มอบความรัก…สื่อใจถึงใจผ่านงานศิลป์…จากพี่ถึงน้องในโลกเงียบ

28 Jul 2014
บริษัท นานมี จำกัด ได้จัดโครงการ “มอบความรักผ่านงานศิลป์” มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำความรักความปรารถนาดีผ่านสื่อศิลปะเข้าไปสู่ผู้คนทุกเพศทุกวัย ครั้งล่าสุดนี้ได้ร่วมกับ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี นำความรักไปสู่น้องๆ ที่โรงเรียนโสตศึกษา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นเยาวชนผู้บกพร่องทางการได้ยินในโครงการ“มอบความรักผ่านงานศิลป์…จากใจพี่ถึงน้องในโลกเงียบ
มอบความรัก…สื่อใจถึงใจผ่านงานศิลป์…จากพี่ถึงน้องในโลกเงียบ

นายศุรวิทย์ สุพุทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท นานมี จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันมีเด็กๆ ซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย แต่สามารถเรียนหนังสือ รวมทั้งการทำกิจกรรมอื่นๆได้เช่นเดียวกับเด็กปกติ สำหรับเด็กผู้พิการทางการได้ยินส่วนใหญ่ เมื่อขาดกำลังใจและความรักจากคนรอบข้างและสังคมส่งผลกลายเป็นความบกพร่องทางอารมณ์และจิตใจไปด้วย จึงทำให้เด็กขาดความมั่นใจในตนเอง รู้สึกไม่เหมือนคนอื่น มีปมด้อย การทำงานศิลปะจึงเป็นเครื่องมือในการสื่อสารและช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ให้เกิดความมั่นใจ เห็นคุณค่าและภาคภูมิใจในความเป็นตนเองมากยิ่งขึ้น ดังนั้นเชื่อว่าโครงการ“มอบความรักผ่านงานศิลป์” ของนานมีนี้ จะเป็นพลังให้แก่น้องๆกลุ่มนี้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข

อาจารย์สิโรจน์ พวงบุปผา อาจารย์ประจำคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี กล่าวว่า “ปัจจุบันมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีได้เปิดกว้างให้กับนักศึกษาซึ่งมีความรู้ความสามารถซึ่งแม้มีความบกพร่องทางการได้ยินได้เข้ามาศึกษาในมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับนักศึกษาปกติ ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้แม้มีความบกพร่องทางร่างกายแต่สามารถเรียนหนังสือ ช่วยเหลือตนเองและดำเนินชีวิตในสังคมได้ตามปกติ สำหรับที่ตัวอาจารย์สอนอยู่ก็เป็นนักศึกษาซึ่งมีความบกพร่องทางการได้ยินจำนวนเกินกว่าครึ่ง จึงได้ร่วมมือกับบริษัทนานมี ทำโครงการนี้ขึ้นมา โดยเป็นการให้พี่ๆซึ่งก็มีความบกพร่องทางการได้ยินเช่นเดียวกับน้องๆ มาเป็นจิตอาสาสอนศิลปะและร่วมแบ่งปันประสบการณ์และเสริมสร้างความรู้ใหม่ๆให้แก่รุ่นน้อง โดยเลือกการสร้างสรรค์งานศิลปะผ่านตัวการ์ตูนปูนปั้นรูป “ปลาปักเป้า” เนื่องจากเห็นว่าน้องๆอยู่ในพื้นที่ติดชายทะเลแถบบางแสน ย่อมมีความคุ้นเคยกับสัตว์ทะเล และยังเป็นรูปแบบการทำงานศิลปะแบบสามมิติ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นจินตนาการและสร้างแรงจูงใจในการทำงานศิลปะแบบใหม่ๆซึ่งน้องๆยังไม่เคยลองทำมาก่อนด.ช.รัชพล อุดมสมบูรณ์ อายุ 12 ขวบ หรือน้องบิ๊ก เล่าด้วยภาษามือให้พี่ๆฟัง โดยแปลผ่านล่ามด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า วันนี้สนุกมากครับ มีพี่เอสมาช่วยสอนผมระบายสี ตัวปลาปักเป้าผมคิดว่าน่าจะมีฟันที่แหลมคมเพื่อใช้ป้องกันตัวเอง ส่วนสีสันผมใช้สีสดเพราะอยากให้ดูสดใสครับ ปกติผมขี้อาย ไม่ค่อยคุยกับใคร แต่พี่เอสใจดี เราคุยกันผ่านภาษามือครับ หรือดูด้วยสายตาก็เข้าใจกัน ขณะที่พี่เอส หรือ นายวสันต์ ครุฑแสง นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ซึ่งมีความบกพร่องทางการได้ยินเช่นเดียวกัน บอกว่า บิ๊กเป็นเด็กน่ารักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสมาธิสูง เพราะเราต่างอยู่ในโลกเงียบเหมือนกันจึงทำให้สื่อสารและเข้าใจกันได้ง่ายครับ แต่น้องดูไม่ค่อยกล้าแสดงออกมากนัก ผมพยายามให้น้องได้แสดงความคิดเห็นว่าต้องการวาดปลาออกมายังไง จะใช้สีในโทนไหน อยากให้น้องมั่นใจในตัวเอง กล้าคิดกล้าทำ เพราะแม้เราจะบกพร่องทางการได้ยิน แต่ก็สามารถเป็นที่ยอมรับของสังคมได้ครับ

ทางด้าน ด.ญ. ศุทธินี ไพรหาร หรือน้องกิฟท์ อายุ 14 ปี เล่าว่า รู้สึกสนุกและรักศิลปะมากขึ้น ปกติเคยวาดรูประบายสีลงบนกระดาษ แต่วันนี้ได้ลองทำบนตัวปลาปักเป้า หนูระบายหลากสีสันเพราะในจินตนาการหนูคิดว่า ปลาที่มีหลายสีจะดูโดดเด่นและสวยงามเวลาอยู่ใต้ทะเลค่ะ ดีใจที่พี่ดวงใจมาช่วยหนูระบายสีด้วย พี่แนะนำให้หนูใช้พู่กันระบายไปในทางเดียวกันจะได้ดูเรียบมากขึ้นค่ะ

ส่วน น.ส.ดวงใจ เหมมินทร์ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ซึ่งมีความบกพร่องทางการได้ยินเช่นกัน บอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งในการสอนน้องๆ น้องน่ารัก มีสมาธิจดจ่อในการทำงานดีมากค่ะ ให้คำแนะนำไปน้องๆก็ปฏิบัติตาม เวลาสอนก็ใช้ภาษามือน้องๆเข้าใจได้ง่ายค่ะ นอกจากจะสอนศิลปะแล้วเราก็พยายามบอกให้น้องๆตั้งใจเรียน และถ้ามีฝีมือและพรสวรรค์ทางศิลปะ สามารถเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในอนาคต เป็นที่ยอมรับของสังคมได้เหมือนคนทั่วไปเช่นเดียวกับที่เราทำได้ในวันนี้ค่ะ

แม้จะอยู่ในโลกเงียบแต่ความรักและห่วงใยจากใจพี่สู่น้องผ่านงานศิลปะที่ได้ทำร่วมกัน เป็นกำลังใจสำคัญในการสร้างพลังกายพลังใจให้เด็กผู้พิการทางการได้ยิน ได้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็งและภาคภูมิ