โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากถวายตัวของ มณีจันทร์ ต่อ สมเด็จพระนเรศวรฯ จึงเป็นฉากสำคัญ ที่มิได้เป็นเพียงแค่ฉากโรแมนติค หรือเลิฟซีนสวยงามระหว่างคู่พระ-นางเท่านั้น แต่เราจะได้เห็นอีกมุมมอง ที่สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาของพระนเรศวร รวมไปถึงความใกล้ชิดผูกผันที่บ่มเพาะกลายเป็นความรัก ความสัมพันธ์ ความเสียสละที่ทั้งคู่ต่างมีให้กันมานับตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย ผู้พันเบิร์ด วันชนะ “ในฉากนี้สำหรับผมเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกผูกผันของสองตัวละครที่มีความรู้สึกของความเป็นเพื่อนคู่คิดระหว่างกัน มณีจันทร์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กกะโปโลแก่นแก้วแล้วโตขึ้นมาเป็นผู้หญิงสวยแบบไร้เดียงสา ผู้หญิงที่งามมากๆ คนหนึ่ง แต่มีความบริสุทธิ์ใสซื่อของความเป็นมนุษย์ที่พร้อมจะจงรักภักดีกับผู้ชายคนนี้ ไม่สนใจเรื่องอื่น ยอมทิ้งบ้านเมืองที่เคยอยู่แบบสบายมา เพื่อเป็นเพื่อนคู่คิดของชายคนหนึ่งที่ตัวเองรัก อยู่ได้ด้วยความรัก อยู่ได้ด้วยความจงรักภักดีกับผู้ชายคนหนึ่ง อันนี้คือสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้เป็น แต่อยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีด้วยความสง่างาม”
แอฟ ทักษอร “สำหรับฉากถวายตัวคือนอกจากความสวยงามที่คนดูจะได้เห็นแล้ว ก็จะได้เห็นถึงความรักของสมเด็จพระนเรศวรฯ ที่มีต่อมณีจันทร์ ความรู้สึกที่มณีจันทร์มีต่อพระนเรศวรฯ ที่มีมากกว่าความรัก คือความภักดีความผูกพันซึ่งมีมานานเพราะว่าเราเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กจนโต เรารักด้วยความภักดีมาตลอด อย่างที่บอกว่าตายแทนได้แน่นอนที่สุดแล้วก็ความเสียสละ และความภักดีตรงนี้ที่ทำให้สมเด็จพระนเรศวรฯเห็น ความดีโดยเฉพาะความจงรักภักดีของมณีจันทร์มาโดยตลอด จึงเป็นความรักที่เกิดขึ้นค่ะ”นอกจากการสอดแทรกมิติตัวละครได้อย่างลงตัวแล้ว สิ่งที่เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาให้กับเหล่าบรรดาแฟนคลับของทั้ง ผู้พันเบิร์ด พันโทวันชนะ สวัสดี และ สาวแอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ (เตชะณรงค์) ได้อย่างเป็นเอกฉันท์ก็คือความตั้งใจฟิตแอนด์เฟิร์มบอดี้ แบบเป๊ะสุดขีดของผู้พันเบิร์ด ที่ต้องโชว์แผงอกชนิดที่ว่าทำเอาสาวๆ แทบละลายกันเลยทีเดียว
แอฟ ทักษอร “ใช่ค่ะ ช่วงนั้นพี่เบิร์ดฟิตมากจริงๆ ตลอดการถ่ายทำ (หัวเราะ) มีอยู่แค่สองอย่าง คือฟิตมากๆ กับฟิต ตั้งแต่รู้จักกันมา จริงๆ ก็มีเขินนิดๆ ค่ะ แต่เนื่องจากเรารู้จักกันมา 10 กว่าปี (หัวเราะ) ก็คุ้นเคยกันจนไม่เขินแล้วนะคะ คือฉากนี้จำได้ว่าจัดพร็อบ แล้วก็จัดไฟกว่าจะได้มะรำมะเรืองสวยโรแมนติกขนาดนี้ใช้เวลานานมากค่ะ เนื่องจากท่านก็พิถีพิถันในฉากนี้มากๆ อยากให้เป็นฉากหนึ่ง ซึ่งไม่อยากให้คนดูคิดว่ามันเป็นแค่เลิฟซีน แต่อยากให้คนดูรู้สึกว่าเป็นความสวยงาม จริงๆ ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวแสดงสองตัว กับแอ็คติ้งที่จะเกิดขึ้น แต่ว่าโดยรวมแล้วเนื่องจากเป็นฉากโรแมนติกเพราะฉะนั้นเรื่องของแสงเทียนทั้งหลายมันจะต้องสวยงามมากๆ แต่ส่วนที่เหลือความนานอยู่ที่แอฟเอง (หัวเราะ) กว่าจะแอ็คติ้งได้คือเราไม่ได้อายพี่เบิร์ดนะคะ แต่ว่าแค่ทำตัวไม่ถูกเพราะปกติมันก็ไม่ได้เล่นแนวนี้ แล้วก็ไม่แน่ใจว่าเอ๊ะ?ท่านต้องการอะไรอย่างไร บวกกับด้วยความที่ในบทมณีจันทร์ก็จะคือเป็นกุลสตรีเราก็เลยแอบกระซิบพี่เบิร์ดว่า“พี่เบิร์ดเล่นเลยนะ เดี๋ยวแอฟรีแอ็คอะไรประมาณนี้ค่ะ” (หัวเราะ)
กว่าจะได้ภาพออกมาสมใจผู้กำกับ งานนี้สตาโน่ ผู้กำกับภาพ ที่ทำหน้าที่จัดแสงในทุกๆ ฉากของภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรทุกภาค ใช้เวลาเกือบครึ่งคืนกว่าจะจัดแสงออกมาได้สวยสมใจท่านมุ้ย แต่ถ้าอยากรู้ว่าภาพแต่ละภาพสวยงามวิจิตรบรรจงขนาดไหน ต้องไปชมในภาพยนตร์กัน