เปิดตัว “สำนักพิมพ์บัน” น้องใหม่จาก บันลือพับลิเคชั่นส์ มุ่งเจาะตลาดนักอ่านรุ่นใหม่

22 May 2014
สำนักพิมพ์บัน” (BUNBOOKS) น้องใหม่ในเครือ บริษัท บันลือ พับลิเคชั่นส์ จำกัด พร้อมเสิร์ฟหนังสือรสชาติกลมกล่อม เจาะตลาดนักอ่านรุ่นใหม่ที่รักความเรียบง่าย อารมณ์ดี นิยมความสนุก และมีความสุขกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองทุกวัน ด้วยความตั้งใจอบหนังสือให้หอมละมุน เหมือนขนมปังอุ่นๆ ที่เป็นอาหารจานหลักก็อิ่ม เป็นอาหารกินเล่นก็อร่อย!

วันพุธที่ 21 พฤษภาคม 2557 เวลา 15.30 น. ณ ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สำนักพิมพ์บัน หรือบันบุ๊คส์ (BUNBOOKS) จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสำนักพิมพ์อย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องาน “Come on every BUN!” เพื่อให้ทุกท่านมาร่วมกันเปิดเตาอบ พบหนังสือหอมกรุ่นสดใหม่ เนื้อหากลมกล่อมเป็นครั้งแรก โดยงานนี้เปิดเวทีร่วมพูดคุยแบบจัดเต็มไปกับบรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ พร้อมด้วยนักเขียนทั้งห้าท่าน เจ้าของหนังสือที่เปิดตัวไปเมื่องานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 42 ที่ผ่านมา อย่าง พัดชา เอนกอายุวัฒน์ (พัดชา AF) เจ้าของหนังสือ 'NIGHTMARE BEFORE 29' , jirabell—จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ เจ้าของผลงาน 'เราไม่ได้อยู่คนเดียวอยู่คนเดียว' , PLARIEX—พัชรกันย์ พิศาลสุพงศ์ หรือปลารี่ เจ้าแม่คอมิกเอสเสน่ารักๆ กับ 'PLANTS VS. PLARIEX' ,ชญาภรณ์ พัวพานิช กับผลงานคอมิกเอสเส 'TIME TO BE A FREELANCE' : ฟรีแล้ววว...ฟรีแลนซ์ และ ลูกไม้—ดวงกมล คงชนะเจริญชัย นักเขียนและนักวาดภาพสีน้ำ เจ้าของผลงาน 'WHEN I WAS THERE' : หน้าพระลานไม่นานนี้

ศิษฏา ดาราวลี (หนุงหนิง) บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์บัน (BUNBOOKS) กล่าวว่า ถ้าเปรียบ ‘บัน’ เป็นผู้หญิง เธอจะเป็นผู้หญิงที่พบเจอได้ตามร้านขนม ร้านกาแฟ หรือตามย่านแสดงงานศิลปะ บันบุ๊คส์จึงเจาะกลุ่มตลาดสาวรุ่นใหม่ที่ช่างคิด ชอบความน่ารัก อารมณ์ดี และมีความสุขกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง แต่ยังคงซ่อนมุมอ่อนหวาน และความโรแมนติกตามนิสัยผู้หญิงทั่วไป ส่วนงานเปิดตัว“Come on every BUN!” นั้นอยากให้คนอ่านได้เข้ามา ทำความรู้จักกับสำนักพิมพ์ พบปะพูดคุยกับนักเขียน ไปจนถึงทีมงานอย่างเป็นกันเอง กับบรรยากาศงานอบอุ่น หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นอายหนังสือน่าอ่าน

บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์บันกล่าวต่ออีกว่า สำนักพิมพ์บัน เกิดจากแนวคิดที่ว่า การอ่านหนังสือก็เหมือนการบริโภคอาหาร ซึ่งอาหารแต่ละประเภท จะอร่อยและมีประโยชน์หรือไม่นั้น สิ่งสำคัญเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ขั้นตอนการปรุง ไปจนถึงการจัดเสิร์ฟให้ถึงมือ ซึ่งแน่นอนสุดท้ายผู้บริโภคจะเป็นคนเลือกรสชาติที่เหมาะกับรสนิยมของตัวเอง และด้วยความที่กองบรรณาธิการของบันบุ๊คส์เป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบความหอมกรุ่นของกลิ่นแป้งอุ่นๆ และกลิ่นนมเนยอ่อนๆ ชอบอาหารที่บริโภคง่ายเบาสบายท้อง และมีประโยชน์ จึงอยากให้หนังสือของสำนักพิมพ์เป็นเหมือนขนมปังอบ สมกับชื่อ BUN

“บันบุ๊คส์ถือกำเนิดขึ้นจากคอนเซ็ปต์ที่ว่า เราอยากผลิตหนังสือออกมาให้เหมือนกับการอบขนมปังที่ใส่ใจรายละเอียดตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ไปจนกว่าขนมปังจะสุกหอมกรุ่นออกมาจากเตา หากเปรียบกับการทำหนังสือ เราจึงอยากให้หนังสือของเราเป็นหนังสือที่หอมกรุ่นชวนอ่าน อิ่ม อร่อย และให้พลังงานได้แบบกำลังดี” ศิษฏากล่าว

พัดชา เอนกอายุวัฒน์ (พัดชา AF)นักร้องสาวเสียงคุณภาพจากเวทีนักล่าฝันกล่าวถึง หนังสือ ‘NIGHTMARE BEFORE 29’ ว่า หนังสือเล่มนี้เล่าถึงเรื่องราวฝันร้ายที่ได้เจอมาระหว่างทางของการได้เป็น‘นักล่าฝัน’ ที่ได้ทำสิ่งที่รักให้กลายมาเป็นความจริง ซึ่งมองผิวเผิน ดูเหมือนจะมีแต่ฝันดี แต่ความจริงมีฝันร้ายเกิดขึ้นเสมอจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงต้องเป็น Nightmare ส่วน Before 29 มันคือฝันร้ายที่เคยได้เจอมาก่อนจะถึงวันที่ตนมีอายุ 29 ปี

“พัดเข้าสู่วัยทำงานกับการเป็นนักล่าฝันตั้งแต่อายุ 20 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหัน การเป็นผู้เข้าแข่งขันรายการเรียลลิตี้โชว์ มันคือการที่เราสตาร์ทจากการมีชื่อเสียงพีคที่สุดก่อนแล้วค่อยๆ ลดลง ซึ่งความกะทันหันก็สร้างแรงเสียดทานมากมายจนกลายเป็นฝันร้ายในชีวิตแต่ก็อยู่มาจนวันนี้ ที่เป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะต้องลาจากเลขหลักยี่สิบกว่า ปีหน้าจะอายุ 30 ทำให้พัดได้มองย้อนไปว่ามันคือหลักไมล์ที่กำลังก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว มันถึงเวลาที่จะต้องหันกลับมามองว่าเรากำลังจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่แบบไหน เพราะฉะนั้น นอกจากจะได้เปิดเผยฝันร้ายที่พบเจอแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังได้เล่าถึงความรู้สึก การรับมือ และทัศนคติที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างการเติบโตด้วย” พัดชากล่าว

พัชรกันย์ พิศาลสุพงศ์ (ปลารี่) นักเขียนเจ้าของหนังสือ ‘PLANTS VS. PLARIEX’ กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับการเลี้ยงกระบองเพชร ที่รวมมาจากประสบการณ์การเลี้ยงของตัวเองและข้อมูลที่ค้นคว้าสอบถามมา ซึ่งคิดว่าหนังสือเล่มนี้น่าจะช่วยให้คนที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงกระบองเพชรได้ข้อมูลการเลี้ยงเบื้องต้นคร่าวๆ และชวนให้คนที่ไม่เคยเลี้ยงอาจจะหันมาสนใจเริ่มลองเลี้ยงดูบ้างเพราะหนังสือเป็นรูปแบบคอมิกเอสเส เน้นภาพในการเล่าเรื่อง ทำให้อ่านสบาย และเข้าใจง่าย อีกทั้งจุดเด่นของหนังสือเล่มนี้ เป็นสี่สีเล่มแรกที่ได้ทำ และรูปประกอบที่วาดมาจากภาพจริง ถือว่าเป็นเล่มแรกที่ได้ลองวาดอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยวาดมาก่อนด้วย

เช่นเดียวกับหนังสือ ‘TIME TO BE A FREELANCE : ฟรีแล้ววว...ฟรีแลนซ์’ ที่เป็นคอมิกเอสเสอีกหนึ่งเรื่อง โดย ชญาภรณ์ พัวพานิช (มุ) เจ้าของผลงานกล่าวว่า เป็นเล่มแรกที่ทำคอมิกเอสเสทำให้ขลุกขลักหลายอย่าง แต่ได้ทีมงานบันบุ๊คส์ช่วยเกลาและเรียบเรียง งานถึงออกมาน่าอ่านและสนุกอย่างที่เห็น หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากเป็นฟรีแลนซ์เพราะในเล่มได้บอกเล่าชีวิตนักวาดฟรีแลนซ์ ว่าอาชีพนี้มีงานอะไรให้ทำ ต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง ฟรีแลนซ์ไม่ได้สบายอย่างที่คิดและอีกมากมายนอกจากนั้นสำหรับคนทั่วไป หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เข้าใจชีวิตฟรีแลนซ์มากยิ่งขึ้น

ดวงกมล คงชนะเจริญชัย (ลูกไม้) เจ้าของหนังสือพาเที่ยวรอบรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า ‘WHEN I WAS THERE :หน้าพระลานไม่นานนี้’ เป็นบันทึกนำเที่ยวของนักศึกษาศิลปากร ที่ใช้การเล่าเรื่องแบบเป็นกันเอง เหมือนกับกำลังเมาท์ให้เพื่อนฟัง โดยนำเสนอความงดงามของสถาปัตยกรรมบริเวณหน้าพระลานหรือศิลปากรผ่านภาพสีน้ำ และนอกจากจะพาไปท่องเที่ยวในจุดต่างๆ ที่ไม่ได้มีให้เห็นในหนังสือนำเที่ยวทั่วไปแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าคาแรคเตอร์ของร้านค้ายอดฮิตต่างๆ ในแง่มุมที่มีทั้งดีและร้าย หากใครสนใจในศิลปะ เคยเรียนหรืออยากเรียนศิลปากร อยากรู้จักกับหน้าพระลาน ท่าช้าง ท่าพระจันทร์ วังหลังหนังสือเล่มนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเล่มที่จะพาไปรู้จักได้ไม่ยาก

จิรเดช โอภาสพันธ์วงศ์ (จิราเบล) เจ้าของหนังสือแสนอบอุ่น ‘เราไม่ได้อยู่คนเดียวอยู่คนเดียว’ กล่าวว่า ความยากของการเขียนหนังสือเล่มนี้คือการนึกถึงเรื่องราวในความทรงจำถึง 50 เรื่อง ซึ่งปกติในชีวิตไม่มีใครมีเรื่องเล่าที่สามารถคิดออกในทันทีได้ เรื่องที่ยังคงชัดเจนหรือเพิ่งผ่านไปไม่นานนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่กับบางเรื่องมันก็ซีดจางจนจดจำรายละเอียดของเหตุการณ์ได้น้อยมาก จำได้แค่ว่าตอนนั้นรู้สึกอย่างไร ทำให้ต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเอง นั่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว กว่าจะเขียนเสร็จแต่ละตอนจึงใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็น แต่เรื่องราวในหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่ทุกคนสามารถพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน คนอ่านจึงน่าจะได้ทบทวนความทรงจำที่มีต่อบุคคลต่างๆ รอบตัว ทั้งที่ใกล้ชิดและไกลห่าง เรื่องที่ทำให้อมยิ้มและเสียน้ำตา หรือเรื่องที่จดจำได้แม่นยำและเกือบหลงลืมไป

หนังสือล่าสุดทั้งห้าเล่มของสำนักพิมพ์บันสามารถหาซื้อได้แล้วตามร้านหนังสือทั่วไป หรือถ้าต้องการช้อปกันแบบง่ายๆ ผ่านหน้าจอออนไลน์ก็สามารถซื้อผ่านเว็บไซต์ MIN.MS/BUY ซึ่งมีตัวอย่างหนังสือให้อ่านก่อนตัดสินใจสั่งซื้ออีกด้วย และนอกจากนี้ใครที่มีหนังสือของสำนักพิมพ์บันแล้วก็สามารถเปิดไปท้ายเล่ม สแกน QR CODE หรือกรอกรหัส 16 หลัก เพื่ออ่าน Extra Content จากนักเขียนของแต่ละเล่มได้ ทั้งนี้ผู้อ่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวพร้อมกิจกรรมจากสำนักพิมพ์บันได้ที่ www.bun-books.com หรือ facebook.com/bunbookish