ฟาร์มผักไฮโดรฯ “D LOVE FARM” คัด “สด” จากฟาร์ม ใส่ใจท่านเหมือนคนในครอบครัว”

14 Jan 2014
เอ็นพีพี ตอบรับกระแสผู้บริโภคที่นิยมทานผักปลอดสารพิษ ล่าสุดเปิด “D LOVE FARM” ฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ บนพื้นที่ 15 ไร่ ในกาญจนบุรี เป็นการปลูกผักในน้ำที่สามารถควบคุมโรคและแมลงโดยไม่ใช้สารที่มีพิษต่อผักในโรงเรือนแบบกรีนเฮ้าส์ ที่ถูกหลักอนามัยสามารถทานได้ทันที

นางสาวนฤภัค ประยูรวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็นพีพี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายส่งผัก ผลไม้ และอาหารทะเล ทั่วกรุงเทพ เขตปริมณฑลและจังหวัดภูเก็ต มาเป็นเวลา 8 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการเป็น "ผู้จัดจำหน่ายอาหารที่มีคุณภาพดีที่สุด" จึงมุ่งมั่นที่จะเฟ้นหาผลิตภัณฑ์อาหาร จากทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และ ผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพดี มีคุณค่าทางโภชนาการ สะอาดถูกสุขอนามัยและปลอดภัยต่อการบริโภค ทางบริษัทฯ จึงมีแผนธุรกิจในการทำฟาร์มผักปลอดสารพิษแบบไฮโดรโปนิกส์ ภายใต้บริษัท ดีเลิฟฟาร์ม จำกัด

สำหรับ “D LOVE FARM” (ดี เลิฟ ฟาร์ม) ซึ่งเป็นฟาร์มผักปลอดสารพิษแบบไฮโดรโปนิกส์ บนพื้นที่ 15 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลหนองกร่าง อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นผักถูกหลักอนามัย สามารถทานได้ทันที ผลิตและจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ “D LOVE FARM” ซึ่งผลิตภัณฑ์ผักมีหลายชนิด อาทิ ผัดคอส มิตซูน่า เรดโอ็ค กรีนโอ๊ค ผักกาดขาวไดโตเกียว โขมขาว ผักคื่นฉ่าย ผักบุ้ง ผักกวางตุ้งฮ่องเต้ กะหล่ำปลี แครอท ถั่วลันเตา พริก มันฝรั่ง แอสพารากัส เห็ด และอื่นๆ มากมาย

โดยจุดเริ่มต้นจากการที่ได้ปลูกพืชไร่และรับมาจากเกษตรกรเพื่อจำหน่ายนั้น พบว่ามีปัญหาของพืชไร่ที่มีอยู่มากทั้งในเรื่องของโรคพืชแมลงศัตรูที่ระบาด ความแห้งแล้ง และสารพิษตกค้างในพืชไร่ที่มีผลต่อผลผลิตและคุณภาพของพืชไร่และตัวเกษตรกรผู้ปลูกเองอีกด้วย จึงมองหาแนวทางในการปลูกพืชที่ปราศจากสารเคมีตกค้างที่เป็นอันตรายต่อการบริโภคและเกษตรกรผู้ปลูก จนได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ให้ลองทำการศึกษาและทดลองปลูกผักแบบไฮโดรในฟาร์มตัวอย่าง ทั้งวิธีการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ดูแลรักษาง่าย และผลผลิตที่ได้ออกมานั้นเป็นที่น่าพอใจ ปราศจากสารเคมีตกค้าง และได้ผลผลิตที่แน่นอน จึงได้วางแผนขยายการทำผักไฮโดรฯ โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และเป็นโรงเรือนแบบกรีนเฮ้าส์ ปลูกผักสลัดในระบบ NFT และโต๊ะปลูกผักแบบปิดในระบบ DRFT โดยเป็นการปลูกผักในน้ำที่สามารถควบคุมโรคและแมลงโดยไม่ใช้สารที่มีพิษต่อผัก

ซึ่งการปลูกผักในโรงเรือนมีการทำงานเป็นขั้นตอน โดยจะเริ่มเก็บผักในตอนเช้า ทำการบรรจุและเก็บไว้ในห้องเย็นที่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาความสดของผัก ทั้งในการขนส่งยังใช้รถห้องเย็นควบคุมอุณหภูมิในการจัดส่งอีกด้วย เพื่อรักษาความสดของผักเมื่อไปถึงมือผู้บริโภค ทั้งนี้ฟาร์มของเราได้รับมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice) ซึ่งเป็นการรับรองแหล่งผลิตพืชตามมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติการทางการเกษตรที่ดี โดยกรมวิชาการเกษตร เรียบร้อยแล้ว

“ในทุกๆ ขั้นตอนของการปลูกเราใส่ใจทุกกระบานการตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดพันธุ์ การเพาะเมล็ด การเลี้ยงดูไปจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยวผลผลิต และยังมีการทดสอบหาสารตกค้างที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคอีกด้วย” นางสาวนฤภัค กล่าวทิ้งท้าย