กีรติ เสริมประภาศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เอส. พี. เอส กล่าวว่า “MODAR เป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์แบบสั่งทำ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อการใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ ตอบสนองความต้องการของชีวิตทันสมัย เป็นหนึ่งในเฟอร์นิเจอร์คุณภาพระดับโลกของกลุ่มบริษัท เอส. พี. เอส ซึ่งเรามีผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ใหม่รูปแบบต่างๆ และมีประสบการณ์สร้างสรรค์คุณภาพสำหรับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการอาคารสูงที่ต้องการการออกแบบสำหรับการใช้งานหลากหลายในพื้นที่ที่จำกัด เราเน้นช่วยให้ลูกค้าของเราใช้ผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์ที่ผลิตจากวัสดุที่เหมาะสมที่สุด”
“ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศฟิลิปปินส์ มีความต้องการสูงมากจากผู้ทำงานชาวฟิลิปปินส์กว่า 10 ล้านคน ที่ไปทำงานในต่างประเทศ และเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนโดยมีประชากรมากกว่า 96 ล้านคน” ฟิลิปปินส์ยังขายบ้านเปล่าเป็นหลังๆ ตามที่สร้างต่างกับประเทศไทย ทำให้เรามีโอกาสดีที่จะเปลี่ยนตลาดค้าบ้านและเป็นผู้นำในการเสนอรูปแบบใหม่นี้
มร. แอนดรู เดอ จีซัส ประธานบริษัทวิกซ์ กล่าวว่า “บริษัทของเราเน้นช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวฟิลิปปินส์โดยนำเสนอเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มบริษัท เอส. พี. เอส. ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ บริษัทของเราจะรับผิดชอบในการติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ MODAR ในโครงการอาคารชุดคอนโดมีเนียม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในความร่วมมือนี้ เราจะสามารถจัดหาเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสมให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดังเช่นที่เราได้เห็นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาแล้วเช่นในประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์”
บริษัทร็อคแลนด์ และกลุ่มบริษัท เอส. พี. เอส. จะร่วมกันนำเสนอเฟอร์นิเจอร์แนวใหม่ในประเทศอินเดีย และนำเสนอโครงการในอุตสาหกรรมสร้างบ้านในประเทศอินเดีย บริษัทจะนำเสนอเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบภายใต้แบรนด์ MODAR ให้กับลูกค้าในโครงการก่อสร้างทั้งในปัจจุบันและโครงการใหม่ๆ ในอนาคต
บริษัทร็อคแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นกลุ่มบริษัทที่มีประสบการณ์ธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งในทวีปแอฟริกา ยุโรป และในคาบสมุทรอินเดีย เป็นตัวแทนบริษัทที่มีชื่อเสียง เช่น Toray Industries แอฟริกา และส่งออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังประเทศต่างๆในทวีปยุโรป
ในขณะที่ตลาดเฟอร์นิเจอร์และสินค้าเครื่องใช้ในบ้านปัจจุบันมีกำลังซื้อที่ดี และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตในปีต่อๆ ไปด้วย เฟอร์นิเจอร์เป็นส่วนสำคัญในสินค้าประดับบ้านในอินเดีย และมีความต้องการใหม่ๆ ตามความนิยมของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ความต้องการเฟอร์นิเจอร์ชุดสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอนหรูหราและห้องครัวที่เป็นสไตล์ของตัวเองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
มร. ราเครช คูมาร์ กรรการผู้จัดการ บริษัท ร็อคแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้แทนจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในเมืองใหญ่ๆ ของประเทศอินเดียหลายเมือง เช่น นิวเดลี มุมไบ ปูเน่ และเชนไน กล่าวว่า การที่ร็อคแลนด์ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายนี้จะช่วยให้ กลุ่มเอส.พี.เอส. สามารถขยายฐานลูกค้ากว้างขวางขึ้น และใช้ประสบการณ์ในการผลิตเฟอร์นิเจอร์เข้าชุดให้ครอบคลุมโครงการก่อสร้างรูปแบบต่างๆ เราได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ MODAR ไปยังลูกค้าปัจจุบันและโครงการในอนาคต ปัจจุบันร็อคแลนด์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ให้กับโครงการก่อสร้างแบบวิลล่า และอาคารชุดคอนโดมีเนียม ในเมืองปูเน่และบังกาลอร์
นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปีนี้ กลุ่มบริษัทเอส.พี.เอส. คาดว่าแนวโน้มการส่งออกของตลาดเฟอร์นิเจอร์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 จากปี 2556 เรามั่นใจว่าการลงนามตกลงความร่วมมือกับบริษัทวิกซ์ และร็อคแลนด์เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ MODAR นี้จะทำให้เราก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและส่งออกเฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ตกแต่งภายในบ้านและอาคารชุดคอนโดมิเนียม การลงทุนใหม่นี้จะเพิ่มยอดลงทุนของบริษัทและยอดจำหน่ายในประเทศอินเดียและประเทศในสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน อุตสาหกรรมการผลิตเฟอร์นิเจอร์ของไทยจะได้รับประโยชน์มหาศาลจากการลงทุนนี้ และเมื่อมีการก่อตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 บริษัทผู้ผลิตของไทยก็จะสามารถส่งออกสินค้าของตนไปยังตลาดต่างๆ ทั่วภูมิภาคเอเซียและเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ และจะเป็นโอกาสนำเสนอสินค้าคุณภาพสูงของไทยที่ได้มาตรฐานคุณภาพระดับโลก”
สำหรับตลาดในประเทศไทย ในปี 2556 เราได้ทำสัญญากับโครงการอาคารชุด 6 แห่ง มีมูลค่าประมาณ 75 ล้านบาท และในปี 2557 มีเป้าหมายทำสัญญากับโครงการอาคารชุดคอนโดมิเนียมอีก 10 แห่งซึ่งจะมีมูลค่าประมาณ 150-200 ล้านบาท
ตลาดต่างประเทศในโครงการลงทุนใหม่นี้ได้แก่ประเทศอินเดียและประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับประเทศอินเดียเรามีแผนงานเข้าถึงตลาดใน 2 ระดับ คือ การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ในโครงการก่อสร้างวิลล่าที่เมือง บังกาลอร์ ซึ่งแต่ละยูนิตมีมูลค่าประมาณ 20 ล้านบาทหรือมากกว่านั้น และมีแผนโครงการอาคารชุดคอนโดมิเนียม ประมาณ 200 ยูนิต ที่เมืองปูเน่ มูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านบาท บริษัทมีแผนงานโครงการอาคารชุดคอนโดมีเนียม 500 ยูนิต ในปี 2558 ซึ่งจะมีมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท สำหรับตลาดในประเทศฟิลิปปินส์ บริษัทคาดว่าจะมีโครงการมูลค่า 50 ล้านบาทในปี 2557 กลุ่มบริษัท เอส. พี. เอส. กำลังพิจารณาขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซียด้วย ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตสูงถึงอย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit