มูลนิธิเอสซีจี องค์กรสาธารณกุศลที่มีพันธกิจในการพัฒนาคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ตระหนักดีว่าประเทศไทยยังมีเด็กที่เข้าไม่เข้าถึงการศึกษาอยู่มาก หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของเด็กไทยทั้งหมด เหตุนี้เองมูลนิธิเอสซีจีจึงมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยหนึ่งในพันธกิจของมูลนิธิฯ คือการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการศึกษา นับแต่ปี 2524 มูลนิธิฯ ได้มอบทุนการศึกษาแก่น้องๆ เยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งในแต่ละปี มีเยาวชนได้รับทุนการศึกษากว่า 4,000 คน ด้วยมูลค่าทุนปีละกว่า 50 ล้านบาท โดยทุนนี้เป็นทุนให้เปล่า ไม่มีภาระผูกพันต้องใช้คืน เพื่อให้นักเรียนทุนมีหลักประกันด้านการศึกษาว่าจะสามารถเรียนจบตามที่ตัวเองใฝ่ฝันได้ ทั้งนี้ มูลนิธิฯ มีหลักในการพิจารณามอบทุนจากรายได้ของครอบครัว จำนวนพี่น้อง และการขาดผู้อุปการะส่งเสียเล่าเรียน โดยเยาวชนที่รับทุนไม่จำเป็นต้องมีผลการเรียนเป็นเลิศ แต่ต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5 มีความประพฤติดี และมุ่งมั่นตั้งใจเรียน
กานต์ ตระกูลฮุน ประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของมูลนิธิเอสซีจีที่ได้มอบโอกาสทางการศึกษาให้กับเยาวชน พี่กานต์เชื่อว่าการศึกษาเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการนำพาน้องๆ ไปสู่ความสำเร็จ จริงอยู่เราทุกคนเกิดมาต่างกัน เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่การศึกษาจะทำให้คนเท่าเทียมกัน มูลนิธิฯ จึงมอบทุนการศึกษา SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี ซึ่งเป็นการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม ตรงจุด และยั่งยืน เพื่อสร้าง ‘โอกาส’ และให้โอกาสทางการศึกษานั้น สร้าง ‘คน’ คุณภาพให้สังคม ตลอดระยะเวลากว่า 33 ปีที่มูลนิธิได้มอบทุนการศึกษานั้น มีน้องๆ ที่สำเร็จการศึกษากว่า 60,000 คน มีงานทำ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน บางคนกลายมาเป็นพนักงานเอสซีจี บางคนกลายเป็นคุณหมอ หรือบางคนก็มีกิจการเป็นของตนเอง ความฝันจะไม่เป็นจริงถ้าไม่ลงมือทำ และเราต้องเริ่มจากตัวเองก่อน” ประธานกรรมการมูลนิธิเอสซีจี กล่าว
นอกจากการให้ทุนอย่างต่อเนื่องแล้ว มูลนิธิเอสซีจียังจัดงาน “SCG Foundation Family Day” เพื่อเป็นการต้อนรับน้องๆ นักเรียนทุนในโครงการ SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี อย่างเป็นทางการ และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างน้องๆ กับมูลนิธิเอสซีจี ภายในงานมีรุ่นพี่นักเรียนทุนมาร่วมเล่าประสบการณ์ในฐานะอดีตนักเรียนทุน SCG Sharing the Dream โดยมูลนิธิเอสซีจี อย่างน้องมิ้ม นางสาวหทัยรัตน์ บุญชื่น ผู้ได้รับทุนมายาวนานถึง 15 ปี ตั้งแต่ป.2 จนจบปริญญาตรี มาพูดคุยกับน้องๆ รุ่นใหม่เพื่อแชร์มุมมองดีๆ โดยปัจจุบันน้องมิ้มทำงานเป็น นักเทคนิคการแพทย์ ที่หน่วยงานธนาคารเลือด กลุ่มงานพยาธิวิทยา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี น้องมิ้มเล่าอย่างยิ้มแย้มว่า “หนูดีใจมากวันที่รู้ว่าได้รับทุนฯ ตอนนั้นเพิ่งอยู่ป. 2 แต่ยังจำได้ดีว่าต้องตั้งใจเรียน เพราะถ้าเราเรียนดี ก็จะได้รับทุนฯ อย่างต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี ทุกวันนี้มีงานที่ดีและมั่นคง หนูรู้สึกขอบคุณมูลนิธิเอสซีจีมาโดยตลอด รู้สึกว่าดีใจที่มีคนมองเห็นและให้โอกาสทางการศึกษา ก็ยิ่งต้องเรียนให้ดี รักษาเกรดไว้ให้ดีทุกเทอม ทุนฯ นี้ทำให้หนูมีชีวิตที่ดีขึ้น ช่วยหนูและครอบครัวให้ยืนขึ้นได้ หายใจได้อีกครั้ง เป็นแรงผลักดันที่ดีมากค่ะ เลยบอกตัวเองอยู่เสมอว่าต้องเรียนให้ดี ไม่ทำให้พี่ๆ ที่มูลนิธิฯ ผิดหวัง”
ต่อมาที่นางฉอ้อน บุญชื่น ผู้เป็นแม่ของน้องมิ้ม กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ตอนแรกที่ทราบว่าลูกได้ทุนจากมูลนิธิเอสซีจีก็ดีใจมากแล้ว ยิ่งการที่ลูกได้รับทุนฯ ต่อเนื่องจนจบปริญญาตรีก็ยิ่งภาคภูมิใจ ยังคิดอยู่เสมอว่ามีคนใจดีแบบนี้ด้วยหรือที่ให้ทุนฯ ลูกเรามายาวนานถึง 15 ปี แม่จะบอกน้องมิ้มเสมอว่าต้องเรียนให้ดีให้สมกับที่มูลนิธิเอสซีจีเห็นคุณค่าของเด็กเก่งและเด็กดี แม่อยากให้ลูกเป็นพลเมืองดี เป็นคนคุณภาพ ดีใจจริงๆ ค่ะที่ลูกได้รับโอกาสดีๆ จากมูลนิธิฯ ขอบคุณที่ดูแลช่วยเหลือมาโดยตลอดค่ะ”
การจัดงาน “SCG Foundation Family Day” จะมีการเดินสายเพื่อพบปะและมีกิจกรรมที่มีประโยชน์แก่นักเรียนทุนทั้ง 4 ภาคทั่วไทย โดยหลังจากเปิดบ้านต้อนรับนักเรียนทุนกันที่ภาคกลางและภาคตะวันออกแล้ว มูลนิธิเอสซีจีก็จะขึ้นเหนือเยี่ยมเยือนนักเรียนทุนในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2557 ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ จังหวัดเชียงใหม่ และภาคอีสาน ในวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2557 ที่โรงแรมพูลแมน จ.ขอนแก่น ก่อนจะปิดท้ายกันที่ภาคใต้ ในวันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2557 ที่โรงแรมทวิน โลตัส จ.นครศรีธรรมราช โดยภายในงานจะเน้นบรรยากาศอบอุ่น มีกิจกรรมที่ทำให้น้องๆ ได้พบปะพูดคุยแบ่งปันแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากรุ่นพี่ และเสริมสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงน้องๆ ยังได้ทำกิจกรรมจิตอาสา ประดิษฐ์สิ่งของเพื่อส่งต่อความสุขให้กับเด็กด้อยโอกาสในภูมิภาคต่าง ๆ อีกด้วย
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit