นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2557 TFEX มีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 11,353,902 สัญญา หรือเฉลี่ยวันละ 93,834 สัญญา เพิ่มขึ้น 38% จากปีที่ผ่านมาที่ซื้อขายเฉลี่ยวันละ 68,017 สัญญา ธุรกรรมส่วนใหญ่มาจาก stock futures 51.8%, SET50 futures 40.7% และ gold futures 6.6% ตามลำดับ โดยสถานะคงค้างได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 128% เป็น 775,804 สัญญา ณ สิ้นมิถุนายน 2557 ธุรกรรมในตลาด TFEX ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่เปิดซื้อขาย mini SET50 futures เมื่อเดือนพฤษภาคม ในขณะที่ stock futures ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาวะการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ปริมาณการซื้อขายรวมของ TFEX สามารถสร้างสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เปิดทำการที่ระดับ 337,624 สัญญา และมีฐานผู้งลงทุนทั้งสิ้น 93,462 บัญชี ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557
“สินค้า stock futures ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลปีล่าสุด มีปริมาณการซื้อขายสูงเป็นลำดับที่ 7 เมื่อเทียบกับตลาดอนุพันธ์ทั่วโลก และในครึ่งปีแรก มีปริมาณซื้อขายทั้งสิ้น 5,878,198 สัญญา หรือเฉลี่ยวันละ 48,580 สัญญา เพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีการซิ้อขาย 34,351 สัญญาต่อวัน สำหรับหุ้นอ้างอิง 5 ลำดับแรกที่ผู้ลงทุนนิยมซื้อขาย ได้แก่ บมจ. บางกอกแลนด์ (BLAND) บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) บมจ. ธนาคารกรุงไทย (KTB) และ บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) และบริษัทสมาชิกที่มีการซื้อขาย stock futures สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) บล. ภัทร และ บล. อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย)
ส่วน SET50 futures มีปริมาณซื้อขายเฉลี่ย 38,153 สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้น 64% จากปีที่แล้ว เป็นผลจากการเปิดซื้อขาย mini SET50 futures ซึ่งมีขนาดเล็กลงเป็นหนึ่งในห้าของสัญญาเดิม ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขายและบริหารพอร์ตลงทุนได้อย่างสะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีพอร์ตลงทุนไม่ใหญ่มากนัก และยังทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ซึ่งพบว่ามีผู้ลงทุนรายใหม่ที่ยังไม่เคยซื้อขาย SET50 futures จำนวนกว่า 3,500 ราย ที่เริ่มเข้ามาซื้อขาย mini SET50 futures โดยสัดส่วนการซื้อขายของผู้ลงทุนในสินค้านี้แบ่งเป็นผู้ลงทุนรายบุคคล 52% ผู้ลงทุนต่างประเทศ 19% และผู้ลงทุนสถาบัน 29% สำหรับบริษัทสมาชิกที่มีการซื้อขาย SET50 futures สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บล. เคจีไอ (ประเทศไทย) บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) และ บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย)” นางเกศรากล่าว
ในช่วงครึ่งหลังของปีนั้น TFEX จะเน้นการทำงานร่วมกับผู้ดูแลสภาพคล่อง เพื่อส่งเสริมให้การซื้อขาย SET50 options มีสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาโปรแกรมสำหรับผู้ลงทุนเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและเป็น
เครื่องมือประกอบในการตัดสินใจซื้อขาย รวมถึงเดินหน้าให้ความรู้เกี่ยวกับ SET50 options เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และช่วยให้ผู้ลงทุนมีความมั่นใจในการซื้อขายมากขึ้น เนื่องจาก options เป็นสินค้าที่มีประโยชน์ในการใช้สร้างกลยุทธ์ลงทุนเป็นอย่างมาก
สำหรับบริการเพิ่มเติมที่ TFEX ร่วมมือกับผู้ประกอบการร้านทอง ในการให้บริการต่อเนื่องแลกซื้อขายทองคำแก่ผู้ที่ซื้อขาย gold futures เมื่อครบกำหนดสัญญานั้น เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าทอง หรือผู้ที่ต้องการใช้ทองคำในอนาคต ให้สามารถแลกซื้อขายทองคำหรือบริหารความเสี่ยงได้ตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ตั้งแต่สัญญาเดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ เพื่อสร้างฐานผู้ลงทุนคุณภาพ TFEX มีแผนการให้ความรู้และจัดกิจกรรมสัมมนาอย่างต่อเนื่อง ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับโครงการและกิจกรรมต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.TFEX.co.th หรือสอบถาม โทร. 0 2229 2222
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit