โดยนายแพทย์ธนพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) กล่าวว่า ปัจจุบันนี้อุบัติเหตุและความสูญเสียจากการใช้รถใช้ถนนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความสูญเสียที่มาจากรถโดยสารสาธารณะ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีนโยบายในการจัดการด้านความปลอดภัยของระบบขนส่งสาธารณะ โดยล่าสุดศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน หรือ ศวปถ. ได้มีการยื่นเรื่องถึง คสช. ให้พิจารณาปฏิรูปเรื่องความปลอดภัยและจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะรถตู้โดยสาร เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า ผู้ให้บริการส่วนใหญ่มีการทำผิดกฏของกรมการขนส่งทางบก ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ถือเป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการ ใช้รถ ใช้ถนน หรือ กปถ. และหน่วยงานต่างๆ เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างเป็นรูปธรรม โดยจากข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกเปิดเผยว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุในการคร่าชีวิตผู้คนมากเป็นอันดับ 5 ของโลก และประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ที่มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด นั่นคือ 44 คน ต่อ 1 แสนคน ซึ่งยังไม่นับรวมผู้ที่ได้กลายเป็นผู้พิการจากอุบัติเหตุ นี่ถือเป็นระบาดวิทยาที่หากไม่มีการจัดการแก้ไข เชื่อได้ว่า ไทยอาจขึ้นแท่นเป็นอันดับ 1 ภายใน 10 ปี จึงทำให้รัฐบาลทุ่มเทกับเรื่องนี้มาก เพราะถ้าหากคำนวณออกมาแล้ว การสูญเสียที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรมนุษย์คนหนึ่งในอุบัติเหตุแต่ละครั้งจะมีมูลค่าอย่างมหาศาล สำหรับประเทศไทยหากคำนวณรวมออกมาแล้ว คิดเป็นการสูญเสียถึง ปีละ 2 เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพีเลยทีเดียวด้านนายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 จนถึงปัจจุบันมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 100,000 – 120,000 ครั้ง สร้างความเสียหายสูงถึง 232,000 ล้านบาท ซึ่งความสูญเสียดังกล่าวนั้นเป็นการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่สามารถประเมินค่าได้เลย ที่สำคัญในการสูญเสียทรัพยากร 1 คนนั้น ทำให้ประเทศขาดผู้ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจของชาติให้เจริญรุ่งเรืองได้ในทุกๆ ด้านไป การลดอุบัติเหตุบนท้องถนนจึงไม่เป็นเพียงแค่ช่วยรักษาชีวิตผู้คนเท่านั้นแต่ยังสามารถช่วยให้รัฐป้องกันการสูญเสียทางเศรษฐกิจที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย ดังนั้นกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน หรือ กปถ. เป็นองค์กรที่มีเป้าหมายหลักในการลดอัตราผู้เสียชีวิตและการบาดเจ็บจากการใช้รถใช้ถนนทั่วประเทศ โดยรายได้เพียงหนึ่งเดียวของกองทุนนี้มาจาก ‘เงินค่าธรรมเนียมพิเศษที่ได้จากการประมูลหมายเลขทะเบียนรถซึ่งเป็นที่ต้องการ’ รวมถึงเงินบริจาค และดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น โดยพันธกิจหลักของ กปถ. นั้น มี 4 ข้อ ด้วยกันคือ 1.สนับสนุนและส่งเสริมโครงการหรือแผนงานทางด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของกรมการขนส่งทางบก 2.สนับสนุนค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ในส่วนที่นอกเหนือจากค่าสินไหมทดแทนตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 3.สนับสนุนส่งเสริมการศึกษาวิจัยด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนและเผยแพร่องค์ความรู้ต่อสาธารณชน 4.สนับสนุนและส่งเสริมการจัดประมูลหมายเลขทะเบียนรถ และการบริหารงานตามพันธกิจของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนเป้าประสงค์ลดความสูญเสียอันเกิดจากอุบัติเหตุทางถนน
“ที่ผ่านมาในพันธกิจที่ 1 และ 2 นั้นได้มีการทำกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยปัญหาเรื่องรถโดยสารสาธารณะมีเกิดขึ้นมากมายหลากหลายปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการใช้ความเร็วเกินกำหนด ขับแซงซ้าย แซงขวา ไม่เคารพกฎจราจร, สภาพรถมีการดัดแปลง บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่ากำหนดที่จดทะเบียน, สภาพของรถที่ไม่เหมาะต่อการนำมาเป็นรถโดยสารสาธารณะ, คนขับมีสภาพร่างกายไม่พร้อม ซึ่งนี่จะเป็นพันธกิจที่ทาง กปถ. พร้อมที่จะสนับสนุนส่งเสริมการศึกษาวิจัยด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนและเผยแพร่องค์ความรู้ต่อสาธารณชนต่อไปในปีนี้ ร่วมกับ ศวปถ. และทุกภาคส่วน เพื่อเป็นการร่วมกันสนับสนุนตามนโยบายจัดการรถสาธารณะ รวมถึงการใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เสมือนมอบความปลอดภัย และคืนความสุขให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน เป็นการเฝ้าระวังและส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนนมากยิ่งขึ้นต่อไป” นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต กล่าว
ทั้งนี้นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ประธานคณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) กล่าวเสริมว่า สำหรับปี 2557 ซึ่งเป็นปีแห่งการครบรอบทศวรรษของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน นอกจากกองทุนจะเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นการสอดรับกับการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุผลตามเป้าหมาย เพื่อยังความปลอดภัยและบริการที่ดีสู่ประชาชนผู้ใช้บริการ โดยในแต่ละปีจะมีการจัดสรรเงินกองทุนประมาณ 5% จากรายได้ทั้งหมด มาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนท้องถนนด้วยการจัดสรรเป็นค่าอุปกรณ์ที่ จำเป็นต่อการยังชีพสำหรับผู้พิการที่ประสบภัยที่เป็นผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน และไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจาก กปถ. มาก่อน หรือเคยได้รับการช่วยเหลือมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี อุปกรณ์ที่สามารถขอรับจัดสรรได้ อาทิ แขน-ขาเทียม รถนั่งสำหรับผู้พิการ ที่นอนลมป้องกันแผลกดทับ และรถสามล้อโยก ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมามีการช่วยเหลือผู้พิการแล้วกว่า 3,000 ราย เป็นเงินมากกว่า 145 ล้านบาท
“ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะของ คสช. คือการจัดระเบียบรถตู้ วินมอร์เตอร์ไซด์ รถแท็กซี่ รถบริการสาธารณะต่างๆ ทาง กปถ. กรมการขนส่ง ก็ได้มีนโยบายของกองทุนเพื่อลดอัตราของการเกิดอุบัติเหตุลดลงอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเข้มงวดให้ผู้ขับขี่รถต่างๆ ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดขึ้น คือ ผู้ขับขี่รถต้องมีใบขับขี่ถูกต้อง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปฏิบัติตามกฏจราจร สภาพรถมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่บรรทุกผู้โดยสารเกิน และอื่นๆ ได้อย่างจริงจัง เชื่อว่าอุบัติเหตุก็จะลดลงตามไปด้วยได้ ทั้งนี้ผู้ที่สนใจขอรับการสนับสนุนตามนโยบายของกองทุน สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบกทุกแห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมีการประกาศการเปิดรับสนับสนุนเพื่อพิจารณา ดูรายละเอียดใน www.roadsafefund.com” นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ กล่าว