นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทยเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพนายหน้าฯ ว่า ที่ผ่านมาสมาคมได้ร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์กรมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี จัดทำมาตรฐานวิชาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในอาชีพนี้มีมาตรฐานการทำงานและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เหมือนเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทั้งในเอเชียและยุโรปที่ได้มีการประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้ว เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง อเมริกาฯลฯ และบางประเทศได้มีการประกาศใช้กฎหมายออกมาควบคุมธุรกิจการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์มือสองมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ในประเทศไทยนั้นแม้ว่ามีการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ผ่านนายหน้ามาอย่างยาวนาน แต่ยังไม่มีพ.ร.บ.ออกมาบังคับใช้ เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเป็นแนวทางหนึ่งในการส่งเสริมและพัฒนาวิชาชีพนายหน้าฯ รวมทั้งควบคุมให้อยู่ในระเบียบและแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ เนื่องจากธุรกิจบ้านมือสองนั้นมีขนาดใหญ่และมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
"เดิมมีจำนวนบ้านมือสองในตลาดอยู่ประมาณ 300,000 ยูนิต หลังจากที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2554 มีอาคารและที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายจำนวนมากและทำให้มีบ้านมือสองเพิ่มขึ้นในตลาดประมาณ 100,000 หลัง ส่งผลให้ปริมาณบ้านมือสองในตลาดมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 400,000 ยูนิตในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปดูข้อมูลการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่าง ๆ พบว่ายอดการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองในแต่ละปีสัดส่วนไม่น้อยกว่าบ้านใหม่ แสดงให้เห็นถึงความต้องการบ้านมือสองยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑล” นายแพทย์สมศักดิ์กล่าว
นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อตลาดบ้านมือสองอยู่ในความต้องการซื้อของตลาด จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาวิชาบุคลากรเพื่อทำหน้าที่บริการประชาชน จึงได้จัดทำคู่มือมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสร้างมาตรฐานและคุณภาพของผู้ที่อยู่ในอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ของไทยให้มีความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานเทียบเท่าหรือสูงกว่าผู้ที่มีอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จากประเทศอื่นๆในอาเซียน เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเป็นทางการในปี 2558 โดยในอนาคตอันใกล้นี้จะทำการนำเสนอผลการจัดทำมาตรฐานอาชีพต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเห็นชอบและจะจัดประชาพิจารณ์เพื่อนำเสนอผลการจัดทำมาตรฐานอาชีพและรับฟังความคิดเห็น โดยเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ บุคลากรและผู้ทรงคุณวุฒิในอาชีพ สมาคมชมรม หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบุคคลโดยทั่วไปเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมและการยอมรับจากทุกภาคส่วน โดยได้กำหนดให้มีการจัดการประชาพิจารณ์ไว้ดังนี้ ภาคเหนือจะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 11 ตุลาคม 2557ภาคใต้จัดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ตในวันที่ 4 ตุลาคม 2557ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 13 กันยายน 2557 และจังหวัดขอนแก่นในวันที่ 27กันยายน 2557 ภาคตะวันออกจัดขึ้นที่พัทยาในวันที่ 18ตุ ลาคม 2557สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑลจัดขึ้นในวันที่ 5 กันยายน 2557