ขณะที่เวนเดอร์และลูกค้าบางรายกำลังแซงหน้าและบอกลาเน็ตเวิร์กเก่าที่ยุ่งยากซับซ้อน ก็ยังมีธุรกิจหลายกลุ่มที่ยังคงยึดติดกับวิถีทางแบบเดิมๆ สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ โครงสร้างพื้นฐานไอทีแบบใหม่จะต้องสร้างประโยชน์จากการใช้ SDN และ NFV แลจะต้องรองรับการทำงานของฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าได้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ อีเธอร์เน็ตแฟบริก (Ethernet Fabrics) คือคำตอบ
สิทธิประโยชน์จากเทคโนโลยีต่างๆ ที่กล่าวในข้างต้นนั้นมีมากมายอย่างเห็นได้ชัด และพิสูจน์แล้วจากการใช้งานจริง แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับองค์กรที่ยังสองจิตสองใจในการปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมเน็ตเวิร์ก คุณจักรัตน์ เหลืองธีรภาพ ผู้จัดการ บริษัท โบรเคด ประจำประเทศไทย จึงขอแนะนำดังนี้
1. ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความคล่องตัวของธุรกิจ
อาจจะฟังดูคร่ำครึ แต่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่จะช่วยปรับปรุงขั้นตอนการทำธุรกิจควรเป็นประเด็นสำคัญอันดับหนึ่งสำหรับแผนกไอที การลงทุนในโครงสร้างเน็ตเวิร์กครั้งก่อนอาจทำให้คุณต้องยึดติดอยู่กับฟังก์ชั่นและพฤติกรรมแบบเดิมๆ นอกเสียจากว่าคุณจะปรับเปลี่ยนใหม่หรือปิดระบบเพื่อทำการคอนฟิกกูเรชั่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปแบบที่เน้นซอฟต์แวร์เป็นหลักและทำงานร่วมกันกับแฟบริกที่มีความคล่องตัว คุณก็จะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จะส่งผลกระทบแง่บวกต่อธุรกิจ โดยไม่ต้องลงทุนกับเทคโนโลยีหรือฮาร์ดแวร์อีกครั้ง กล่าวโดยสรุปคือคุณสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการเพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจให้ก้าวทันกระแสของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
2. เราลงทุนไปแล้ว และเราจะต้องลงทุนเพิ่มอีกมากเท่าไหร่?
เพียงแค่คุณเริ่มต้นลงทุนในฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ก็มีแนวโน้มที่คุณจะต้องจ่ายเงินออกอยู่เรื่อยๆ คุณรู้จักฮาร์ดแวร์ คุณเข้าใจกับซอฟต์แวร์ แต่ความคุ้นเคยและสะดวกสบายกำลังทำให้คุณตาบอด ทำให้คุณจำกัดอยู่แต่แบรนด์เดิมๆ โซลูชั่นเดิมๆ การเติบโตของธุรกิจและนวัตกรรมถูกจำกัด เน็ตเวิร์กแฟบริกนำเสนอหนทางใหม่สู่เน็ตเวิร์กที่มีความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงโอกาสทางธุรกิจที่ดีและการพัฒนาเทคโนโลยีเวอร์ชวลและเน็ตเวิร์กแบบเปิด นอกจากนี้ การแข่งขันเข้มข้นภายในกลุ่มผู้พัฒนาฮาร์ดแวร์ยังทำให้กลไกราคาลดลงอีกด้วย
3. เริ่มกำหนดเซอร์วิสใหม่ๆ ตั้งแต่วันนี้
การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์แบบอัตโนมัติได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์ การนำเวอร์ชวลไลเซชั่นมาใช้ทำให้เกิดมิติใหม่ๆ การขยายความสามารถในเน็ตเวิร์กด้วยการเพิ่มอุปกรณ์และรีคอนฟิกใหม่ไม่ได้ช่วยให้การทำงานต่างๆ รวดเร็วขึ้น การนำอีเธอร์เน็ตแฟบริกที่รองรับ SDN ต่างหาก ที่ช่วยให้กำหนดค่าเซอร์วิสและแบนด์วิธต่างๆ ได้รดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที
4. เรามีทุกอย่างได้ในคราวเดียวกัน
ปัจจุบัน มีโซลูชั่นฮาร์ดแวร์เน็ตเวิร์กกิ้งในตลาดหลายตัวที่รองรับทั้ง OpenFlow, SDN และเน็ตเวิร์กแบบดั้งเดิมพร้อมๆ กัน องค์กรบางแห่งอาจพร้อมสำหรับ SDN และ NFV แล้วด้วยซ้ำ แต่ต้องค่อยๆ ปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป การเลือกโปรดักส์ที่รองรับฟังก์ชั่นเน็ตเวิร์กแบบเปิดและแบบซอฟต์แวร์ จะช่วยประหยัดเงินลงทุนและเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต โดยสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรีซอร์สต่างๆ ด้วยดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีได้อย่างทันท่วงที
หากคุณต้องการเพิ่มศักยภาพของโครงสร้างเน็ตเวิร์กในอนาคต ควรพิจารณาเลือกใช้อีเธอร์เน็ตแฟบริกที่รองรับ SDN และ NFV ในการลงทุนครั้งต่อไป
ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าเว็บไซต์ www.brocade.com/NetworkFacts
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit