“เอ๋-อัจฉรา” ทรุดต่อมน้ำเหลืองโตผ่าตัดด่วน เหตุเกาเหลาเปิดศึก “โตโน่” กรณีค่ายมวย ทำพิษ

18 Aug 2014
ป่วยหลายโรครุมเร้าทั้ง SLE หรือโรคพุ่มพวง โรคมะเร็งในเมล็ดเลือด สําหรับอดีตนางเอกสาวชื่อดัง “เอ๋-อัจฉรา ทองเทพ” ที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด ล่าสุดโดนกระแสข่าวเกาเหลากับพระเอกหนุ่ม “โตโน่-ภาคิน คําวิลัยศักดิ์” กรณีร่วมหุ้นเปิด ค่ายมวยอัจฉรายิม ย่านนวมินทร์ 74 กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต จนอาการป่วยของ “เอ๋-อัจฉรา” ทรุดลงอีกครั้งพบต่อมน้ำเหลืองโตจนต้องเร่งผ่าผัดเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเนื้อรายหรือเปล่า ซึ่งเจ้าตัวขอเปิดใจแบบหมดเปลือกอีกครั้งในรายการ “สดใหม่ไทยแลนด์” ทาง “ช่อง 2” ว่า... จริงๆ เรื่องค่ายมวยคืออะไร ?

“จริงๆ ไม่มีอะไรเลย เอ๋ไม่ได้รู้จักน้องเขาส่วนตัว แต่คุยกับครูเป็ด เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง เป็นเพื่อนกัน คนบ้านเดียวกัน แล้วก็สนิทกันมานานมาก มันเริ่มจากอาการป่วย เอ๋ป่วยมากๆ ครูเป็ดบอกออกกำลังกายบ้างสิ ครูเป็ดก็พาไปชกมวยที่ยิมของครูเป็ด เอ๋ก็พาลูกไปด้วย จนรู้สึกมันดีขึ้น ครูเป็ดก็มาที่บ้าน แล้วเห็นพื้นที่ที่บ้านมันเหลืออยู่ เขาก็บอกทำยิมสิ มีรายได้ด้วย เดี๋ยวเราบริหารเอง เดี๋ยวเรามาช่วยเอง เพราะครูเป็ดมาซื้อบ้านใหม่ เลยบ้านเอ๋ไปนิดหนึ่ง ประมาณ 500 เมตร” แล้วเกี่ยวอะไรกัยโตโน่ ?

“ก็พอตกลงกับครูเป็ดคนละครึ่งแล้วครูเป็ดก็บอกมีน้องอยู่คนหนึ่ง โตโน่ เดอะสตาร์ แฟนแตงโมอ่ะเขาใฝ่ฝันอยากมีค่ายมวย เขาสนิทกับเรามาก เอ๋ก็บอกว่า ไม่รู้จัก อย่าเพิ่งเลย เราค่อยๆ กันดีกว่าไหม เขาก็บอกว่าโตโน่ อย่างน้อยน้องเขาก็โด่งดัง มีแฟนคลับเยอะก็อาจจะช่วยเราได้ แล้วก็เป็นฝันหนึ่งของโตโน่” โตโน่เป็นชกมวยมาก่อน ?

“เก่งมากค่ะ คุณพ่อเขาก็เป็นนักมวยดังนะ” แล้วโตโน่ตกลงทำไหม ?

“หลังจากที่ครูเป็ดบอก โตโน่เขาก็โทรมาคุย” โทรคุยไม่เจอตัว ?

“เจอค่ะ โตโน่มาที่บ้าน แล้วพอคุยกันเสร็จ ที่เอ๋คุยกับครูเป็ด เราได้ดำเนินการไป 20% ตัดต้นไม้โน้นนี่นั่น คุยกับผู้รับเหมาแล้ว พอโตโน่เข้ามาปุ๊บน้องเขาก็มาดูสถานที่ มาดูแบบที่เอ๋เขียน แล้วเขาก็ดูไม่ออก เขาเลยให้ผู้รับเหมาขึงเชือกที่ตัวอาการ ว่าประมาณแค่นี้นะ ห้องน้ำแค่นี้นะ เวทีมวยจะวางตรงนี้ พื้นที่จะเหลืออย่างนี้ น้องเขาก็มาทำแล้วก็บอกว่าพี่เอ๋ ออฟฟิศหมายถึงตัวสโตร์อย่าอยู่ในยิมเลย พื้นที่ข้างนอกมันเหลือเอาไปไว้ข้างนอกเถอะก็คือช่วยกันค่ะ แล้วก็จะไลน์คุยกันตลอด ซึ่งเอ๋บอกแล้วว่าเอ๋ไม่มีคงวามรู้เรื่องมวยเลย คุยกันแล้วค่ะว่าเอ๋มีหน้าที่พีอาร์นะ เขาก็มีหน้าที่บริหารเรื่องค่ายมวยไป” ได้คุยไหม หุ้นยังไง กี่เปอร์เซ็นต์ ?

“คุยค่ะ เอ๋ 40% ในฐานะเจ้าของบ้านน้อง 30 ครูเด 30 เพราะว่าตอนแรกคือคนละครึ่งกับครูเป็ด ครูป็ดบอกไม่เป็นไรเดี๋ยวให้โตโน่เอาในหุ้นครูเป็ด เราก็แบบดูเหมือนเราเอาเปรียบ ก็เลยเป็นแบบ 40 30 30 ก็คุยกันตกลงสัญญาฉบับแรกผ่านไปด้วยดี” มีเอกสารสัญญาด้วย ?

“มีๆ มีเอกสาร” แล้วทำไมเขาถอนหุ้น ?

“ก็คุยกัน เผอิญเอ๋ไม่ได้ถือเอกสาร แต่วันที่เปิดยิมได้นำเอกสารให้สื่อดู ก็น้องเขาถึงขึ้นมาว่า พี่! โอเคถ้าในยิมนักเรียนมาเรียน ผมได้ 30% เพราะผมลง 30 แต่ในส่วนเสื้อผ้ากางเกงมวย อุปกรณ์ ผมต้องได้ 80 นะ” เขาเป็นคนนำเข้ามาขายเหรอ ?

“ไม่ๆ เพราะเขาเป็นโตโน่ เดอะสตาร์ เขาบอกว่าแฟนคลับใน ig หรือในเพจเขามีเยอะมีเกือบ 5 แสนคน ถ้าลูกค้าโทรมาไม่ได้เรียนมาจากต่างจังหวัดเนี่ย แต่อยากได้เสื้อ ลูกค้ามาจากทางผม ผมได้แค่ 30 เองเหรอ ก็เลยคุยกัน ทำไมน้องไม่ปทำแบรนด์เองล่ะ ถ้าอย่างนี้มันเป็นการเอาเปรียบพี่กับครูเป็ดลง พี่ 40 ครูเป็ด 30 แล้วมันได้แค่ 10% พี่คงไม่ยอม ก็เลยบอกว่าเอางี้แล้วกัน ครูป็ดก็เรียกเอ๋ไปคุยเป็นการส่วนตัว คุยกันที่ 30 ยอมไหม เดี๋ยวผมไม่เอาก็ได้ในส่วน ครูเป็ดน่ารักๆ ครูเป็ดยอมหมดเพราะอยากทำ อยากขยายสาขา ก็เลยบอกว่างั้นตัวเองกับเขาต้องทำอีกฉบับนะเรากลัวก็คุยกันจบที่ 70 30 นั่งอยู่โตโน่คงรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ต่อหน้าทนายอีก 30 คน เขาก็บอกว่าผมไม่สบายใจเลย น้องเขาสปิริตสูงมาก ผมเหมือนเอาเปรียบพวกพี่เลย เอางี้ดีกว่าผมขอ 60 พี่ 2 คนเอาไป 40 แล้วครูเป็ดก็ตีขาเอ๋ ผมให้ตัวเองทั้งหมด(หมายถึงให้เอ๋ทั้งหมด) ก็เลยมีวสัญญาอีกฉบับเรียกว่าหนังสือแนบท้ายสัญญา ทีนี้เอ๋เลยต้องพูดว่าในฐานะเจ้าของบ้านที่ 250 วา ที่มันก็เหลืออยู่เยอะเอ๋ก็ขอคิดเป็นค่าเช่าหน่อยได้ไหม” ค่าเช่าเท่าไหร่ ?

“เอ๋ขอค่าเช้าเดือนละ 2 หมื่น ก็ทำสัญญากันเดือนละ 2 หมื่น ทำสัญญากัน 10 ปี ทุก 3 ปีจะขึ้น 10% ทนายเขาก็ร่างมา ครูเป็ดยังแซวเลยว่าทำให้ดีนะเกิดปีหน้าไม่สบายมึงตายเนี่ย ลูก แม่ มาขายที่ยิมผมไม่ได้นะ” ก็ดูเหมือนจะคุยกันได้ แล้วเคืองโตโน่เรื่องอะไร ?

“เพราะอีกวันหนึ่งผ่านมา โตโน่ก็คุยกันนะคะ น้องเขาก็บอกว่าผมจะไม่ทำแล้ว เซ็นสัญญาไปแล้ว น้องก็เอาสัญญาไป 1 ฉบับ” เหตุผลของเขาคืออะไร ?

“เขาบอกเขาไม่ทำดีกว่าเพราะว่า ผมมองแล้วว่าแฟนคลับผมเยอะ ไม่สยายใจ ผมมีความรู้สึกว่าผมเสียเปรียบ น้องเขาคิดว่าโปรโหมตความเป็นโตโน่ แต่น้องเขาลืมไปว่ามันเป็นธุรกิจที่เราทำร่วมกัน” พอน้องบอกไม่ทำได้คุยกัน ปรับความเขจ้าใจกันไหม ?

“น้องไม่รับสายเอ๋อีกเลย โทรไปก็รับนะคะแต่บอกว่าติดถ่ายละคร ในขณะที่ครูเป็ดยังช่วยมาดู เอ๋ก็โทรหาพี่เขาทราย เขาก็จะแวะมาดูวัน 2 วัน แวะมาคมงานให้” สรุปคือตอนนี้ไม่มีโตโน่แล้ว ?

“ไม่มี” คนมองเอาเรื่องโตโน่มาสร้างกระแส ?

“นี่แหละที่ทำเอาเอ๋เครียดต้องเข้าโรงพยาบาล เอ๋เครียดเรื่องนี้จนเอ๋หัวใจวายเส้นเลือดตีบ เอ๋เครียดมาก เอ๋ไม่มีความรู้เรื่องนี้ แล้วทำไมทำกันแบบนี้ เอ๋โทรหาน้องเขาไม่ทำไม่เป็นไรแต่ด้วยความที่ครูเป็ดยังน่ารัก ซื้อผ้าพันมือที่นี่นะ เห็นน้องรู้จักพวกยี่ห้อเยอะพวกกระสอบทราบ ประสานให้พี่หน่อยสิ น้องเขาจะบอกว่าผมไม่ว่าง ผมถ่ายละคร” ไม่มีความรู้ก็ยังจะทำ ?

“เขาให้เอ๋สำรองจ่ายไปก่อน แล้วเอ๋ก็เจ๋งมากเลยนะเพิ่งจะมาเห็นในสัญญาว่าเอ๋ได้รับเงินจากน้องเขามา 1.5 ล้าน ได้รับเงินมาเรียบร้อยแล้ว ทนายบอกว่าอพี่เอ๋เอาอย่างนั้นเลยเหรอครับ” สรุปได้เงินมารึยัง ?

“ไม่ได้รับเงิน แต่ก็เขียนลงในสัญญาว่ารับแล้ว แล้วก็เซ็นไปเรียบร้อย เพราะน้องเขาบอกว่าเดี๋ยวกลับไปเขาคืนให้ เขาจะโอนตังมาให้ คือเรื่องทั้งหมดไม่ได้เริ่มที่เอ๋ เริ่มที่น้องเขาเพราะน้องเขาไปพูดหลังจากที่เราคุยแล้วมีสัญญากัน น้องเขาไปประกาศว่าจะทำยิมกับเอ๋” แล้วยังไงต่อ ?

“หลังจากเปิดยิม สื่อก็ไปถามโตโน่ว่าพี่เอ๋จะเปิดยิมในความเข้าใจของสื่อคือจะหุ้นกัน โตโน่ก็บอกว่าผมไม่ได้หุ้นแล้ว ไปดูสถานที่แล้วไม่ลงตัวเลยไม่ได้ทำ แล้วน้องบอกว่าน้องไม่ได้มาที่เอ๋ เราก็รู้นะว่าสื่อเป็นยังไง ก็ระวังอยู่แล้ว สื่อจะพูดเกินไปรึป่าว น้องที่เป็นสื่อก็ให้ดูว่านี่หลักฐานที่โตโน่พูด เอ๋ก็เลยเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจว่า มันเงินเฮือกสุดท้ายของพี่ ที่พี่จะใช้ อยากทำสเต็มเซลล์ อยากหายจากมะเร็ง พี่อยู่กับเธอไม่นานหรอกนะ” อยากบอกอะไรโตโน่ ?

“ก็ไม่ได้โกรธน้องนะคะ ไม่ได้เคืองอะไรมากมาย ไม่ได้แค้น แค่รู้สึก...จะบอกว่าไม่เคืองก็ไม่ได้ ไม่ได้แค้นดีกว่า แต่รู้สึกเคืองๆ ตรงที่ว่าหวังว่าน้องคึงมีน้ำใจให้พี่บ้าง”

ติดตามรายการสดใหม่ไทยแลนด์ ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 7.00 น. และ 17.00 น. ทางช่อง 2 รวมถึงติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้ที่ facebook.com/thaich2 หรือ twitter @thaich2tv