1. ต้องระวังเรื่องไฟตก ไฟกระตุก และถ้าเกิดพายุฝนฟ้ากระหน่ำหรือไฟดับกระทันหัน ดูบอลแบบติดๆ ดับๆก็อาจอารมณ์เสียได้นะคะ หา UPS มาเสียบกับ Smart TV ของคุณก็ดีนะคะ จะได้ดูต่อเนื่องอย่างราบรื่น ไม่พลาดช็อตเด็ดๆ ค่ะ
2. หน้าฝนไม่ต้องเปิดแอร์ดูบอล หรือลดการใช้แอร์ในหน้าฝนอากาศกำลังเย็นสบายไม่ร้อนจัด เราสามารถปรับอุณภูมิให้เหมาะสมได้ประหยัดค่าไฟได้ค่ะ
3. ทุกครั้งที่เลิกดูบอล ควรถอดปลั๊กไฟหลังใช้งาน เพราะถ้ายังเสียบปลั๊กไฟอยู่ก็จะเท่ากับว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นยังถูกใช้งานอยู่แม้มันจะไม่กินไฟเท่ากับการใช้งานจริง ๆ เราก็จะสูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปถึง 0.002 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
4. ถ้าบ้านใครมีหลอดประหยัดไฟ ก็ยิ่งช่วยประหยัดได้อีกการใช้หลอดไฟแบบไส้ กินไฟมากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนส์ และหลอดฟลูออเรสเซนส์กินไฟมากกว่าหลอดตะเกียบ เมื่อเทียบวัตต์และเวลาใช้งานเดียวกันเวลาดูบอลที่บ้าน ไม่ต้องเปิดไฟสว่างนัก ยิ่งหลอดไฟวัตต์ต่ำก็ยิ่งประหยัดไฟค่ะ
5. ขนาดของโทรทัศน์ที่ใช้ยิ่งจอกว้างและใหญ่ ยิ่งเปลืองไฟขนาดจอลงบ้างก็ได้ค่ะรู้มั้ยว่าดูโทรทัศน์วันละ 4 ชั่วโมงเสียค่าไฟ 40.50 บาท/เดือน และถ้าหากไม่ใช้รีโมท และถอดปลั๊กโทรทัศน์ทุกครั้งที่เลิกใช้ จะประหยัดไฟได้ 4 บาท/ เดือนค่ะ ฉะนั้น ดูบอลจบแล้ว ถอดปลั๊กทุกครั้งนะคะและการเปิดเสียงโทรทัศน์ดังๆ ก็เปลืองไฟด้วยเหมือนกัน
6. ฝนตกยังกลับบ้านไม่ได้ ไปดูบอลที่ร้านอาหาร ประหยัดไฟฟ้าที่บ้าน แต่อาจต้องจ่ายค่าอาหารมากกว่าค่าไฟ
7. ถ้าจะให้ดี คนทั้งครอบครัว ควรมาดูบอลด้วยกัน ใช้โทรทัศน์เครื่องเดียว เชียร์กันให้มันสนั่นบ้าน ได้ความรักสามัคคีและอบอุ่น และประหยัดไฟด้วยนะคะ
8. เตรียมอาหาร ของขบเคี้ยวไว้ให้พร้อม ไม่ควรเดินไปเปิดตู้เย็นบ่อยๆ ทุกครั้งที่เราเปิดตู้เย็น จะทำให้ตู้เย็นทำงานมากขึ้นและจะทำให้สิ้นเปลืองไฟมากกว่าที่จำเป็น
9. เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานรวมทั้งพิจารณาหาอุปกรณ์ที่ป้องกันการเกิดการสูญเสีย หาปลั๊กกันไฟกระชากที่มีคุณภาพไว้ ก็ช่วยถนอมอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ให้เสื่อมหรือเสียก่อนเวลาอันควร
10. ปิดคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการดูบอล อย่าเปิดทิ้งไว้ คงไม่มีใคร รีดผ้า พร้อมกับการเชียร์บอล มันอันตรายและไม่ควรทำนะคะ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit