กรมศุลกากรจับกุมน้ำมันดีเซล จำนวน 20,000 ลิตร มูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท

25 Jul 2014
บริเวณท่าเทียบเรือสินค้าขาออก สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร แถลงข่าวกรมศุลกากร จับกุมเรือประมง 1 ลำ บรรทุกน้ำมันลักลอบหนีศุลกากร จำนวน 20,000 ลิตร มูลค่าของกลางรวมทั้งสิ้นกว่า 2.5 ล้านบาท

ตามที่กรมศุลกากรได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญในการเร่งรัดปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากร ข้อห้าม ข้อกำกัด เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคม และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม และนายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 เข้มงวดเป็นพิเศษในการสกัดกั้นป้องกันและปราบปราม

ต่อมาเมื่อเวลา ๐1.๐๐ น. ของวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม 2557 นายนิมิตร แสงอำไพ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 สามารถจับกุมเรือประมงไม่มีชื่อ สัญชาติไทย ขนาดความยาว 10 วา ความกว้าง 3 วา มีนายณัฐพล ชื่นสงวน เป็นผู้ควบคุมเรือ และลูกเรือนายธนกร บาพิมาย 1 คน โดยเรือ ลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบหนีศุลกากร จำนวนรวม 2๐,๐๐๐ ลิตร มูลค่าประมาณ 6๐๐,๐๐๐ บาท มูลค่าของกลางรวมทั้งเรือและน้ำมันประมาณ 2,๕๐๐,๐๐๐ บาท เหตุเกิดบริเวณ แลตติจูด 12 องศา ๒6 ลิปดา 000 ฟิลิปดาเหนือ ลองจิจูด 106 องศา 58 ลิปดา 000 ฟิลิปดาตะวันออก ห่างเกาะจวง ด้านทิศใต้ ประมาณ 5 ไมล์ทะเลเขตจังหวัดชลบุรี

เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายศุลกากรฐานลักลอบนำสินค้าน้ำมันดีเซล หรือรับซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกัด หรือของที่ไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง อันเป็นความผิดตาม ตามมาตรา ๒๗ , ๒๗ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ ประกอบกับมาตรา ๑๖,๑๗ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๙) พ.ศ.๒๔๘๒ จึงได้ยึดน้ำมันและเรือบรรทุกน้ำมัน เป็นของกลางพร้อมจับกุมตัวลูกเรือทั้ง 2 คน เป็นผู้ต้องหานำส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอนึ่งในรอบปีที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถจับกุมน้ำมันลักลอบนำเข้าทั้งทางบกและทางทะเล ดังนี้

น้ำมันดีเซล 454 คดี ปริมาณ 2,017,290 ลิตร มูลค่า 56,100,119 บาท

น้ำมันเบนซิน 345 คดี ปริมาณ 326,432 ลิตร มูลค่า 10,594,576 บาท

รวมทั้งสิ้น 799 คดี ปริมาณ 2,343,722 ลิตร มูลค่า 66,694,695 บาท