ดร.นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากรายงานการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2012 ในประเทศไทย ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน – 18 กรกฎาคม 2557 ได้รับแจ้งผู้ป่วยเข้าข่ายเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2012 ทั้งหมด 24 ราย จาก 9 จังหวัด และมี 3 รายมาจากต่างประเทศ เป็นชาวอินโดนีเซีย 1 ราย และเป็นชาวโอมาน 2 ราย แต่ยังไม่พบผู้ป่วยและการแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทย อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นที่เมืองมะดีนะฮ์และเมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นเมืองที่ชาวไทยมุสลิมส่วนใหญ่เลือกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ในช่วงเดือนกันยายนนี้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา จึงได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทุกด่านในสังกัด เฝ้าระวังสอบสวนและตรวจจับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2012 หากพบผู้มีอาการต้องสงสัย ไอ จาม วัดไข้พบสูงกว่า 38 องศา มีประวัติเดินทางไปตะวันออกกลาง ภายใน 14 วันก่อนป่วย ให้นำตัวส่งโรงพยาบาล เพื่อวินิจฉัยอย่างละเอียด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งมีภาวะติดเชื้อได้ง่าย จำเป็นต้องเฝ้าระวังสอบสวนมากกว่าประชาชนกลุ่มอื่นๆ สำหรับประชาชนแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหรือผู้ที่มีอาการไอ หรือจาม การเข้าไปในพื้นที่แออัด หากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่แออัด ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสอูฐ หากมีอาการคล้ายไข้หวัด และอาการไม่ดีขึ้น หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ควรไปพบแพทย์ทันที
นอกจากการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2012 แล้ว สคร. 12 สงขลายังเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังสอบสวนและตรวจจับการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งกำลังระบาดอย่างหนักในประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกควบคู่ไปด้วย แม้ประเทศไทยจะมีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในระดับต่ำ เนื่องจากยังไม่มีสายการบินตรงจากประเทศไทยถึง 3 ประเทศที่มีการระบาด แต่เพื่อการป้องกันและเตรียมพร้อมจึงต้องมีมาตรการเฝ้าระวังบริเวณด่านชายแดนหรือจุดผ่านแดนระหว่างประเทศ ในส่วนของด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ สังกัดสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผู้ป่วยโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค หากพบผู้ป่วยมีอาการอยู่ในข่ายสงสัยให้รายงานทันที เพื่อดำเนินการส่งต่อให้หน่วยงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการต่อไป