วี-กัลลิเวอร์ เปิดสาขาที่ 3 กัลลิเวอร์ นวิมินทร์

31 Oct 2014
กัลลิเวอร์ ปลื้ม แฟรนไชส์จากญี่ปุ่น ร่วมรุกตลาดรถมือสองในประเทศไทย
วี-กัลลิเวอร์ เปิดสาขาที่ 3 กัลลิเวอร์ นวิมินทร์
  • ร่วมกับกัลลิเวอร์นำความทันสมัยสู่ตลาดรถมือสองในประเทศไทย
  • พันธมิตรญี่ปุ่นเชื่อมั่นจะนำความสำเร็จจากญี่ปุ่นสู่ประเทศไทย

บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายธุรกิจรถมือสองอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าเปิดสาขาที่ 3 กัลลิเวอร์นวมินทร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายเครือข่ายและสร้างความแข็งแกร่งในด้านเครือข่ายจำหน่ายและการให้บริการของบริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัดในประเทศไทย

มร.คัทสึชิ โนมูระ กรรมการผู้จัดการบริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่าสาขาที่ 3 คือกัลลิเวอร์ นวมินทร์ ตั้งอยู่ในโครงการนวปาร์ค (บริหารและลงทุนโดยบริษัทที่ถือแฟรนไชส์กัลลิเวอร์จากประเทศญี่ปุน ภายใต้การกำกับโดยบริษัท วี-กัลลิเวอร์) ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายกัลลิเวอร์ในประเทศไทยเพื่อการยกระดับคุณภาพของตลาดรถมือสองในประเทศไทยให้ทันสมัย ซึ่งภายใต้แผนการขยายงานของวี-กัลลิเวอร์ ภายในปีนี้ จะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3 สาขาได้แก่กัลลิเวอร์ เชียงใหม่ กัลลิเวอร์สมุทรปราการและกัลลิเวอร์สุราษฎร์ธานี

“เมื่อถึงเวลานั้น เราน่าจะเริ่มเดินหน้าโครงการสต็อคร่วมระหว่างโชว์รูมต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีความหมายว่าลูกค้าที่จังหวัดเชียงใหม่จะสามารถซื้อรถที่เขาถูกใจจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือจากสาขาในกรุงเทพมหานครได้ ในทางตรงกันข้าม ผู้ซื้อรถจากจังหวัดอื่น ๆ ก็จะสามารถเลือกซื้อรถที่ถูกใจจากจังหวัดเชียงใหม่ได้เช่นกัน” มร. โนมูระ กล่าว

กัลลิเวอร์ นวมินทร์ ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ โดยโชว์รูมแห่งนี้ ถือเป็นการลงทุนโดยตรงจากแฟรนไชส์กัลลิเวอร์จากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 9 ล้านบาทในสิ่งก่อสร้างและ 7 ล้านบาทในสต็อครถยนต์ โดยสาขานี้จะมีพื้นที่จอดโชว์รถทั้งสิ้น 30 คัน

บริษัทที่ลงทุนสาขาที่ 3 นี้ เป็นพันธมิตรของกัลลิเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มนี้ จำหน่ายรถมือสองที่ประเทศญี่ปุ่นภายใต้ยี่ห้อ “กัลลิเวอร์” มาเป็นเวลา 18 ปี โดยแต่ละปี กลุ่มนี้มียอดขายรถมือสองที่ประเทศญี่ปุ่นประมาณ 100 คัน และรับซื้อรถเข้าประมาณ 350 คัน

มร. โนมูระ กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้ บริษัท วี-กัลลิเวอร์ ได้รับการติดต่อจากผู้ที่สนใจจะร่วมเป็นพันธมิตรกับ บริษัทฯ หลายรายจากกลุ่มเช่าซื้อรถยนต์ ผู้ประกอบการเต็นท์รถอิสระ หรือแม้แต่นักธุรกิจนอกวงการที่มีความสนใจจะเข้าสู่วงการค้ารถมือสองในรูปแบบของแฟรนไชส์กัลลิเวอร์ โดยผู้สนใจทั่วไปสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมกับบริษัทฯ ได้ที่เลขหมาย 02-645-0530

“แต่ผมก็ต้องยอมรับความจริงว่าระบบแฟรนไชส์สำหรับธุรกิจค้ารถมือสองในประเทศไทยนั้น ถือว่าใหม่มากและเราเองก็จะต้องใช้เวลาในการให้ความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์รถมือสองว่าประเทศไทยถึงเวลาแล้วที่จะต้องสร้างความทันสมัยให้กับตลาดรถมือสอง ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ เราเคยเจอมาแล้วในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว” มร. โนมูระ กล่าว

กัลลิเวอร์ มีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าตลาดรถมือสองในประเทศไทยมีศักยภาพสูงที่จะเติบโต ทั้งนี้เพราะจากตัวเลขของเจโทร ที่ได้รายงานว่าครัวเรือนในประเทศไทยที่มีรถใช้ประจำบ้านในปี พ.ศ. 2553 มีเพียง 13.8% ของครัวเรือนทั้งประเทศ เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขเดียวกันในประเทศญี่ปุ่นที่มีตัวเลขสูงถึง 86.5% ขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทยได้คลี่คลายไปมากแล้ว จึงถือเป็นช่วงเวลาที่คนไทยจะเริ่มหันกลับมาซื้อสินค้าคงทนที่มีราคาสูงอีกครั้งหนึ่ง

กัลลิเวอร์ ก่อตั้งมากว่า 2 ทศวรรษในประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบัน กัลลิเวอร์ ถือเป็นผู้ให้บริการรถมือสองที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยมีสาขาอยู่ 430 สาขากระจายทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในแต่ละปี กัลลิเวอร์จะมีการซื้อรถเข้าสู่ระบบประมาณ 200,000 คัน และขายโดยตรงไปถึงผู้บริโภคปีละประมาณ 60,000 คันผ่าน 430 สาขา ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 140,000 คัน จะขายผ่านระบบการประมูล

บริษัท วี-กัลลิเวอร์ จำกัด มีความมั่นใจต่อแบรนด์ของกัลลิเวอร์ว่าจะเป็นที่ยอมรับในตลาดประเทศไทยอีกไม่นาน ทั้งนี้เพราะกัลลิเวอร์จะนำความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงตลาดรถมือสองไปสู่ความทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่นมาสู่สังคมไทย ซึ่งหมายถึงหัวใจของการให้บริการที่ดี พร้อมกับความรับผิดชอบต่อรถที่จำหน่ายออกไป โดยจะมีระบบการรับประกันความพึงพอใจของลูกค้าที่บริษัทฯ พร้อมจะซื้อคืนในราคาเดิมภายใน 30 วันหรือ 5,000 กิโลเมตร รวมไปถึงการรับประกันมาตรฐาน 6 เดือนหรือ 10,000 กิโลเมตร พร้อมด้วยเงื่อนไขการรับประกันพิเศษตั้งแต่ 1 – 3 ปี แล้วแต่สภาพและอายุของรถ

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit