ก.เกษตรฯ (กำหนดแนวทางขับเคลื่อนโครงการพัฒนาการการเกษตรครบวงจร)

21 May 2014
กระทรวงเกษตรฯ กำหนดแนวทางขับเคลื่อนโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ พร้อมบูรณาการหน่วยงานในและนอกสังกัดในพื้นที่ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืน

นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับติดตามการดำเนินงานในโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ระดับเขตตรวจราชการ โดยมีผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่ละเขตตรวจราชการ เป็นประธานอนุกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดในสังกัดในระดับเขต เป็นอนุกรรมการ เพื่อทำหน้าที่ในการติดตามการดำเนินงานตามแผนบูรณาการพัฒนาการเกษตร ภายใต้โครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ นอกจากนั้นจัดให้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ต่อบุคคลากรและสาธารณะผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้งในระดับกระทรวงและระดับจังหวัด รวมทั้งมีหนังสือแจ้งกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความร่วมมือในการให้การสนับในการดำเนินโครงการฯ ตลอดจนจัดให้มีการประกวดความสำเร็จของโครงการในระดับประเทศและระดับเขตตรวจราชการด้วย

นายชวลิต กล่าวต่อไปว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร ตั้งแต่ปี 2554 โดยมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการของหน่วยงานในสังกัดและเครือข่ายทุกภาคส่วน โดยคำนึงถึงศักยภาพในพื้นที่และความต้องการของชุมชน มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์โดยตรงแก่เกษตรกร ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การเพิ่มมูลค่า การตลาด และการบริหารจัดการ ซึ่งต่อมาในปี 2556 ได้เปลี่ยนชื่อโครงการจากเดิม “โครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร” เป็น “โครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ” เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะการปฏิบัติงานจริง พร้อมทั้งได้จัดทำร่างแผนแม่บทโครงการพัฒนาการเกษตรครบวงจรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ระยะ 8 ปี (พ.ศ. 2557 - 2564) และเพื่อให้การดำเนินงานโครงการดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานโครงการฯ โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกรรมการโครงการฯ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการฯให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามแผนแม่บทโครงการฯอนึ่ง สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้จัดทำสรุปผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร รอบ 2 ปี ( ปี 2554 – 2556) โดยมีพื้นที่ในการดำเนินงานทั้งสิ้น จำนวน 293,330 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 22,764 ราย เกษตรกรมีการใช้พื้นที่ทำการเกษตรเฉลี่ย 10.26 ไร่ต่อครัวเรือน เป็นพื้นที่นา 7.34 ไร่ต่อครัวเรือน พบว่าการใช้ประโยชน์ที่ดินจากแหล่งน้ำชลประทานในปีเพาะปลูก 2555-2556 มีประสิทธิภาพการใช้ที่ดินเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.70 พืชที่เกษตรปลูกในพื้นที่โครงการฯ ได้แก่ พืชอาหาร (ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง) พืชน้ำมัน (ปาล์มน้ำมัน) ไม้ผล (มะม่วง ลำไย ทุเรียน) และไม้ยืนต้น (ยางพารา) ซึ่งการผลิตข้าวเป็นพืชหลักในพื้นที่โครงการ มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นจากการบริหารจัดการน้ำร่วมกัน ทำให้ได้รับน้ำเพื่อปลูกข้าวและพืชอื่น ๆ โดยมีผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นจาก 630.46 กก./ไร่ เป็น 666.65 กก./ไร่ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นครัวเรือนละ 39,850 บาท ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการดำเนินนโยบายโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล และประการที่สำคัญ การดำเนินโครงการดังกล่าว ทำให้เกิดการบูรณาการมีส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนมีมากขึ้น