สศอ. เผยปริมาณนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนภายใต้ความตกลง JTEPA ปี 2558 ได้โควตารวม 530,000 ตัน ลดลงจากปี 2557 คาดทบทวนปริมาณนำเข้าฯ อีกครั้งกลางปีหน้า

25 Dec 2014
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารการนำเข้าสินค้าหมวดเหล็กและเหล็กกล้าที่มีโควตาตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) เพื่อพิจารณากำหนดปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับปี 2558 มีปริมาณรวม 530,000 ตัน ลดลงจากปี 2557 เหตุภาครัฐต้องการเน้นให้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กภายในประเทศ รวมทั้งกำลังการผลิตเหล็กในประเทศยังเหลืออยู่จำนวนมาก และบางผลิตภัณฑ์ไม่จำเป็นต้องใช้เหล็กนำเข้า
สศอ. เผยปริมาณนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนภายใต้ความตกลง JTEPA ปี 2558 ได้โควตารวม 530,000 ตัน ลดลงจากปี 2557 คาดทบทวนปริมาณนำเข้าฯ อีกครั้งกลางปีหน้า

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารการนำเข้าสินค้าหมวดเหล็กและเหล็กกล้าที่มีโควตาตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ณ กรมการค้าต่างประเทศ โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมร่วมเป็นกรรมการและเป็นผู้แทนฝ่ายไทยเจรจากับฝ่ายญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2557 ว่า ในการประชุมมีการพิจารณากำหนดปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับปี 2558 ซึ่งภายใต้ความตกลงฯ ไทยจะยกเว้นภาษีศุลกากรในบางพิกัดเป็นระยะเวลา 10 ปี (ปี 2550-2559) โดยเหล็กแผ่นรีดร้อนเหล่านี้จะใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมท่อเหล็ก อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ การประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการบริหารการนำเข้าฯ ได้พิจารณากำหนดโควตาโดยคำนึงถึงเจตนารมณ์ของ ความตกลง JTEPA ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดสมดุลใน 4 ด้าน คือ (1) การสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กในประเทศไทย (2) การสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมการผลิต “ผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้เหล็กแผ่นที่มีคุณสมบัติเฉพาะจากญี่ปุ่น” ในประเทศไทย (3) การนำเข้าเหล็กจากประเทศญี่ปุ่น และ (4) การได้รับ ความร่วมมือจากผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กของญี่ปุ่นในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กไทย

จากประเด็นเหล่านี้ทำให้ปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับปี 2558 ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากภาครัฐต้องการจะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องได้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศยังมีกำลังการผลิตเหลืออยู่เป็นจำนวนมากและผลิตภัณฑ์บางชนิดไม่จำเป็นต้องใช้เหล็กที่นำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ภาครัฐยังต้องการให้ปริมาณโควตานำเข้าสมดุลกับ การดำเนินโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการของฝ่ายญี่ปุ่นในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กไทยในช่วง 7 ปี ที่ผ่านมาอาจกล่าวได้ว่าความร่วมมือในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กของไทยนั้นยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งผลจาก

การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารการนำเข้าสินค้าหมวดเหล็กและเหล็กกล้าที่มีโควตาตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น มีดังนี้

1. เหล็กแผ่นรีดร้อนกัดกรดเคลือบน้ำมัน (Q9) ปริมาณ 210,000 ตัน

2. เหล็กแผ่นรีดร้อนหน้ากว้างสำหรับนำไปรีดเย็นต่อ (ที่มีส่วนผสมของคาร์บอนน้อยกว่า 0.01%) (Q10) ปริมาณ 150,000 ตัน

3. เหล็กแผ่นรีดร้อนหน้ากว้างสำหรับนำไปรีดเย็นต่อเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ (ที่มีส่วนผสมของคาร์บอน 0.01-0.1 %) (Q11) ปริมาณ 170,000 ตัน

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารการนำเข้าสินค้าหมวดเหล็กและเหล็กกล้าที่มีโควตาตามความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น จะมีการทบทวนปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับปี 2558 อีกครั้งในราวเดือนมิถุนายน 2558 เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการและสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไป