นายเจษฎา ภวภูตานนท์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย แซนดิสก์ คอร์เปอเรชั่น กล่าวว่า เนื่องด้วยแซนดิสก์เป็นผู้นำด้านโซลูชั่นอุปกรณ์การเก็บข้อมูลแบบแฟลชตลอดมา เราจึงได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและเชื่อถือได้มากที่สุดสำหรับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ยูเอสบี 3.0 จำนวนมากวางได้จำหน่ายในท้องตลาด ดังนั้นแซนดิสก์จึงได้เสนอแฟลชไดร์ฟรุ่นใหม่ล่าสุด SanDisk Ultra Fit™ USB 3.0 เพื่อให้ลูกค้าได้พบกับประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่า ด้วยความจุในการบันทึกข้อมูลที่น่าประทับใจ ภายใต้การดีไซน์ที่ให้ความกะทัดรัด
แฟลชไดร์ฟ SanDisk Ultra Fit™ USB 3.0 ได้ถูกพัฒนาขึ้นหลังจากความสำเร็จของแฟลชไดร์ฟรุ่น Cruzer Fit™ USB ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้า ด้วยรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่แข็งแรงและทนทานต่อการใช้งาน ในโซลูชั่นการทำงานของยูเอสบี 2.0 ที่ดีไซน์มาในรูปแบบที่เล็กกะทัดรัดแต่ให้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างคุ้มค่า สำหรับคุณสมบัติของแฟลชไดร์ฟ SanDisk Ultra Fit™ USB 3.0 ที่ได้ถูกปรับปรุงให้ดีมากยิ่งขึ้น มีทั้งรูปแบบการดีไซน์อันทันสมัย รวมถึงประสิทธิภาพในการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ที่ให้ความเร็วเพิ่มมากขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ต, โทรทัศน์, เครื่องเล่นเกมส์, เครื่องเสียงภายในรถยนต์ และอื่นๆ ซึ่งแฟลชไดร์ฟที่มีความจุขนาด 64 GB และ 32 GB3 จะให้ความเร็วในการเขียนข้อมูลมากกว่ายูเอสบี 2.0 ถึง 10 เท่า ในขณะที่แฟลชไดร์ฟที่มี ความจุขนาด 16 GB จะให้ความเร็วในการเขียนข้อมูลมากกว่ายูเอสบี 2.02 ถึง 5 เท่า โดยผลิตภัณฑ์ในความจุต่างๆนั้น จะให้ความเร็วในการอ่านข้อมูล 130 MB ต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีซอฟแวร์ SanDisk SecureAccess™ ซึ่งมีระบบ128-bit สำหรับการเข้ารหัสและการป้องกันพาสเวิร์ด เพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ไฟล์ส่วนตัว รวมทั้งการเป็นสมาชิกเป็นระยะเวลา 1 ปี สำหรับซอฟแวร์4 RescuePRO® เพื่อการกู้คืนข้อมูลที่เสียหายหรือสูญหาย ราคาและการจัดจำหน่าย
แฟลชไดร์ฟ SanDisk Ultra Fit USB 3.0 วางจำหน่ายแล้วทั่วโลก และบนเว็บไซต์ www.sandisk.com ด้วยความจุ 16 GB ราคา 390 บาท, ความจุ 32 GB ราคา 750 บาท และ ความจุ 64 GB ในราคา 1,450 บาท
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit