อซิส บาการ์ ผู้อำนวยการกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย โรนัลด์ เค. โนเบิล เลขาธิการองค์กรตำรวจสากล INTERPOLและดร.อาหมัด ซาฮิด ฮามิดิ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของ มาเลเซีย ได้เข้าพิธีร่วมลงนามเพื่อตอกย้ำความร่วมมือดังกล่าวในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ INTERPOL ครั้งที่ 83 ณ ราชรัฐโมนาโก
กลุ่มสายการบินแอร์เอเชียและ INTERPOL ได้ริเริ่มทดลองใช้ระบบ I-Checkit ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557 ซึ่งได้ผลที่ค่อนข้างน่าพอใจ ตั้งแต่การทดลองใช้ระบบที่ผ่านมา ผู้โดยสารกว่า 6 ล้านคนของแอร์เอเชียได้รับการตรวจสอบหนังสือเดินทางผ่านระบบเทียบเคียงฐานข้อมูล SLTD และพบข้อมูลราว 55 รายที่ตรงกับฐานข้อมูลดังกล่าว และหลังจากได้มีการดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานและหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองสามารถตรวจจับและระงับการเดินทางได้ทั้งสิ้น 18 คน
อะซิส บาการ์ ผู้อำนวยการแอร์เอเชีย เบอร์ฮัด (แอร์เอเชีย มาเลเซีย) กล่าวว่า เรามีความภาคภูมิใจที่เป็นสายการบินแรกที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานระดับโลกอย่าง INTERPOL ในการนำร่องใช้ระบบ I-Checkit และมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบถึงการขยายความร่วมมือกับ INTERPOL และการได้เป็นส่วนหนึ่งในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีขององค์กรตำรวจโลก INTERPOL ในปีนี้ ณ ราชรัฐโมนาโก ภายใต้แนวคิด Turn Back Crime : 100 years of international police cooperation (ย้อนอดีตอาชญากรรม: 100 ปีแห่งความร่วมมือของตำรวจสากล)
ด้านโทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแอร์เอเชีย กล่าวว่า “เราอยากจะของคุณ INTERPOL ที่ให้โอกาสพิเศษกับแอร์เอเชียในการนำระบบ I-Checkit มานำร่องใช้ ระบบนี้มีส่วนช่วยอย่างมากในการยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร เราหวังว่าจะได้พัฒนาความร่วมมือกับ INTERPOL ต่อไปอีก พร้อมกับขยายเครือข่ายเส้นทางบินไปในหลายประเทศมากขึ้น
หนึ่งในกิจกรรมที่ถ่ายทอดความเป็นพันธมิตรอันดีกับ INTERPOL ได้แก่การเพนท์เครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 320 เป็นลายพิเศษ เพื่อใช้ในการรณรงค์โครงการ Turn Back Crime ซึ่งเครื่องบินลำดังกล่าวได้เดินทางสู่ท่าอากาศยานเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของ INTERPOL จะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3พฤศจิกายน 2557
เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียได้ถูกออกแบบลายขึ้นเป็นพิเศษเพื่อสร้างความตระหนักในระดับนานาชาติ ภายใต้แนวคิดของหน่วยงาน INTERPOL เพื่อมุ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือกันของหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายตลอดจนหน่วยงานสาธารณะและเอกชนต่างๆ ในการต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อสังคมโลกที่สงบสุขยิ่งขึ้น
โทนี่ เฟอร์นันเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสายการบินแอร์เอเชีย กล่าวว่า “เครื่องบินของเราเป็นลายพิเศษลำนี้จะถูกนำไปให้บริการในเส้นทางบินของแอร์เอเชียกว่า 23 ประเทศและส่งต่อข้อความเพื่อรณรงค์โครงการดังกล่าว อีกทั้งยังตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญที่เรามีให้ต่อมาตราการความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร เราหวังว่าความร่วมมือนี้นี่จะถือเป็นจุดเริ่มต้นอันดีในการสร้างมาตราฐานในแวดวงอุตสาหกรรมการบิน”
ด้านโรนัลด์ เค. โนเบิล เลขาธิการองค์กรตำรวจสากล INTERPOL กล่าวว่า แอร์เอเชียได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอันดีต่อการป้องกันและต่อสู้กับอาชญากรรมและการเสริมสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารผ่านการนำร่องเป็นสายการบินแรกที่ใช้ระบบ I-Checkit ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นการช่วยเผยแพร่และส่งสารต่อสาธารณะให้ตระหนักถึงบทบาทว่าสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและต่อสู้กับอาชญากรรมได้ นอกจากนั้น โครงการ Turn Back Crime ยังช่วยกระตุ้นให้สาธารณะนั้นได้ตระหนักและป้องกันตัวเองจากอาชญากรรมและการก่อการร้ายอีกด้วย
ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปสามารถร่วมรณรงค์และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ได้ผ่านการช่วยแบ่งปันรูปถ่ายของเครื่องบินลำนี้พร้อม hashtag #airasia #TurnBackCrime #INTERPOL @turnbackcrime @INTERPOL_HQ และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เว็บไซต์ (www.turnbackcrime.com), Facebook (www.facebook.com/turnback.crime), Twitter (twitter.com/TurnBackCrime) และ Instagram (instagram.com/turnbackcrime)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit