นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยได้รับใบอนุญาตให้การดำเนินธุรกิจในสปป. ลาวอย่างเป็นทางการในรูปแบบธนาคารท้องถิ่น จึงเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่สามารถทำธุรกิจได้เต็มรูปแบบ พร้อมมุ่งเน้นการยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) รวมทั้งขยายเครือข่ายธุรกิจในรูปแบบสาขา บริการอิเล็กทรอนิกส์ แบงกิ้งการแบ่งกลุ่มลูกค้าทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลเป็นเซ็กเม้นท์
สำหรับการเปิดดำเนินการในสปป.ลาว ธนาคารจะให้บริการแก่ลูกค้า ทั้งบริการทางการเงิน (Financial Service) และที่ไม่ใช่บริการทางการเงิน (Non-Financial Service) ทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในสปป.ลาวและลูกค้าบุคคล เน้นลูกค้าลาวที่มีรายได้และสินทรัพย์สูง (High Net Worth, Affluence) ด้วยบริการสินเชื่อธุรกิจบริการเงินฝากทั้งสกุลลาวกีบ ไทยบาท และดอลล่าร์สหรัฐ บริการเพื่อธุรกิจนำเข้าและส่งออกรวมถึงบริการโอนเงินระหว่างประเทศและในประเทศ อีกทั้งบริการ THE WISDOM ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้ง 2 ด้านของลูกค้า ทั้งบริการทางการเงินเหนือระดับและสิทธิพิเศษทางด้าน Lifestyle เช่น ประสบการณ์ระดับ VIP กับศูนย์บริการ THE WISDOM ธนาคารกสิกรไทยเละศูนย์บริการตู้นิรภัยมาตรฐานระดับโลก เป็นต้น นอกจากนี้ธนาคารยังมีบริการให้คำปรึกษาด้านการค้าการลงทุนการให้บริการด้านข้อมูลเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม กฎระเบียบการลงทุนในสปป.ลาวอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าส่วนหนึ่งมีความคุ้นเคยในการใช้บริการธนาคารกสิกรไทย โดยการข้ามแดนมาใช้บริการที่สาขาหนองคาย อุบลราชธานี อุดรธานี อยู่แล้วดังนั้นการเปิดให้บริการในประเทศลาวจะช่วยเพิ่มโอกาสในการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าลาวทั้งในกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่เป็นบริษัทและลูกค้าบุคคลผ่านผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ได้มากขึ้น
ธนาคารกสิกรไทย ได้ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในปี 2558 เป็นยอดสินเชื่อประมาณ 250 ตื้อกีบ (1,000 ล้านบาท) ยอดเงินฝาก 75 ตื้อกีบ (300 ล้านบาท) พร้อมวางแผนจะขยายเครือข่ายการให้บริการลูกค้าด้วยการเปิดสาขาในสปป.ลาวในปี 2559 อีก 1 สาขา
ธนาคารกสิกรไทยมองว่าสปป.ลาวเป็นประเทศที่มีศักยภาพและแนวโน้มการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี ที่ผ่านมามีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจระดับ 7-9% โดยในปี 2556 มีการเติบโตของจีดีพีถึง 8.1% เท่ากับ 11,141ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน นอกจากนี้ ที่ตั้งของลาวยังเป็นศูนย์กลางภูมิภาคคล้ายประเทศไทย โดยมีพรมแดนติดกับประเทศขนาดใหญ่ทั้งจีน เวียดนาม พม่า กัมพูชา และเป็นประเทศเพื่อนบ้านซึ่งมีพรมแดนติดกับภาคเหนือและภาคอีสานของไทย ทำให้ สปป.ลาว เป็นคู่ค้าลำดับที่ 22 ของไทย และเป็นคู่ค้าลำดับที่7 ในกลุ่มประเทศเออีซี โดยการค้าชายแดนจะเป็นช่องทางสำคัญที่มีศักยภาพเติบโตสูงและยังมีโอกาสขยายตัวมากขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจและการเปิดตลาดก้าวสู่เออีซี อีกทั้ง สปป. ลาว ยังถูกขนานนามว่าเป็น Battery ของเอเชีย เนื่องจากเป็นประเทศที่ส่งออกพลังงานไฟฟ้าให้เก่ประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งประเทศไทย ปัจจุบันการค้าขายผ่านชายแดนไทย-ลาวมีมูลค่าราว 32500 ตื้อกีบ (130,000 ล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศ อีกทั้งไทยเยงป็นประเทศที่ลงทุนโดยตรงในลาวมากที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและเวียดนาม
นายปรีดี กล่าวในตอนท้ายว่า หนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญประการหนึ่งของธนาคารกสิกรไทยคือการขยายธุรกิจและเครือข่ายการให้บริการในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน+3 เพื่อรองรับต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้าในการใช้บริการทางการเงินสำหรับธุรกิจต่างประเทศ โดยในปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีเครือข่ายการบริการในต่างประเทศจำนวน 14แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ประจำ สปป.ลาว สาขาลอสแองเจลิส สาขาฮ่องกง สาขาหมู่เกาะเคย์แมน สาขาเซินเจิ้น สาขาเฉิงตู สาขาย่อยหลงกั่ง สำนักงานผู้แทนกรุงปักกิ่ง สำนักงานผู้แทนนครเซี่ยงไฮ้ สำนักงานผู้แทนเมืองคุนหมิง สำนักผู้แทนงานกรุงโตเกียว และสำนักงานผู้แทนกรุงย่างกุ้ง สำนักงานผู้แทนฮานอยสำนักงานผู้แทนโฮจิมินห์ และกำลังอยู่ในระหว่างจัดตั้งสาขาพนมเปญและสำนักงานผู้แทนจาการ์ตา
บรรยายภาพ: นายปรีดี ดาวฉาย (กลาง) กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย และ ฯพณฯ ดร.สมพาว ไฟสิด (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ว่าการธนาคารแห่งสปป.ลาว ร่วมเปิดธนาคารกสิกรไทยใน สปป.ลาว ซึ่งถือเป็นธนาคารท้องถิ่นจดทะเบียนไทยเต็มรูปแบบแห่งแรกที่ได้รับการจดทะเบียนในลาว ตั้งเป้าเพิ่มการขยายเครือข่ายธุรกิจทั้งในรูปแบบสาขาและอี-แบงกิ้งตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจและลูกค้าบุคคลผ่านผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุม โดยมี ฯพณฯ พิษณุ จันทร์วิทัน (ที่ 2 จากขวา) เอกอัครราชทูตไทยประจำสปป.ลาว ให้เกียรติร่วมงาน ณ ธนาคารกสิกรไทย กรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เมื่อเร็วๆ นี้
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit