สีเดลต้า เปิดตัว ท็อปเทค ไพรเมอร์ “สูตรน้ำ” เป็นเจ้าแรก ตอกย้ำเบอร์หนึ่ง “สีรองพื้นทาบ้าน” ตั้งเป้ากวาดรายได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาท

24 Apr 2014
สีเดลต้า เปิดตัวสีรองพื้นปูนใหม่ สูตรพิเศษ ทาบ้าน “ท็อปเทค ไพรเมอร์” นวัตกรรมสูตรน้ำ แบรนด์แรกในไทย ชูคุณสมบัติโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ลดเวลาการทำงานได้มากกว่า 90% ทาทับได้ทันทีหลังฉาบปูน 3 วัน, ทนสภาวะด่างและเกลือ, ฟิลม์สีหายใจได้และกันความชื้นสูง ทำให้สีทับหน้าคงทนสวยงาม ไม่ซีดจาง สีไม่พอง ลอกล่อน ด้วยสูตรน้ำ โลว์วีโอซี [LOW V.O.C] ใส่ใจสุขภาพและรักษ์โลก เตรียมทุ่มทุนอีกกว่า 200 ล้านบาท จัดตั้งโรงงานผลิตสี เพิ่ม 1 แห่ง ผลิตสีด้วยเทคโนโลยีในสูญญากาศ ณ นิคมลาดกระบัง ตั้งเป้าปีนี้ กวาดรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
สีเดลต้า เปิดตัว ท็อปเทค ไพรเมอร์ “สูตรน้ำ” เป็นเจ้าแรก ตอกย้ำเบอร์หนึ่ง “สีรองพื้นทาบ้าน” ตั้งเป้ากวาดรายได้รวมกว่า 1,000 ล้านบาท

นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สีเดลต้า จำกัด เปิดเผยว่า ในการรุกตลาดปีนี้ จะเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรี่เมียมที่เป็นคนรุ่นใหม่ ผู้รักสุขภาพและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสี “สีรองพื้น” และ “สีทาบ้าน” ที่สืบทอดมายาวนานกว่า 35 ปี โดยเฉพาะความเป็นผู้นำตลาด “สีรองพื้นทาบ้าน” ซึ่งในไตรมาส 2 นี้ จะรุกตลาดด้วยการเปิดตัว “ท็อปเทค ไพรเมอร์” [TOPTECH PRIMER] สีรองพื้นทาบ้าน “สูตรน้ำ” นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ภายใต้สโลแกน “สีรองพื้นตัวท็อป ต้องท็อปเทค” [TOPTECH] เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและรองรับการเติบโตของตลาด ทั้งนี้ ในการรุกตลาดปี 2557 สีเดลต้า จะใช้งบส่งเสริมการตลาด ประมาณ 40-50 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20%

สีรองพื้น “ท็อปเทค ไพรเมอร์” [TOPTECH PRIMER] ภายใต้แบรนด์ “เดลต้า” ถือว่าเป็นสีรองพื้นปูนสด กันด่าง “สูตรน้ำ” แบรนด์แรกในประเทศไทยที่มีคุณภาพสูง ผลิตจากเรซินชนิดพิเศษ นำเข้าจาก ประเทศ สหรัฐอเมริกา สามารถทาทับปูนสดได้หลังจากฉาบปูนเพียง 3 วัน โดยสีรองพื้น “ท็อปเทค ไพรเมอร์” มีคุณสมบัติป้องกันปัญหาด่างและคราบเกลือจากปูน หรือ คอนกรีต อีกทั้ง ฟิล์มสียังทนต่อสภาพอากาศทุกฤดูกาล แม้แต่พื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ช่วยให้สีทาทับมีความสวยงามคงทน ไม่ซีด ไม่พอง ไม่ลอกล่อน และไม่เกิดคราบเกลือ สามารถใช้ทาได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร ซึ่งดีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ด้วยสูตรน้ำ “โลว์วีโอซี” [LOW V.O.C] ทั้งนี้ สีรองพื้น “ท็อปเทค ไพรเมอร์” มี 2 ขนาดให้เลือก คือ ขนาด 5 US Gallon และ 1 US Gallon ราคาจำหน่าย อยู่ระหว่าง 1,500 – 2,000 บาท มีวางจำหน่ายที่ ร้านค้าเทรดดิชั่นแนล และ โมเดิรน์เทรด อาทิ โฮมโปร, โฮมเวิร์ค เป็นต้น รวมไปถึง ร้านตัวแทนจำหน่ายวัสดุก่อสร้างระดับชั้นนำทั่วประเทศ

สีรองพื้น “ท็อปเทค ไพรเมอร์” รุ่นใหม่ เป็นสูตรน้ำ ที่ใส่ใจต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นสูตร โลว์วีโอซี [LOW V.O.C] หรือ Volatile Organic Compounds ซึ่งจะมีสาร “วีโอซี” ต่ำ ไม่มีกลิ่มฉุนที่ระคายเคืองต่อระบบการหายใจ จึงช่วยลดการเข้าสู่ร่างกายทั้ง ผ่านการหายใจ การดื่มกิน และการสัมผัส โดยลดการสะสม วีโอซี ในชั้นบรรยากาศของโลก ที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนอีกด้วย ในส่วนของความคุ้มค่า สีรองพื้น “ท็อปเทค ไพรเมอร์” ขนาดบรรจุ 5 US Gallon สามาถใช้ทาคลุมพื้นที่ผิวเรียบได้มากถึง 30-35 ตารางเมตร ทำให้ทั้งสะดวกและรวดเร็วกับงานที่เร่งรีบที่ต้องการคุณภาพสูง โดย “ท็อปเทค ไพรเมอร์” มีอัตราการแห้งเร็ว ภายใน 30 นาที ด้วยคุณสมบัติเป็นฟิลม์สีที่เนียนเรียบ จึงสามารถทาโดยใช้แปรง ลูกกลิ้ง หรือพ่น ทุกรูปแบบ

นายอรรถพลกล่าวและเพิ่มเติมว่า “ในปัจจุบันตลาดสีมีมูลค่ารวมกว่า 15,500 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีอัตราการเติบโตลดลงมาประมาณ 5-10% ทั้งนี้ อัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง น่าจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตาม “สีเดลต้า” มีแผนที่จะเปิดตัวสีนวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกหลาย ไอเท็ม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย ยิ่งไปกว่านั้นจะตั้งโรงงานผลิตสีแห่งใหม่ในย่านลาดกระบัง ซึ่งจะผลิตสีด้วยเทคโนโลยีแบบสูญญากาศ (Vacuum Paint Technology) ด้วยงบลงทุนกว่า 200 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตสีและรองรับความต้องการของลูกค้า ทั้งในประเทศ ตลาดส่งออก และตลาดเออีซี ทั้งนี้ ในการรุกตลาด จะเน้นใช้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบบีโลว์เดอะไลน์ รวมไปถึงการใช้สื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่

สำหรับปี 2557 ถือเป็นปีพิสูจน์ความสามารถของผู้ประกอบการต่างๆ เนื่องจากมีปัจจัยลบในด้านเศรษฐกิจและการเมือง โดยภาคธุรกิจที่มีการวางแผนและทำตลาดอย่างต่อเนื่อง อาจได้รับผลกระทบไม่มากนัก ในส่วนของ “สีเดลต้า” มีความมั่นใจว่าจุดแข็งของแบรนด์ ที่ลูกค้าให้การยอมรับมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 35 ปี ด้วยการประกอบธุรกิจและบริหารงานแบบมืออาชีพ และพยายามพัฒนาคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ มาให้กับผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นแรงผลักดันให้ “สีเดลต้า” ประสบความสำเร็จในการทำตลาดได้เป็นอย่างดี ด้านผลประกอบการในปีที่ผ่านมา “สีเดลต้า” มียอดขายรวมอยู่ที่ 800 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายโครงการ 30% ยอดขายผ่านร้านค้า เทรดดิชั่นแนล และ โมเดิร์นเทรด 70% โดยในปี 2557 นี้ สีเดลต้า ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,000 ล้านบาท และเติบโต 20%” นายอรรถพลกล่าวสรุปในที่สุด

HTML::image(