ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงาน ในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น ๘ อาคารใหม่ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ สะพานขาว กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากกรณีเด็กหญิงอายุ ๑๕ ปี ยอดกตัญญูสู้ชีวิต ฐานะยากจน หารายได้เลี้ยงดูมารดา อายุ ๔๐ปี ที่ป่วยเป็นโรคทางสมอง กล้ามเนื้ออ่อนแรง หูหนวก และดูแลยาย อายุ ๗๕ ปี ป่วยเป็นอัมพาต พิการตาบอดทั้งสองข้าง ที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจากกรณีดังกล่าวตนได้กำชับเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยภูมิ (สนง.พมจ.ชัยภูมิ) ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเร่งช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือเด็กเพื่อให้เด็กได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องและดูแลด้านการรักษาพยาบาลแม่และยายของเด็กในระยะยาว ส่วนกรณีพบเด็กชายอายุ ๕ ขวบ ป่วยด้วยโรคประหลาดตั้งแต่กำเนิด คล้ายเด็กดักแด้ ผิวหนังเป็นสีดำคล้ำ ตกสะเก็ดเป็นแผ่น ทั่วทั้งตัวและมีเลือดไหล อยู่กับมารดา อายุ ๓๑ ปี ถูกเลิกจ้างงาน ไม่มีรายได้ ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ จากกรณีดังกล่าวตนได้สั่งการให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ (สนง.พมจ.อุตรดิตถ์) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลด้านการรักษาพยาบาลเด็กชายดังกล่าว รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้แม่เด็กได้ประกอบอาชีพมีรายได้ดูแลตนเองและลูกต่อไป
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมครั้งนี้ ยังมีการรายงานผลการจัดระเบียบคนขอทานในพื้นที่กรุงเทพฯ รอบที่ ๒ ครบ ๗ วัน ระหว่างวันที่ ๑๙- ๒๕ พ.ย. ๕๗ พบขอทานที่เข้าสู่กระบวนการจัดระเบียบคนขอทานจำนวนทั้งสิ้น ๑๙๑ คน แบ่งเป็นชาย ๙๘ คน เป็นหญิง ๖๙ คน เป็นเด็กชาย ๑๓ คน และเป็นเด็กหญิง ๑๑ คน โดยเป็นขอทานคนไทยจำนวน ๙๔ คน เป็นขอทานต่างด้าวจำนวน ๙๗ คน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีขอทานที่เป็นคู่แม่ลูกจำนวน ๒๐ คู่ โดยอยู่ในขั้นตอนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ความเป็นแม่ลูก ทั้งนี้ ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งขยายผลการจัดระเบียบคนขอทานไปยังต่างจังหวัดต่อไป
“นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการรายงานผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ ๒๕ พ.ย. ๕๗ ที่ผ่านมา ซึ่งครม. มีมติอนุมัติเพิ่มอัตราเบี้ยความพิการให้แก่ผู้พิการ จากเดิม ๕๐๐ บาท เป็น ๘๐๐ บาท มีผลตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๘ เป็นต้นไป โดยมีคนพิการที่จะได้รับสิทธิ์จำนวนกว่า ๑,๓๐๐,๐๐๐ คน ทั่วประเทศ และครม. ยังเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ. หอพัก พ.ศ. .... โดยมีการเพิ่มเติมจากพ.ร.บ.เดิม คือ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมกิจการหอพัก เพื่อดูแลจัดระเบียบหอพักเข้มงวดมากขึ้น และต้องจดทะเบียนหอพักเมื่อมีการให้เช่าตั้งแต่ ๑ คนขึ้นไป” พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit