GUNKUL ซุ่ม ตั้งบริษัทย่อย“กันกุล แอลอีดี ไลท์ติ้ง” ขยายไลน์สินค้า หวังผงาดผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่องสว่าง

14 May 2014
บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เสิร์ฟข่าวดี บอร์ดมองไกล ไฟเขียวตั้งบริษัทย่อย "กันกุล แอลอีดี ไลท์ติ้ง" ขยายไลน์ธุรกิจผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า หวังเพิ่มความแข็งแกร่งในระยะยาว พร้อมมองแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส2/2557 สดใส จากไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 204.57 ล้านบาท “สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย”มั่นใจทั้งปีรายได้รวม โตกระฉูดไม่ต่ำกว่า 50% ประกาศลุยขยายงานทุกภาคส่วน หวังผงาดผู้นำธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างครบวงจร

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ /2557 มีมติให้จัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ บริษัท กันกุล แอลอีดี ไลท์ติ้ง จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ส่องสว่างประเภทหลอดไฟแอลอีดี (LED) ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับไฟฟ้าตามแผนงานที่ได้วางไว้ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2557

ทั้งนี้ บริษัท กันกุล แอลอีดี ไลท์ติ้ง จำกัด มีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท (ทุนชำระแล้ว 2,500,000 บาท) มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จำนวน 100,000 หุ้น โดย GUNKUL ถือหุ้นในสัดส่วนจำนวน 74,999 หุ้น นายคณพัฒน์ จิรเกษมพงศ์ ถือหุ้นในสัดส่วนจำนวน 20,000 หุ้น นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ถือหุ้นในสัดส่วน 1 หุ้น นางสาวปิญาภรณ์ จิรเกษมพงศ์ ถือหุ้นในสัดส่วน 2,500 หุ้น และนายคยอง โฮ คิม ถือหุ้นในสัดส่วน 2,500 หุ้น

“นับจากนี้ธุรกิจของ GUNKUL จะครบวงจรมากยิ่งขึ้น ตามแผนที่ได้วางไว้ทุกประการ ซึ่งจะส่งผลทำให้โครงสร้างทางธุรกิจรวมถึงผลการดำเนินงานของ GUNKUL เติบโตอย่างมีศักยภาพ ทั้งจากธุรกิจผู้ผลิตไฟฟ้า รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า (EPC) โดยธุรกิจใหม่ที่เข้ามาจะมีส่วนสำคัญในการต่อยอดธุรกิจในปัจจุบันของบริษัทได้ดีเป็นอย่างยิ่ง"นายสมบูรณ์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส1/2557 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2557) ของบริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 204.57 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,135.57 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส2/2557 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทได้ลงนามในสัญญาจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบสถานีไฟฟ้าและสายส่งกับหน่วยงานการไฟฟ้า (MEPE) (สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์) มูลค่ารวม 480 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการส่งมอบสินค้าและรับรู้รายได้ในไตรมาส1เพียง 7.50% ของมูลค่ารวม และส่วนใหญ่จะส่งมอบสินค้าได้ในไตรมาสที่2 และ3 ของปี 2557 นี้ อีกทั้งยังทยอยรับรู้รายได้จากภาคธุรกิจส่วนอื่นๆ เข้ามาเช่นกัน

"แม้ภาพรวมทางเศรษฐกิจจะชะลอตัว จากสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง แต่ผลประกอบการไตรมาสแรกของ GUNKUL ก็ถือว่าออกมาเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเชื่อว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส2 น่าจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่รายได้รวมในปีนี้เชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 50% ได้"นายสมบูรณ์กล่าวในที่สุด