คณะผู้จัดงานได้แถลงข่าวเปิดตัวโครงการ"ต่างใจ ไทยเดียว" ขึ้นที่อาคารศูนย์เรียนรู้ สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เริ่มเวทีช่วงแรกเป็นการเสวนาแลกเปลี่ยนหัวข้อ "ทำไมต้องต่างใจไทยเดียว" โดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีรัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า “ขณะนี้เชื่อว่าทุกคนในสังคมต่างก็มีความตั้งใจที่อยากจะช่วยกันคิดและลงมือทำ เพื่อนำพาประเทศไปพ้นจากวิกฤติ ซึ่งหลายปัญหามีความซับซ้อน ต้องใช้ทั้งการปฏิรูป เชิงโครงสร้าง ไปจนถึงการสร้างจิตสำนึกใหม่ของคนไทย การจัดงาน "ต่างใจ ไทยเดียว" นี้ หวังให้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ของภาคประชาสังคมที่จะชวนคนมาร่วมกันออกไอเดีย ที่สร้างสรรค์เพื่อประเทศของเรา”
ทพ.กฤษดา กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในระยะ 2-3 ปีมานี้ สสส. ได้ส่งเสริมเครือข่ายภาคประชาสังคมและท้องถิ่นในการหนุนเสริมพลังของเยาวชนให้มีส่วนร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่ ผ่านการเรียนรู้และลงมือทำเพื่อแก้ปัญหาจริงของชุมชน ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพไปสู่พลเมืองของสังคมที่มีคุณภาพ ตื่นรู้ มีจิตสำนึกสาธารณะและรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้น การจัดงาน "ต่างใจไทยเดียว" จึงนับเป็นการต่อยอดงานของเครือข่ายพลเมืองสร้างสรรค์ที่มีอยู่แล้วจำนวนหนึ่งด้วย”
ดร.มานะ นิมิตรมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า การทุจริต คดโกง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการแตกแยกของคนในสังคม เพราะคนที่ทุจริตส่วนใหญ่มักเป็นคนที่ต้องการเดินเข้าสู่ระบบอำนาจ ซึ่งต้องหาแนวร่วม สร้างพรรคสร้างพวก แบบที่เรียกว่าผลประโยชน์ต่างตอบแทน ทำให้เกิดการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม เกิดการเล่นพรรคเล่นพวก ดังนั้น ถ้าเราสามารถกำจัดการทุจริตคอร์รัปชันได้ ย่อมช่วยสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นได้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จึงให้ความสำคัญกับการปลูกฝังค่านิยมไม่ยอมรับการโกงผ่านเครื่องมือต่างๆ มากมายที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมกับภาคประชาชนได้ ซึ่งจะทยอยให้เห็นนับจากนี้
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาส่วนรวม ยังเป็นหน้าที่ของภาคธุรกิจด้วย และไม่จำกัดขอบเขตเพียงแค่การทำซีเอสอาร์ เราจึงพร้อมที่จะจับมือกับภาคส่วนต่างๆ แก้ปัญหาเร่งด่วนที่เป็นโจทย์ร่วมของประเทศ สำหรับงานนี้ เป็นอีกอีเวนท์สำคัญที่จะมีส่วนช่วยให้คนไทยอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขยั่งยืน เซ็นทรัลเวิลด์จึงยินดีร่วมเป็นภาคีจัดงาน
นายวิเชียร พงศธร ประธานมูลนิธิเพื่อ “คนไทย" กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้หมดเวลากล่าวโทษผู้อื่น แต่เป็นสัญญาณเตือนให้คนไทยทุกภาคส่วนช่วยกันจัดการปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอผู้อื่น ชวนกันมีส่วนร่วมในการออกแบบ สร้างกฏ กติกา การอยู่ร่วม และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ท้ายที่สุดจะกลายเป็นระบบนิเวศน์ใหม่ทางสังคมที่ทุกคนเป็นเจ้าของพื้นที่ เป็นเจ้าของปัญหา และพร้อมจะลุกขึ้นมามีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวม งานต่างใจไทยเดียว เป็นเครื่องมือหนึ่งที่น่าจะสามารถตอบโจทย์ยากๆ อย่างสถานการณ์ตอนนี้ได้ โดยคาดหวังว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นการเชื่อมโยงเครือข่ายพลเมืองที่มีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวมหรือ Active Citizenship ช่วยกันขับเคลื่อนงานปฏิรูปประเทศไทยให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
ขณะที่ นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป (RNN) กล่าวว่า การปฏิรูปประเทศจะสำเร็จได้จะต้องมีส่วนร่วมจากคนทุกภาคส่วน ยิ่งเป็นการปฏิรูปท่ามกลางความขัดแย้งด้วยแล้ว ยิ่งต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้คนที่เห็นต่าง สามารถแสดงความคิดเห็นและร่วมลงมือทำได้ด้วย งานต่างใจไทยเดียว จะเป็นกลไกหนึ่งที่ภาคีภาคส่วนต่างๆ สามารถเปลี่ยนบทเรียนและนำไปต่อยอดงานปฏิรูปได้นายกรรชิต สุขใจมิตร ผู้อำนวยการมูลนิธิหัวใจอาสา กล่าวว่า งานนี้จะเป็นเวทีสำคัญของการสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยเข้าใจและเข้าถึงคุณค่าของการทำเพื่อส่วนรวม โดยมีต้นแบบคนทำงานจากทุกภาคส่วนขึ้นเวที ดังเวทีปาฐกถาอาจารย์ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ที่จะถูกจัดขึ้นในวันแรกของงานนี้ เพื่อรำลึกถึงอาจารย์ไพบูลย์ ในฐานะที่ทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด ในปีนี้จึงได้กำหนดจัดงานปาฐกถาในหัวข้อเรื่อง “ร่วมสร้าง สังคมน่าอยู่” โดยวิทยากรทั้ง 6 ภาคส่วน ได้แก่ ภาคประชาชน ภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ ภาคสื่อมวลชน ภาคองค์การมหาชน และ ภาคราชการ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยเข้าใจและเข้าถึงคุณค่าของการทำเพื่อส่วนรวมและลุกขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้ดีขึ้น
อนึ่ง งานต่างใจ ไทยเดียว มีเนื้อหาการนำเสนอ 4 วัน 4 ธีม ได้แก่ วันที่ 14 ก.ค. ธีม “Active Citizenship เราจะมีส่วนร่วมเพื่อส่วนรวมอย่างไร” วันที่ 15 ก.ค. “Togetherness ก้าวข้ามความขัดแย้ง” วันที่ 16 ก.ค. “Youth รุ่นใหม่ ใจใหญ่” และวันที่ 17 ก.ค. ธีม “Anti-corruption ทางออกคอร์รัปชันกับเยาวชนคนรุ่นใหม่” ณ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมีการแบ่งพื้นที่บริเวณเซ็นทรัล คอร์ท ให้เป็นเวทีหลัก การแสดงดนตรีและฟอรั่มตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. กิจกรรม ณ ลานเอเทรี่ยม นำโดยธนาคารจิตอาสา มีการออกบูธ นิทรรศการและกิจกรรมการรับฟัง ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ Listening Booth, Empathy Poker, เวิร์คชอปการฟัง และ Cultivating (Inner) Prosperity กิจกรรมณ ลานอีเดน นำโดยเครือข่ายจิตอาสาและเครือข่ายพุทธิกา ออกบูธแนะนำโครงการจิตอาสาใน 5 ประเด็น ได้แก่ สิ่งแวดล้อม, ผู้ด้อยโอกาส, การศึกษา, เยาวชน และการพัฒนาชุมชน และกิจกรรม ณ อุทยานการเรียนรู้ TK Park โดยมูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย (Scenario Thailand) นำเสนอกระบวนการปฏิบัติการเพื่อหาจุดร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคมประเด็นต่างๆ หรือที่เรียกว่า Social Lab ใน 3 ประเด็น ได้แก่ หลอมรวมสมานฉันท์, พลังคนรุ่นใหม่ และต่อต้านคอร์รัปชันทั้งนี้ ภาคีร่วมจัดงาน ได้แก่ สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มูลนิธิเพื่อ “คนไทย” และเครือข่ายภาคสังคม ประกอบด้วย มูลนิธิหัวใจอาสา มูลนิธิส่งเสริมการออกแบบอนาคตประเทศไทย (Scenario Thailand) เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป (RNN) ธนาคารจิตอาสา เครือข่ายจิตอาสา เครือข่ายพุทธิกา และมูลนิธิสยามกัมมาจล
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit