“ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ตัวเองโชคดีมาก ตั้งแต่ต้นปีก็มีติดต่อมาต่อเนื่องหลายช่อง แต่ด้วยจังหวะและอะไรหลายๆ อย่าง จริงๆ ผมอยู่จังหวัดเชียงใหม่และทำศูนย์เรียนรู้อยู่ที่นั้น ตั้งใจทำภารกิจที่เชียงใหม่ได้เสร็จ ซึ่งก็พอมีเวลาอยู่ประจวบกับช่อง 2 ติดต่อมา สิ่งหนึ่งที่ช่อง 2 ให้โอกาส คือ ถ้าเราจะทำรายการข่าวสักรายการก็ต้องมีอะไรที่แปลกใหม่ ผมอ่านข่าวตั้งแต่อายุ 20 จนตอนนี้อายนุ 43 ก็อ่านข่าวมาครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้ว จะกลับมาทำอีกครั้งหนึ่งก็ต้องใหม่และนำเสนอในสิ่งที่เราอยากจะทำ ไม่ใช่แค่นั่งอ่าน นำเสนอข้อมูลเชิงวิชาการ ในส่วนของการอ่านข่าวประจำจันทร์-ศุกร์ หลังจากช่อง 3 ก็น่าจะ 5 ปี ได้แล้ว ถามว่าต้องเคาะสนิมใหม่มั้ย จริงๆ เรื่องข่าวกับผมอยู่คู่กันมาตลอด แต่ในขณะเดียวในส่วนของรายการสดใหม่ไทยแลนด์ คือ อีกรูปแบบหนึ่งในการนำเสนอถึงเรื่องราวที่น่าสนใจ ในเชิงข้อมูลข่าวสาร แต่ในเรื่องรูปแบบวาไรติ้ ก็ต้องมีการปรับในส่วนตัวผมเอง ถือเป็นครั้งแรกของเมืองไทยที่มีพิธีกรข่าว 5 คน และอยู่ทุกเบรก เด่นทุกข่าว ตรงนี้ถือว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งคนที่ได้ประโยชน์สุดคือ ผู้ชม ซึ่งถ้าดูทั้ง 4 คนก็จะแรงสนุกสนานทั้งหมด ตัวผมเองไม่ได้แรงขนาดนั้น แต่สุดท้ายก็ลงตัว แรกๆ ก็กังวลบ้างว่าเราจะทำออกมายังไงให้น่าสนใจ แต่พอได้ทำจริงๆ สิ่งหนึ่งที่เราได้สัมผัสได้คือ ความเตรียมพร้อมของทีมงาน การใส่ใจเนื้อหาข่าว เข้าถึงประเด็น รวมถึงทำให้พิธีกรทั้ง 5 คนซึ่งมาจากคนละรายการรวมเป็นหนึ่งเดียวมาเป็นครอบครัว 5 คน ผมว่าน่าจะเป็นครั้งแรกที่เมืองไทยของเรามีรายการข่าวแบบนี้”
ติดตามชมรายการ “สดใหม่ไทยแลนด์” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00 และ 17.00 น. ทางช่อง 2 หรือติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ twitter @thaich2tv
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit