โกลว์ไอพีพีเริ่มใช้มาตรฐานบัญชีใหม่เรื่องสัญญาเช่าการเงิน
โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป มาตรฐานบัญชีไทยได้นำมาตรฐานเกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน (Financial Lease) ของ International Financial Reporting Standard (IFRS) มาใช้ ซึ่งสินทรัพย์เดียวของกลุ่มบริษัทโกลว์ที่เข้าข่ายนำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้คือ โกลว์ไอพีพี (โรงไฟฟ้าไอพีพีก๊าซธรรมชาติขนาด 713 เมกกะวัตต์ ซึ่งโกลว์ถือหุ้นร้อยละ 95) การเปลี่ยนแปลงการบันทึกบัญชีที่สำคัญคือการบันทึกอาคาร ที่ดิน และอุปกรณ์ (ตลอดจนการบันทึกค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ดังกล่าว) และการรับรู้รายได้ค่าความพร้อมจ่าย (ซึ่งปรับมาเป็นการรับรู้ในรูปรายได้จากสัญญาเช่าการเงินแทน)
นายสุทธิวงศ์ คงสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบัญชีดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อวิธีการลงบัญชีเท่านั้น มิได้มีผลต่อกระแสเงินสดและความสามารถในการจ่ายเงินปันผลของโกลว์ไอพีพีแต่อย่างใด ดังนั้นเราจึงยังคงวิเคราห์ผลการดำเนินงานตามมาตรฐานบัญชีเดิม และยังคงนโยบายจ่ายเงินปันผลขั้นต่ำไว้เท่ากับร้อยละ 50 ของ NNP ซึ่งไม่รวมรายการปรับปรุงต่างๆ เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน ทั้งนี้เนื่องจากแม้การรับรู้รายได้ทางบัญชีจะเปลี่ยนไปแต่กระแสเงินสดจากการดำเนินการของโกลว์ไอพีพีมิได้เปลี่ยนแปลง”
EBITDA และ NNP ไตรมาสที่ 1 ปี 2557 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 6 และ 3 ตามลำดับ
กลุ่มบริษัทโกลว์แจ้งผลประกอบการที่สำคัญสำหรับไตรมาสที่ 1 ของปี 2557 ดังนี้:
EBITDA และ NNP สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2557 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และ 3 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ผลการดำเนินการแข็งแกร่งทั้งธุรกิจโคเจนเนอเรชั่น และ ธุรกิจไอพีพี
นายเอซ่า เฮสคาเน่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า “ผลการดำเนินการของเราในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 นี้ยังคงแข็งแกร่ง โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าไอพีพีถ่านหินขนาด 660 เมกกะวัตต์ที่เราถือหุ้นร้อยละ 65 มีผลการดำเนินการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยหากไม่รวมการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนงานจำนวน 2 อาทิตย์ในช่วงเดือนมกราคมแล้ว ถือว่าโรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ดำเนินการได้เป็นอย่างดีตลอดทั้งไตรมาสนี้ ด้านโรงไฟฟ้าห้วยเหาะ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 152 เมกกะวัตต์ที่เราถือหุ้นร้อยละ 67.25 นั้น ภายหลังจากที่การซ่อมแซมสายส่งที่เสียหายมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 แล้วเสร็จ ก็ได้กลับมาเริ่มส่งไฟฟ้าให้กฟผ. ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยยอดขายไฟฟ้าช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมปีนี้รวมกันสูงกว่ายอดขายตลอดไตรมาส 1 ปี 2556 กว่าร้อยละ 20 ส่วนในด้านธุรกิจโคเจนเนอเรชั่น ยอดขายและอัตรากำไรยังคงมีเสถียรภาพต่อเนื่อง แม้ว่าเราจะมีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของโรงไฟฟ้า CFB1 และ CFB2 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นถ่านหินขนาด 150 เมกกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าระยะที่ 5 ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นก๊าซธรรมชาติขนาด 382 เมกกะวัตต์ ในไตรมาสนี้ก็ตาม”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit