นายไตรภพ บุญเหมือน ประธานกลุ่มการค้า บริษัท แม็กซ์เท็กซ์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงคุณภาพข้าวยี่ห้อ Max Sort แบรนด์ไทย และเครื่องจักรอุปกรณ์โรงสีครบวงจร กล่าวว่าจากที่สมาคมโรงสีเมียนมาร์ ได้เดินทางมาศึกษาและดูงานระบบโรงสีข้าวในประเทศไทยและเครื่องจักรของบริษัทแม็กซ์เท็กซ์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งนายอู ทิน วิน นายกสมาคมโรงสีเมียนมาร์รู้สึกทึ่งกับเทคโนโลยีของแม็กซ์เท็กซ์ ที่ไม่ด้อยกว่าเครื่องจักรต่างชาติที่โรงสีเมียนมาร์ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหากเปรียบเทียบคุณภาพและราคาเครื่องจักรของแม็กซ์เท็กซ์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจแก่สมาชิกที่เดินทางมาดูงานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
“ปัจจุบันในประเทศเมียนมาร์มีกฎหมายที่กำหนดให้ทุกโรงสีในประเทศต้องเป็นสมาชิกของสมาคมโรงสี และมีจำนวนสมาชิกมีไม่ต่ำกว่า 10,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ทุกโรงสีจะใช้เครื่องจักรสีข้าวแต่เดิมมานานแล้ว แต่เนื่องจากเทคโนโลยีในการสีข้าวในปัจจุบันมีการพัฒนาไปมาก มีจำนวนสมาชิกไม่น้อยที่เริ่มเปลี่ยนเครื่องจักรโรงสีข้าวเป็นเครื่องจักรสัญชาติยุโรปและจีน และจากการเดินทางมาดูงานที่บริษัทแม็กซ์เท็กซ์ในครั้งนี้ คณะสมาคมโรงสีเมียนมาร์มีความมั่นใจที่จะใช้เครื่องจักรของแม็กซ์เท็กซ์ในอนาคตแน่นอน” นายไตรภพ กล่าว
นายไตรภพ กล่าวต่อไปว่า แม็กซ์เท็กซ์มีแผนจัดตั้งบริษัทที่เมียนมาร์ ในปี 2558 ซึ่งแม็กซ์เท็กซ์ยินดีที่เข้าไปให้คำแนะนำเพื่อช่วยพัฒนาสายการผลิตในประเทศเมียนมาร์ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาทางด้านการเงินและการลงทุนให้กับผู้ประกอบการโรงสีเมียนมาร์ให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อไป ซึ่งนายอู ทิน วิน มีความยินดีและจะช่วยเหลือแม็กซ์เท็กซ์ทั้งด้านข้อมูลและประชาสัมพันธ์บริษัทแม็กซ์เท็กซ์อย่างเต็มที่ หากแม็กซ์เท็กซ์เข้าไปดำเนินกิจการในเมียนมาร์
นายอู ทิน วิน นายกสมาคมโรงสีข้าวเมียนมาร์ กล่าวว่า จากการที่คณะสมาคมโรงสีเมียนมาร์ได้เดินทางมาดูการทำธุรกิจโรงสีข้าวในประเทศไทย พร้อมทั้งได้เดินทางเข้าเยี่ยมชมเครื่องจักรของบริษัท แม็กซ์เท็กซ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องจักรโรงสีข้าวครบวงจร สัญชาติไทย ทั้งนี้ก่อนเดินทางมาดูงานตนเองยอมรับอยู่แล้วว่าระบบโรงสีและเครื่องจักรของเมียนมาร์ยังล้าหลังประเทศไทย แต่ไม่คิดว่าเครื่องจักรของแม็กซ์เท็กซ์ จะมีเทคโนโลยีที่ไม่เป็นรองเครื่องจักรสัญชาติยุโรปและจีน ที่เป็นผู้นำในเครื่องจักรโรงสีเมียนมาร์ในปัจจุบัน
“แต่เนื่องจากเจ้าของโรงสีข้าวในประเทศเมียนมาร์มักจะซื้อเครื่องจักรด้วยเงินสดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจจะทำให้เป็นการยากที่จะซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าสูงได้ แต่หากในปี 2558 ที่มีการเปิดเศรษฐกิจประชาคมอาเซียนหรือเออีซี ธนาคารที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไทย ที่ไปเปิดทำธุรกิจในเมียนมาร์ มีการปล่อยสินเชื่อในด้านนี้มากขึ้น ตนเองมั่นใจว่าเครื่องจักรของแม็กซ์เท็กซ์จะก้าวขึ้นไปผู้นำด้านเครื่องจักรและโรงสีข้าวในประเทศเมียนมาร์ได้อย่างแน่นอน” นายอู ทิน วิน กล่าวทิ้งท้าย
ในช่วงพ.ศ. 2554-2555 ประเทศเมียนมาร์มีการปลูกข้าวนาปีคิดเป็นพื้นที่ 6.72 ล้านไร่ และข้าวนาปรัง 1.96 ล้านไร่ สามารถผลิตข้าวเปลือกนาปีได้เป็นปริมาณ 24.1 ล้านตัน และข้าวเปลือกนาปรัง 4.9 ล้านตัน โดยปัจจุบัน เมียนมาร์มีจำนวนโรงสีที่มีกำลังการสีข้าวเปลือกสูงกว่า 15 ตันต่อวัน จำนวน 1,362 โรง และต่ำกว่า 15 ตันต่อวัน จำนวน 15,472 โรง สามารถผลิตข้าวได้ 16.1 ล้านตันต่อปี หรือประมาณร้อยละ 60 ของปริมาณข้าวเปลือก ในด้านการบริโภคข้าวภายในประเทศ เมียนมาร์มีประชากรประมาณ 52 ล้านคน มีการบริโภคข้าว 10.4 ล้านตันต่อปี และการบริโภคข้าวในรูปแบบอื่น ๆ (รวมถึงขนมขบเคี้ยว) 3 ล้านตันต่อปี รวมการบริโภคข้าวทั้งสิ้น 13.4 ล้านตันต่อปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit