“TAE” โชว์กำไรครึ่งปีพุ่ง 129.12% จากงวดเดียวกันปีก่อน คาดครึ่งปีหลังดีต่อเหตุรักษาปริมาณการขายใกล้เคียง H1/57

13 Aug 2014
บมจ.ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ หรือ “TAE” หุ้นน้องใหม่ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลรายใหญ่ 1 ใน 3 ของไทย รายแรกที่เข้าจดทะเบียนเเดินหน้าโชว์ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2557 กำไรสุทธิอยู่ที่ 55.97 ล้านบาท เพิ่มกว่า 97.98 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 602.32 ล้านบาท เติบโตถึง 49.06 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวดครึ่งปีแรก 2557 รายได้รวมอยู่ที่ 1,233.95 ล้านบาท บวกเพิ่มกว่า 52.22% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 158.16 ล้านบาท พุ่งกว่า 129.12% “สมชาย โล่ห์วิสุทธิ์” ซีอีโอTAE มั่นใจผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังดีต่อเนื่อง จากการเน้นรักษาปริมาณการขายใกล้เคียงครึ่งปีแรก ผลักดันรายได้ทั้งปีโตตามเป้าหมาย 30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,659 ล้านบาท

นายสมชาย โล่ห์วิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE ผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2557 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 602.32 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 407.07 ล้านบาท ถึงร้อยละ 49.06 ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 55.97 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 28.27 ล้านบาท ถึงร้อยละ 97.98 โดยสาเหตุหลักที่ทำให้รายได้และกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2557 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มาจากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาขายเอทานอล ประมาณร้อยละ 6.72 และปริมาณการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 39.5 จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการใช้กำลังการผลิตเพิ่มเป็นร้อยละ 80 ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากกำลังการผลิตรวม 365,000 ล้านลิตรต่อปี ขณะที่ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีรายได้รวม 1,233.95 ล้านบาท กำไรสุทธิ 158.16 ล้านบาท โดยรายได้รวมเติบโตร้อยละ 52.22 และกำไรสุทธิเติบโตร้อยละ 129.12 จากงวด 6 เดือนแรกของปีก่อน

สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งใช้ในการลงทุนโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยก๊าซชีวภาพจำนวน 3 เมกกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จบางส่วน และเริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าในเฟสแรกได้ 1 เมกกะวัตต์ ประมาณไตรมาสที่ 3/2557 ส่วนเฟสที่ 2 ขนาด 2 เมกกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ภายใน ไตรมาสที่ 4/2557 แล้วเสร็จประมาณปลายปี 2557 และจะนำกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้มาใช้ในโรงงานผลิตเอทานอล และจะทำให้ต้นทุนการผลิตเอทานอลลดต่ำลง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้าได้ถึง 5 - 6 ล้านบาทต่อเดือน

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2557 บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรยังคงดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ซึ่งปกติครึ่งปีหลังเป็นช่วงโลว์ซีซั่นแต่ปีนี้ได้วางแผนรักษาปริมาณการขายให้ใกล้เคียงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตามราคากากน้ำตาลซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อกำไรสุทธิของบริษัทฯ