การบินไทยออกมาตรการป้องกันโรคไวรัสอีโบลาเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร

04 Aug 2014
บริษัท การบินไทย.จำกัด (มหาชน) ออกมาตรการป้องกันโรคไวรัสอีโบลา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ

นาวาอากาศตรี พงศ์ภีระ ไพศาลกุลวงศ์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคง และมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคไวรัสอีโบลาในทวีปแอฟริกา ได้แก่ประเทศกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย แต่การบินไทยทำการบินไปยัง โจฮันเนสเบิร์ก สาธารณรัฐแอฟริกาใต้ เพียงจุดบินเดียว โดยทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน และไม่มีเที่ยวบินไปยังประเทศกินี เซียร์ราลีโอน ไลบีเรีย ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยด้วยโรคอีโบลา

เพื่อเพิ่มความมั่นใจของผู้โดยสาร บริษัทฯ ได้มีการกำหนดมาตรการในการป้องกันโรคระบาดดังกล่าว โดยคำนึงถึงการให้บริการทั้งบนเครื่องบินและภาคพื้นดิน รวมถึงความปลอดภัยของพนักงาน ซึ่งมาตรการต่างๆ จะใกล้เคียงกับที่เคยใช้ปฏิบัติในคราวที่เกิดโรคระบาดซาร์ เมื่อปี พ.ศ. 2546 และโรคระบาดไข้หวัดนกในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งได้ผลดีและได้รับการชื่นชมจากองค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการป้องกันต่างๆ ดังนี้

  • มาตรการคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการลูกค้าภาคพื้น อาทิ การสังเกตอาการผู้โดยสารก่อนการเช็คอิน หากจำเป็นผู้โดยสารต้องมีใบรับรองแพทย์
  • มาตรการในการให้บริการบนเครื่องบิน อาทิ การเฝ้าระวัง สังเกตอาการของผู้โดยสารในระหว่าง การเดินทาง
  • มาตรการในการจัดเตรียมอากาศยานและฆ่าเชื้อโรค อาทิ การพ่นยาฆ่าเชื้อโรคภายในอากาศยานในระหว่างจอดที่สนามบิน
  • มาตรการในการทำความสะอาดภายในอากาศยาน อาทิ การทำ Deep Cleaning และเพิ่มการ ทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสภายในห้องโดยสาร
  • มาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยของพนักงาน อาทิ การมีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ประจำเครื่องบิน และการให้ความรู้ในการป้องกันสุขภาพแก่พนักงาน
  • มาตรการด้านการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ อาทิ เพิ่มมาตรการในการตรวจสอบ บรรจุภัณฑ์และหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง
  • มาตรการด้านโภชนาการ อาทิ การคัดเลือกวัตถุดิบและวิธีการปรุงอาหารที่สะอาดได้มาตรฐาน และไม่มีความเสี่ยงต่อการเป็นพาหะของโรค

อย่างไรก็ตามการบินไทยได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อติดตามสถานการณ์ และมาตรการต่างๆ ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด