นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าการไปประกอบพิธีฮัจย์ ถือเป็นบทบัญญัติข้อหนึ่งของศาสนาอิสลาม สำหรับชาวมุสลิมที่มีความพร้อมและความสามารถจะต้องไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งทุกปีจะมีชาวมุสลิมจากทั่วโลกประมาณ 2-3 ล้านคน เดินทางไปประกอบพิธีดังกล่าว การที่ผู้ไปประกอบพิธีฮัจย์เป็นคนจากหลายเชื้อชาติทุกภูมิภาคของโลก จะต้องอาศัยอยู่รวมกันจำนวนมากในสถานที่จำกัด จึงมีโอกาสที่จะเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายส่งเสริมให้ชาวไทยมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์อย่างมีคุณภาพ ในปีนี้จะมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 10,400 คน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะดูแลด้านสุขภาพและเตรียมความพร้อมให้ชาวไทยมุสลิมที่จะเดินทางไปในครั้งนี้ โดยจัดบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคแก่ชาวไทยมุสลิม 2 ชนิด คือวัคซีนป้องกันโรคกาฬหลังแอ่นและวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ตามที่ประเทศซาอุดิอาระเบียกำหนด ซึ่งจัดให้บริการแก่ชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ทุกคนโดยไม่คิดมูลค่า เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ป่วยจาก 2 โรคดังกล่าว โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่ 22 พ.ค.–31 ส.ค. 2557 นี้ และให้มีการตรวจสุขภาพก่อนการเดินทาง เพื่อให้มีความพร้อมด้านสุขภาพก่อนเดินทางมากที่สุด โดยมอบหมายให้กรมควบคุมโรคร่วมกับเครือข่ายดำเนินการสธ.ให้บริการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนแก่ผู้แสวงบุญ“ฮัจย์” 10,400 คน ป้องกันไข้กาฬหลังแอ่นและไข้หวัดใหญ่ฟรี ครั้งแรกสำหรับชาวมุสลิมในกรุงเทพและปริมณทล วันนี้ ณ. ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติฯ กรุงเทพฯ และหลังจากนั้นจะมีการตรวจสุขภาพและให้วัคซีนในจังหวัดต่างๆที่มีชาวมุสลิมเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ต่อไปด้าน นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วยนายอับดุลซาลาม อัลอินาซี ผู้แทนอุปทูตซาอุดิอาระเบียประจำประเทศไทย นายอรุณ บุญชุม ผู้แทนจุฬาราชมนตรี/ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด และผู้ประกอบกิจการฮัจย์ ร่วมเปิดโครงการป้องกันและสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคติดต่อแก่ชาวไทยมุสลิมที่ไปแสวงบุญ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ปี 2557 ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติฯ กรุงเทพฯ ในวันที่ 22 พ.ค. 2557 เวลา 10.00-15.00 น.
นพ.โสภณ กล่าวหลังพิธีการเปิดว่า ชาวไทยมุสลิมที่จะรับบริการฉีดวัคซีนก่อนเดินทาง ส่วนกลางในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล สามารถไปขอรับบริการได้ที่ 1.สถาบันบำราศนราดูร 2.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือกรุงเทพ 3.สถานเสาวภา สภากาชาดไทย 4. โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน และ 5.โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 ส่วนในภูมิภาคหรือต่างจังหวัดสามารถรับบริการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.เชียงใหม่, ที่ 11 นครศรีธรรมราช, ที่ 12 สงขลา ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมโรคได้จัดเตรียมวัคซีนไว้ให้บริการอย่างเพียงพอแก่ผู้เดินทางไปแสวงบุญที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการศาสนาไว้แล้ว สามารถสอบถามจุดบริการและไปรับบริการได้ตามสถานที่ดังกล่าวข้างต้น
“สำหรับกิจกรรมในพิธีเปิดโครงการในครั้งนี้มีการให้ความรู้แก่ผู้ที่จะเดินทางไปแสวงบุญ เช่น การเตรียมตัว การปฏิบัติตัวก่อนขึ้นเครื่องบิน การดูแลสุขภาพระหว่างประกอบศาสนกิจ และหลังเดินทางกลับ รวมถึงการให้บริการตรวจสุขภาพก่อนเดินทางไปแสวงบุญ จากหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน ได้แก่ สถาบันบำราศนราดูร สถาบันราชประชาสมาสัย โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ โรงพยาบาลตากสิน สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลควนกาหลง โรงพยาบาลรือเสาะ โรงพยาบาลไม้แก่น โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา สถาบันโรคทรวงอก และโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่สำนักโรคติดต่อทั่วไป โทร 0 2590 3232 หรือโทรสายด่วน 1422” นพ.โสภณ กล่าวปิดท้าย