นางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่าจากกรณีที่เด็กชาย ศุภชัย หรือน้องต๊อบ ธรรมานุพัตน์ อายุ ๑๓ ปี จมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ ๓ เม.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความโศกเศร้าของนางกัลยา เกตุนาวา และนายบุญศักดิ์ ธรรมานุพัฒน์ บิดาและมารดาที่ต้องสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ นางกัลยา เล่าว่า ระหว่างงานสวดศพคืนสุดท้ายมีแขกเหรื่อมาร่วมแสดงความเสียใจ จำนวนมาก อยู่ๆเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน โลงศพของน้องต๊อบ เกิดสั่นและตกลงมาจากแท่นวาง ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานต่างพากันตกใจและพูดกันไปต่างๆนานา บางคนพูดว่าเห็นวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งอยู่ที่ข้างบ่อน้ำวันเกิดเหตุและได้เสียงร้อง จนต่อมาเพื่อนของน้องต๊อบก็วิ่งมาบอกให้ไปช่วยเพื่อนที่จมน้ำหายไปในบ่อ ด้วยท่าทางตกใจและเหมือนหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยมาช่วยกันงมหาได้สักพักก็พบร่างไร้วิญญาณของน้องต๊อบ แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ต่อมามีพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในวันเกิดเหตุมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นางกัลยา และนายบุญศักดิ์ฟังว่าน้องต๊อบถูกทำร้ายร่างกาย ตบหน้า บีบคอแล้วยกตัวขึ้นสูงแม้กระทั่งน้องต๊อบยกมือไหว้ร้องขอให้หยุดก็ไม่ยอมปล่อย จากนั้นก็ปล่อยตัวลงให้กระแทกกับพื้น ทั้งยังเอาไม้ตีที่ลำตัวอย่างแรง ก่อนจับโยนลงบ่อน้ำจนจมน้ำเสียชีวิต บริเวณบ่อดิน หน้าทางเข้าหมู่บ้านบัวสีเงิน ม.๒ ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก แต่ที่ผ่านมาไม่กล้าพูดให้ใครฟังเพราะถูกขู่ฆ่าเอาไว้ แต่คิดว่าน้องต๊อบคงต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมจึงตัดสินใจที่จะพูดความจริงจากนั้นนางกัลยาจึงร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เรียกร้องขอให้ตำรวจเอาตัวคนผิดที่ทำร้ายบุตรชาย มาดำเนินคดีให้ได้ เพราะผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นพี่ชายของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่มาชอบพอบุตรชาย และตนเองสงสัยจึงไปเปิดดูเฟสบุ๊คของบุตรชายก็พบว่า มีข้อความถูกขู่ฆ่าอีกด้วย จึงได้พยายามหาหลักฐาน พยานมาให้ตำรวจ แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า นางกัลยา และนายบุญศักดิ์ สองสามีภรรยาจึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ว่าการเสียชีวิตของบุตรชายมีเงื่อนงำ จึงขอให้นางปวีณาช่วยให้ความเป็นธรรมด้วย
เมื่อวันที่ ๑๓ เม.ย.ที่ผ่านมา นางปวีณา จึงได้ประสานกับพล.ต.ท.นพ.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เพื่อนำศพเด็กชาย ศุภชัย หรือน้องต๊อบ มาตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง โดยมี พ.ต.อ.ภวัต ประทีปวิศรุต รองผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เป็นผู้ผ่าพิสูจน์ศพ และในวันที่ ๑๔ เม.ย.ผลผ่าชันสูตรศพตรวจเบื้องต้น พบว่า กล้ามเนื้อชายโครงสีข้างช้ำเป็นแถบทั้งสองข้าง พบเลือดออกรอบเยื่อหุ้มไต ๒ ข้าง หน้าท้องเขียว ไม่ชัดเจนว่าเกิดจากการเน่าอย่างเดียวหรือช้ำร่วมด้วยหรือไม่ จากนั้น นางปวีณาได้รีบประสานไปยังพล.ต.ต. ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดพิษณุโลก เพื่อให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวนางกัลยาและลูกชายที่เสียชีวิต และเร่งให้มีการสอบป.วิอาญาเด็กที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดไว้แล้ว พร้อมทั้งขอให้มีการคุ้มครองผู้เสียหายและพยาน เนื่องจากมีโทรศัพท์มาข่มขู่ และมีรถมอเตอร์ไซต์วิ่งผ่านมาแถวหน้าบ้านและวนอยู่หลายรอบ จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
“สำหรับการมาหารือครั้งนี้ เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบคดี ทำงานด้วยความโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลคุ้มครองพยาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนยันว่า จะเร่งสรุปคดีและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ ในส่วนของผู้เสียหาย และพยาน ได้มอบหมายให้อยู่ในความดูแล ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และจะประสานให้ความช่วยเหลือต่อไป” นางปวีณา กล่าวตอนท้าย.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit