จากข้อมูลพบว่า บรา 1 ตัว กว่าจะย่อยสลายเองตามธรรมชาติใช้เวลาเฉลี่ยกว่า 100 ปี เนื่องจากวัสดุส่วนใหญ่เป็นโพลีเมอร์ หากทิ้งให้เป็นขยะตกค้างด้วยการฝังกลบไม่ได้ช่วยสิ่งแวดล้อมเลย แต่หากนำไปเป็นเชื้อเพลิงพลังงานทดแทนกลับช่วยลด การใช้แก๊ส, น้ำมัน, ถ่านหินได้ รวมทั้งลดปัญหาสภาวะโลกร้อนได้มากกว่า ดังนั้น โครงการ วาโก้ บราเดย์ ปี 3 ภายใต้ คอนเซ็ปต์ใหม่ “บรามีค่า...สร้างอาชีพ รักสิ่งแวดล้อม” เพื่อช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมและหันมารักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการเปิดรับบริจาคบราทุกประเภท ไม่จำกัดรุ่นและยี่ห้อจากผู้หญิงไทย ทั่วประเทศ โดยจะรวบรวมบราบริจาคทั่วประเทศ มาคัดแยกอย่างเป็นระบบ ซึ่งส่วนหนึ่งจะนำไปสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ผ่านทางสมาคมสถานภาพสตรีฯ ส่วนบราเสื่อมสภาพจะนำไปย่อยสลายอย่างมีคุณค่าผ่านกระบวนการ “บรา จีโอไซเคิล” เผาผลิตร่วมในเตาปูนซีเมนต์แบบปิด โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กก.ผช.ผอ.บมจ.ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญต่อการรับผิดชอบสังคมมาโดยตลอด ซึ่งวาโก้ บราเดย์ ปี 3 ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสร้างสรรค์สังคมที่ทำการรณรงค์ให้ผู้หญิงทั่วประเทศร่วมกันบริจาคบรา สำหรับใช้ในการสร้างโอกาสให้กับผู้อื่น สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และส่งเสริมศักยภาพสตรีที่จัดขึ้นต่อเนื่อง สำหรับปีนี้ได้ขยายการทำดีในมุมที่กว้างขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ "บรามีค่า...สร้างอาชีพ รักสิ่งแวดล้อม" นอกจากจะเชิญชวนให้ผู้หญิงทุกคนร่วมกันบริจาคบราเพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้ ผ่านทางสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ แล้วยังได้มีส่วนร่วมในการช่วยลดสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำบราที่เสื่อมสภาพมาย่อยสลายอย่างมีคุณค่า โดยทุกๆ การบริจาค 1 ตัว วาโก้จะมอบบัตรแทนเงินสดมูลค่า 100 บาท แทนคำขอบคุณให้กับผู้ร่วมบริจาค เริ่มตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ก.ค.2557 ที่เคาน์เตอร์วาโก้ทั่วประเทศ เชื่อว่ายอดบริจาคจะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าจาก 30,000 ตัว เพิ่มเป็น 50,000 ตัว”
“วัดจากยอดบริจาคบราที่ 50,000 ตัว จะสามารถช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมแทนการฝังกลบ ลดปริมาณขยะในชุมชนได้ถึง 5 ตัน และลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 127.1 ต้น”
พงษ์สันติ์ วงษ์เสริมหิรัญ ผช.ผอ.ฝ่ายศูนย์วิจัยพัฒนา และนวัตกรรม บมจ.ไทยวาโก้ หนึ่งในพันธมิตรปีนี้ กล่าวว่า “บริษัทฯ ได้สนับสนุนและดำเนินการในเรื่องของบรา จีโอไซเคิล ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของกลุ่มผลิตภัณฑ์ชุดชั้นในของประเทศไทยที่มีการจัดการซากของผลิตภัณฑ์อย่างมีระบบได้มาตรฐานไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อ,หากมองประโยชน์ที่ได้รับจากบราจีโอไซเคิล จะแบ่งเป็น 3 ข้อหลัก คือ 1.องค์กร กากของเสียถูกเผาอย่างสมบูรณ์ ลดความต้องการพื้นที่กักเก็บลดความเสี่ยงต่อการเสียชื่อเสียง สอดคล้องกับกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเสียอันตราย 2.ชุมชน ลดปริมาณกากของเสียที่จะต้องนำไปฝังกลบ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้คนรุ่นหลังสร้างงานให้กับคนในชุมชน 3.สิ่งแวดล้อม ลดและชะลอการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทนจากหลุมฝังกลบ ลดโอกาสการปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมเนื่องจากการฝังกลบ นอกจากนี้การเผาผลิตร่วมในเตาปูนซีเมนต์ ยังไม่ก่อให้เกิด “ขี้เถ้า หรือ "สิ่งตกค้าง" เหลือจากกระบวนการเผา เนื่องจากขี้เถ้าที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของปูนซีเมนต์ ถือเป็นการจัดการอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ได้มาตรฐานระดับสากล
ดร.ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ผอ.โปรแกรมสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวเสริมว่า “วาโก้ บราเดย์ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคมที่จะช่วยกระตุ้นให้ประชาชนหันมามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคมและหันมารักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยการร่วมบริจาคบราในครั้งนี้ถือว่าครบทั้ง 3 R นั้นก็คือ Reuse เริ่มจากการบริจาคบราให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ เพื่อนำวัสดุไปทำเป็นสิ่งประดิษฐ์ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ Reduce โดยการนำซากผลิตภัณฑ์ยกทรงไปเผาร่วมกับการผลิตปูนซีเมนต์ เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงส่งเสริมการลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจก และสุดท้าย Recycle คือการนำเศษโครงลวดดันทรง ห่วงปรับ และตะขอ ที่เป็น โลหะหลอมรวมเพื่อกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจ เพื่อการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพเกิดความคุ้มค่ามากที่สุดและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม"สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด (ที่ปรึกษาด้านงานประชาสัมพันธ์)โทร.02-284-2662 แฟกซ์. 02-284-2287,2291 www.kanokratpr.comคุณกนกรัตน์ วีรานุวัตติ์ E-mail: [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit