับ 53.7
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้
CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0 % ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.1 %
Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1%
Federal Funds Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.25 % ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.25%
FOMC Press Conference
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเมื่อวานค่อนข้างมีความผันผวนมาก โดยที่ราคาเปิดตลาดบริเวณ 1,193-1,195 เหรียญ และค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นเหนือบริเวณ 1,200 เหรียญ และไปทำจุดสูงสุดที่ระดับประมาณ 1,220 เหรียญ และก็ค่อยๆปรับตัวลดลง โดยที่ความผันผวนยังคงไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่น่าจะมาจากความตึงเครียดทางซีเรีย และจากสถานการณ์ในรัสเซียที่ค่าเงินรูเบิลอ่อนค่าอย่างมาก อาจทำให้จีดีพีปรับตกอย่างรุนแรง จากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอทำให้รัสเซียต้องปรับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 17% และมีแหล่งข่าวรายงานว่าสถานการณ์ทางการเงินขณะนี้อาจทำให้รัสเซียต้องเทขายทองคำที่สำรองไว้ออกมา จากกระแสข่าวดังกล่าวทำให้ราคามีความผันผวนเคลื่อนไหวรวดเร็วรุนแรงค่อนข้างมาก ขณะที่ SPDR เทขายทองคำออก 1.80 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 721.56 ตัน สำหรับที่ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ CPI และ Core CPI ที่คาดว่าจะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี ตลาดให้ความสำคัญไปยังถ้อยแถลงของ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดที่จะแถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมในค่ำคืนนี้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาทางการเงินของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำในระยะสั้นมีความผันผวนค่อนข้างมาก และยังเป็นการเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways ค่อนข้างไปในทาง Sideway Down หลังจากที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,200 เหรียญ ขณะที่ระยะกลางและยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
สำหรับภาพรวมการลงทุนน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,185 – 1,210 เหรียญ ยังมองเป็นแนวโน้มทิศทางขาลงมากกว่า และแนะนำให้รักษาพอร์ตให้เหมาะสมจากการแกว่งของตลาดที่ค่อนข้างมาก ไม่ทำการLeverage จนเกินไปนัก
ทำกำไรระยะสั้นตามกรอบ
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
แนะนำให้ปรับพอร์ตให้สมดุล เนื่องจากสภาพตลาดมีความผันผวน ไม่พยายามถือสถานะ Long โดยหาจังหวะปิดสถานะเมื่อราคาดีดตัว และควรใช้ Leverage ไม่เกิน 2 เท่า ขณะที่ภาพหลักระยะยาวยังคงเป็นทิศทางขาลง
Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,720 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,920 บาท
Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,080 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ประชาสัมพันธ์:
1. MTS นำเสนอโปรแกรมการเทรด TFEX อัจฉริยะรูปแบบใหม่ Meta Trader 4 ใช้งานง่าย สะดวกรวดเร็ว มีกลยุทธ์พร้อมใช้งานแบบ Real Time และรองรับ Smart Phone ทั้ง Android และ iOS สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MTS Call Center: 02 770 7777
2. HOT Line: “MTS E-Business 02-770-7791”
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดด้านการลงทุนผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ทั้งระบบ Gold Online และGold Futures ได้ตั้งแต่เวลา 09.00-24.00น.
MTS Research
MTS Gold Group
Phone: 02-770-7777
Fax: 02-623-9366
Email: [email protected]
Website: http://www.mtsgold.co.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit