สวนโมกข์กรุงเทพเปิดคอร์สจาก“พระสูตร...แพลทฟอร์มชุดความรู้ชีวิตและสังคมของพระพุทธองค์” สู่คำถาม “การปฏิรูปประเทศไทย ธรรมะช่วยอะไรได้บ้าง?”

23 Jun 2014
พระพุทธองค์ ในฐานะที่เป็นผู้รู้ของโลก ได้ทรงมีคำสอน(พระสูตร) ที่รวบรวมอยู่ในรูปพระไตรปิฏก ซึ่งเป็นฐานความรู้ที่สำคัญคงอยู่มาตลอด ๒๖๐๐ ปี และยังคงทันยุคทุกสมัย เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและสังคมของมนุษย์ โดยจุดเด่นของชุดความรู้ชีวิตและสังคมของพระพุทธองค์ ไม่ได้แบ่งแยกเป็นเรื่องๆ ออกจากกัน แต่แสดงความสัมพันธ์กัน ไม่ว่าจะเริ่มจากความสนใจส่วนไหน ก็จะศึกษาโยงใยเรื่องได้ครบทั่ว นอกจากนี้ พุทธศาสนายังมีเครื่องมือเพื่อสอนคนให้เข้าสู่ความจริงอย่างเป็นลำดับขั้นและยังสามารถประยุกต์ใช้สำหรับการหาความจริงในเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
สวนโมกข์กรุงเทพเปิดคอร์สจาก“พระสูตร...แพลทฟอร์มชุดความรู้ชีวิตและสังคมของพระพุทธองค์” สู่คำถาม “การปฏิรูปประเทศไทย ธรรมะช่วยอะไรได้บ้าง?”

หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ(สวนโมกข์กรุงเทพ) ในฐานะองค์การด้านศาสนธรรม มีหน้าที่ เผยแผ่และแลกเปลี่ยนด้านศาสนธรรม เสริมสร้างสติปัญญาและจิตใจให้ผู้คนในสังคมได้เจริญถูกต้องดีงาม ขับเคลื่อนโครงการนี้โดย “กลุ่มเคลื่อนไทยด้วยปัญญา”กลุ่มอาสาสมัครธรรมภาคีหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ เห็นว่าการเสนอความรู้จาก“พระสูตร”เสมือนเป็น“แพลทฟอร์มชุดความรู้ชีวิตและสังคมของพระพุทธองค์”พร้อมทั้งกระบวนการที่พระพุทธองค์ได้แสดงไว้ประสานกับศาสตร์ทางโลกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอยู่แล้วนั้น จะทำให้เห็นภาพความเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงของความรู้ด้านต่างๆ ของศาสตร์กระแสหลักของโลกได้เป็นอย่างดี จะทำให้ผู้เข้าร่วมเรียนรู้ได้เข้าใจชีวิต สังคมและประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น เข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง อันจะนำไปสู่การหาวิธีช่วยกันแก้ไขปัญหาของประเทศไทยเพื่อให้ชีวิตและสังคมเกิดสันติสุขซึ่งเป็นความปรารถนาร่วมกันของคนในประเทศในที่สุด

จุดมุ่งหมายโครงการนี้ก็เพื่อเผยแผ่ความรู้จากพระสูตรในพระไตรปิฏก โดยหวังว่าจะสามารถนำมาช่วยแก้ปัญหาสังคมไทยได้อีกแรงหนึ่ง และมุ่งแสดงให้เห็น “กฏอิทัปปัจยตา” (กฏแห่งเหตุปัจจัย ซึ่งเป็นกฏพื้นฐานที่มีอยู่แล้วไม่ว่าพระพุทธองค์จะเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม) ที่อธิบายความเชื่อมโยงของวัตถุ(ทรัพยากร) กับมนุษย์(กาย ใจ) โดยอธิบายโยงเข้ากับศาสตร์ต่างๆ ในโลกปัจจุบัน ที่สำคัญคือผู้เรียนได้เข้าใจกระบวนการแก้ปัญหาในทางพุทธศาสนาที่มีลำดับขั้น ตั้งแต่การกำหนดปัญหาให้ชัดเจนจนถึงตัววัดผลของการแก้ปัญหาได้สำเร็จ โดยสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการนำเสนอเรื่องการปฏิรูปได้ผ่านการอุปมา “ต้นไม้ประเทศไทย” ถือเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่มีปัญญา เมตตา ต้องช่วยเหลือกันในฐานะ “เพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย”และสามารถขยายผลนำไปใช้เป็นกระบวนการสร้างความเข้าใจกันของคนในประเทศ เพื่อร่วมมือกันพัฒนาประเทศไทยให้มีความสงบสุขอย่างยั่งยืนต่อไป

ติดตามรายละเอียดต่างๆ การพิจารณาคัดเลือก และคุณสมบัติพร้อมเงื่อนไขในการสมัครร่วมเรียนรู้ทั้งหมดได้ที่ www.bia.or.th รับสมัครตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันอังคารที่ ๒๔ มิ.ย. นี้ รับจำนวนจำกัด สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ คุณวุฒิ ๐๘๑ ๘๓๕ ๔๕๙๕ หรือคุณบรรจง ๐๘๖ ๐๓๒ ๘๘๖๕ สมัครเข้าเรียนรู้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

*** รู้จัก“ต้นไม้ประเทศไทย”ให้มากกว่าที่เห็นและเป็นอยู่ ได้จาก Link นี้http://www.youtube.com/watch?v=fLGRifLr4xA

ข้อมูลเพิ่มเติม: “กลุ่มเคลื่อนไทยด้วยปัญญา” เป็นกลุ่มผู้สนใจธรรมที่เข้าร่วมนานากิจกรรมที่หอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทปัญโญ เห็นว่าพุทธธรรมเป็นสิ่งที่มีคุณค่า สามารถนำไปใช้ในชีวิตและสังคมได้ในหลายมิติ มีส่วนร่วมเป็นอาสาสมัครธรรมภาคีในหลายกิจกรรมทั้งด้านการเรียนรู้หลักธรรมตลอดจนการฝึกฝนปฏิบัติจิตตภาวนาต่อเนื่อง และท่ามกลางสภาพชีวิต สังคมและบ้านเมืองที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เต็มไปด้วยประเด็นและปัญหามากมาย ด้วยเชื่อมั่นในพุทธธรรมว่าสามารถนำมาช่วยได้ โดยได้ริเริ่มพัฒนาและทดสอบนำเสนอผ่านวงเสวนาเวทีกิจกรรมต่าง ๆ มาแล้ว อาทิ กิจกรรมมวลมหาประชาคุย (๕ มกราคม ๒๕๕๗), งานวัดลอยฟ้า ญาณสังวร ๑๐๑ จิตตนคร The Hidden Capital ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพมหานคร (๓ - ๗ เมษายน ๒๕๕๗), งานสานเสวนาสังฆพัฒนา ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย อยุธยา (๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗) ฯลฯ สนใจติดต่อได้ที่ [email protected]

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit