รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า การจัดค่ายในครั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนมาเข้าร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย ศิลปิน ครูผู้สอนศิลปะ เด็กพิการ เยาวชนพิการที่มีความสามารถทางศิลปะ และเจ้าหน้าที่ประสานงาน จากประเทศบรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม จำนวน 40 คน ซึ่งการร่วมกิจกรรมต่างๆ ของผู้ร่วมค่ายทั้งไทยและต่างชาติจะเป็นโอกาสอันดี ที่จะได้แลกเปลี่ยนศิลปะและวัฒนธรรมของกันและกัน รวมทั้งจะได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ในการใช้ชีวิตร่วมกันบนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 58 ต่อไป
ศาสตราจารย์ ดร. ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ ประธานมูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ กล่าวว่า สำหรับหัวข้อในปีนี้คือ การก้าวข้ามขีดจำกัด นั้น จะปลูกฝังให้เด็กเยาวชนพิการก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง เช่น คนตาบอดเมื่อได้ร่วมกิจกรรมการต่อแถวปิดตาแล้ว สามารถนำพาเพื่อนๆ ไปสู่จุดหมายปลายทางที่วางไว้ได้ เป็นต้น แสดงว่าเยาวชนคนตาบอดสามารถก้าวข้ามขีดจำกัด ในการมองเห็นได้ นอกจากนี้ หลังจากที่ได้นำเยาวชนไปเข้าค่ายในปีที่ผ่านๆมา จะเห็นแววว่าเด็กบางคนสามารถก้าวมาเป็นศิลปินได้ ทั้งนักจิตกรวาดภาพด้วยปากและเท้าบางคนเป็นนักร้องนักแสดงได้ แต่คนเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้พัฒนาตนเองต่อหลังจากจบการเข้าค่าย ดังนั้น ทางมูลนิธิฯ และเครือข่ายที่สนับสนุนจึงสานต่อด้วยการสร้างหมู่บ้าน Art for All ขึ้น ที่มีนบุรี เพื่อเป็นหมู่บ้านศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ในการสานต่อความฝันของเยาวชนเหล่านี้ได้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาสร้างเสร็จภายในเวลา 3 ปีอีกด้วย