นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมาธิการว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรไทย – รัสเซีย ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 25 – 29 พฤศจิกายน 2557 ณ กรุงมอสโคว สหพันธรัฐรัสเซีย ว่า การประชุมหารือระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับรัสเซียครั้งนี้ มีประเด็นหารือสำคัญ ใน 5 เรื่องด้วยกัน ได้แก่
1. การร่วมกันพิจารณาร่างบันทึกความเข้าใจด้านการเกษตรระหว่างไทย – รัสเซีย ในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างกัน โดยมีประเด็นหลักที่ต้องมีการหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมความร่วมมือด้านพืช สัตว์ ประมง การชลประทาน การพัฒนาที่ดิน และการเกษตรเพื่อพัฒนาชนบท รวมถึงการลดอุปสรรคด้านเทคนิคทางการค้าสินค้าเกษตรและความปลอดภัยอาหาร
2. ข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์กรบริการและเฝ้าระวังด้านสุขอนามัยพืช และสัตว์ของรัสเซีย (FSVPS) กับกรมประมง ซึ่งจะกำหนดรูปแบบการควบคุม รับรอง ผลิตภัณฑ์ด้านประมงที่นำเข้าส่งออกระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายจะกำหนดรูปแบบที่มีประสิทธิภาพและลดขั้นตอน เพื่อส่งเสริมการค้าสินค้าประมงระหว่างกัน
3. ความร่วมมือระหว่างองค์กรบริการและเฝ้าระวังด้านสุขอนามัยพืช และสัตว์ของรัสเซีย (FSVPS) กับกรมวิชาการเกษตร ด้านการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในการนำเข้าส่งออกธัญพืชและผลิตภัณฑ์ธัญพืช โดยมีสาระสำคัญ เพื่อให้ทั้งสองประเทศเฝ้าระวัง ควบคุม และออกใบรับรอง เป็นไปตามระเบียบของประเทศนำเข้า เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงด้านโรค และแมลงศัตรูพืช 4. การติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงรายชื่อสถานประกอบการสินค้าประมง ที่ขอส่งออกและขึ้นทะเบียนใหม่กับ FSVPS จำนวน 62 โรงงาน เพื่อการส่งออกไปยังสหพันธรัฐรัสเซีย ตามที่หน่วยงาน FSVPS ได้เดินทางมาสุ่มตรวจสอบโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำจำนวน 6โรงงาน ของไทยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบทั้ง 6 โรง เป็นที่น่าพอใจจะรับรองโรงงานทั้งหมดและส่งผลให้สินค้าประมงส่งออกไปยังรัสเซียได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังถือโอกาสขอบคุณรัฐบาลรัสเซียที่ส่งเจ้าหน้าที่จากกรมสัตว์แพทย์และสุขอนามัยพืช (FSVPS) มาตรวจรับรองโรงงานผลิตเนื้อสัตว์ในประเทศไทยจนได้ประกาศรับรองโรงงานฆ่าสุกรจำนวน 2 แห่ง และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อเป็ดปรุงสุก อีก 1 แห่ง ซึ่งฝ่ายไทยจะเจรจาขอให้ทางการรัสเซียรับรองโรงงานที่ยังเหลืออยู่อีก 48 แห่งให้สามารถผลิตและส่งออกสินค้าไปยังสหพันธรัฐรัสเซียได้
นายวิมล กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ยังได้หารือร่วมกันถึงการขยายความร่วมมือทางวิชาการในการเกษตรด้านอื่นๆที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการชลประทานเทคโนโลยีของทั้งสองประเทศ การใช้ประโยชน์จากระบบการบริหารจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสานเพื่อลดสารเคมีตกค้างและสารเคมีกำจัดแมลงปนเปื้อนในสินค้าเกษตร และโครงการความร่วมมือด้านการวิจัยระหว่างไทยและรัสเซียด้านการพัฒนาดิน เป็นต้น
“ที่ผ่านมารัสเซียมีการนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศไทยปีละประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างรัสเซียกับไทย จะขยายความร่วมมือไม่เฉพาะด้านวิจัยและพัฒนา แต่ยังช่วยลดอุปสรรคทางการค้า ทำให้สินค้าเกษตรของไทยมีโอกาสในตลาดรัสเซียมากขึ้น ซึ่งรัสเซียให้ความสนใจ ข้าวไทย ผัก ผลไม้ มันฝรั่ง ถั่วประเภทต่างๆ สินค้าประมง และปศุสัตว์” นายวิมล กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit