นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETG เปิดเผยว่า ETG ได้ลงนามสัญญาความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ปตท.. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ PTTRM หลังจากที่ ETG ผ่านการคัดเลือกตามคุณสมบัติและเงื่อนไขที่กำหนด และสามารถชนะการประมูลเพื่อให้บริการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง รองรับการให้บริการแก่ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ 150 สาขาทั่วประเทศ โดยเอาชนะคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่บริหารงานโดยคนไทย มีมาตรฐานการทำงานเทียบเท่ากับบริษัทต่างประเทศ
สำหรับสัญญาความร่วมมือครั้งนี้มีกำหนดระยะเวลา 3 ปี จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งลักษณะความร่วมมือจะไม่ใช่แค่การจ้างงาน แต่จะมีลักษณะเป็นคู่ค้า มีการปรับปรุงมาตรฐานการทำงานร่วมกันให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงมีแผนความร่วมมือต่อยอดในอนาคต เท่ากับว่านอกจากรายได้แล้ว ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานการให้บริการโลจิสติกส์ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการได้ให้บริการบริษัทในเครือ ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำมีผลต่อความเชื่อมั่นต่อลูกค้าในอนาคตอีกด้วย
ทั้งนี้ จุดเด่นของ ETG ที่ทำให้ผ่านการคัดเลือกและชนะการประมูลครั้งนี้นั้น เนื่องจากมีระบบบริหารจัดการที่เป็นระดับสากล ใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยี คือ การนำระบบ GPS มาใช้สำหรับเฝ้าติดตามและตรวจสอบการวิ่งของรถ, การใช้ระบบ TMS (Transportation management system) บริหารงานขนส่ง วางแผนการเดินทาง เพื่อให้ไปถึงที่หมายได้อย่างถูกต้อง สะดวกรวดเร็ว และมีการปรับให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย อีกทั้งยังใส่ใจเรื่องความปลอดภัย โดยมีการจัดซื้อรถใหม่ ที่มีสมรรถนะดี มีพนักงานขับรถที่ผ่านการ ฝึกอบรมมีการซ่อมบำรุงและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พร้อมทำงานได้ตลอด 7 วัน 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ETG ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้รถ EURO3 ของ ISUZU ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่ปล่อยไอเสียน้อยลงและประหยัดน้ำมันกว่าเดิมประมาณ 10% ทั้งหมดช่วยให้การขนส่งตรงเวลา มีความปลอดภัย ไม่มีความเสียหาย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งหมดเป็นการพิสูจน์ว่า ETG ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่พัฒนามาจากระดับ Local จนมีมาตรฐานการทำงานสากล มีความรู้อย่างแท้จริงทั้ง งานบริหารและงานภาคสนาม มีรถ คนขับ และฝ่ายซ่อมบำรุงเองทั้งหมด
“เบื้องต้น ETG ได้ออกแบบการให้บริการแก่ร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ โดยใช้รถ 10 ล้อจาก ISUZU ที่สามารถบรรทุกสินค้าถึง 36 roll cages ที่สำคัญมีการวางแผนงานและจัดจำนวนพนักงานขับรถให้เพียงพอต่อการทำงานแบบ 7 วัน 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดให้มีพนักงาน ETG ประจำที่ Site JIFFY ด้วย เพื่อความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นว่าสามารถให้บริการได้เป็นอย่างดี” นายพูนศักดิ์ กล่าว
นายพูนศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ถึง ETG จะมีมาตรฐานด้านโลจิสติกส์เทียบระดับสากล แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเพื่อยกระดับขึ้นไปอีก เนื่องจากเห็นว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ในปี 2558 งานด้านโลจิสติกส์จะเป็นกลไกสำคัญ และจะทำเกิดการแข่งขันของผู้ให้บริการโลจิสติกส์จากหลายๆ ประเทศ ซึ่งมีทั้งเรื่องของเทคโนโลยี และลูกค้าระดับโลก ดังนั้นการจะก้าวขึ้นไปให้บริการในระดับภูมิภาคและระดับโลกได้นั้น ต้องเตรียมพร้อมทั้งการบริหารงานภายใน และต้องสร้างความเชื่อมั่นผ่านการให้บริการบริษัทที่มีขนาดใหญ่
สำหรับภาพรวมธุรกิจของ ETG แม้จะมีสถานการณ์การเมืองและเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนแรก แต่บริการโลจิสติกส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในทางอุตสาหกรรม โดย ETG มีผลประกอบการครึ่งปีแรก ประมาณกว่าเจ็ดร้อยล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 6.7% ขณะที่เป้าการเติบโตปีนี้อยู่ที่ 5% ใช้กลยุทธ์มุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม พร้อมกับขยายฐานลูกค้าใหม่ ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการโลจิสติกส์เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเออีซีและรับมือการแข่งขันจากผู้ให้บริการหลากหลายประเทศ อีกทั้งเพื่อลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการโลจิสติกส์แบบครบวงจรให้กับลูกค้า
นายจักรกฤช จารุจินดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ PTTRM กล่าวว่า บริษัทได้ทำการวิเคราะห์ระบบโลจิสติคส์ของ PTTRM แล้วพบว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งได้จากการเลือกใช้รถขนส่งมาตรฐานใหม่ หรือ EURO3 ซึ่งสามารถประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขนส่งสินค้า ลดปริมาณมลพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ มีอัตราการปล่อยมลพิษเพียง 50% และที่สำคัญสามารถลดค่าขนส่งโดยรวมลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับก่อนร่วมมือ
“จากการวิเคราะห์ของ PTTRM ได้เลือก ETG เป็นคู่ค้า โดยเห็นว่าเป็นผู้ให้บริการขนส่งที่มีประสบการณ์ด้านการขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยเป็นเวลานาน มีการบริหารต้นทุนได้ดี และในอนาคตหากมีการขยายธุรกิจใหม่ๆ ETG จะเป็นผู้ให้บริการขนส่งรายแรกๆที่ PTTRM นึกถึง” นายจักรกฤช กล่าว
ทั้งนี้ ธุรกิจค้าปลีก ถือว่าเป็นธุรกิจสำคัญของ PTTRM โดยมีสัดส่วนกำไร 50% ขณะที่อีก 50% มาจากน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่ง PTTRM มีแผนเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำมันเชื้อเพลิงเป็น 60% ในอีก3 ปี ข้างหน้า เช่น การขยายธุรกิจค้าปลีกนอกสถานีบริการน้ำมัน การขายสิทธิ์ใช้เครื่องหมายการค้า Pearly Tea, การทำธุรกิจ Online Shopping ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ ที่เป็นเสมือนเพื่อนร่วมเดินทาง สามารถแวะพัก ซื้อของรับประทาน เข้าห้องน้ำ ช่วยให้ผ่อนคลาย สดชื่นก่อนเดินทางต่อไปยังเป้าหมาย
นางปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า อีซูซุรู้สึกยินดีที่ ETG ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่เลือกใช้รถอีซูซุหลากหลายรุ่นกว่า 200 คันในการประกอบธุรกิจมาเป็นระยะเวลายาวนาน ได้รับความไว้วางใจในการขนส่งสินค้าให้กับธุรกิจร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ทั่วประเทศ โดยครั้งนี้ ETG ได้เลือกใช้รถบรรทุกสิบล้อ FVM มาตรฐาน EURO 3 ประหยัดน้ำมันเป็นเยี่ยม พร้อมทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงระบบความปลอดภัยแบบเหนือชั้น อีซูซุมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์และบริการของเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ภารกิจครั้งนี้สำเร็จไปได้อย่างราบรื่น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit