เอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี (APR Energy) ผู้นำโซลูชั่นด้านพลังงานแบบฟาสแทร็คระดับโลกประกาศลงนามในสัญญาโครงการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แบบเทิร์นคีย์ในพม่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะรับประกันกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 82 เมกะวัตต์เป็นอย่างต่ำ ให้กับบริษัท เมียนมาร์ อิเล็กทริค เอ็นเตอร์ไพรส์ (Myanmar Electric Power Enterprise) พร้อมด้วยกำลังการผลิต และจ่ายไฟฟ้ามากถึง 100 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะตั้งอยู่ที่เมืองจ๊อกเซ เขตมัณฑะเลย์ และใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง โซลูชั่นของเอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี จะทำให้โรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประชาชนมากกว่า 6 ล้านคน สัญญาของเอพีอาร์นับเป็นข้อตกลงด้านการผลิตไฟฟ้าฉบับแรกระหว่างบริษัทสัญชาติสหรัฐ และรัฐบาลพม่านับตั้งแต่ที่ได้มีการยกเลิกการคว่ำบาตรพม่าในปี 2556
(โลโก้: http://photos.prnewswire.com/prnh/20120207/FL48583LOGO)
โรงงานแบบเทิร์นคีย์ของเอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี ซึ่งใช้โมดูลพลังงานก๊าซแบบเคลื่อนย้ายได้ (mobile gas power modules : GPMs) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในโซลูชั่นการผลิตพลังงานที่สะอาดที่สุดในพม่า และยังบ่งชี้ถึงการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญด้านสาธารณูปโภคของประเทศ เอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี จะจัดหาโซลูชั่นที่มีความเชื่อมโยงกันในระยะกลาง ขณะที่พม่าพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในการผลิตพลังงานในระยะยาว เอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี คว้าสัญญาดังกล่าวมาได้ เนื่องจากความสามารถในการส่งมอบโครงการในระยะเวลาที่ท้าทายความสามารถเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการผลิตพลังงาน โดยสัญญาดังกล่าวมีกำหนดเริ่มต้นในไตรมาสที่ 2 ของปี 2557 และคาดว่า จะมีการดำเนินการไปจนถึงปลายปี 2558
ดีเร็ค มิทเชล เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำพม่า แสดงความเห็นต่อการประกาศครั้งนี้ว่า “การทำธุรกิจในประเทศตลาดเกิดใหม่ไม่ใช่การดำเนินงานที่ปราศจากความท้าทาย แต่ยังต้องมีการดำเนินนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจที่สำคัญ การจัดการความท้าทายด้านสาธารณูปโภค และต้องสร้างความมั่นใจว่าทุกฝ่ายจะได้รับประโยชน์จากศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ แต่เรามั่นใจว่า ธุรกิจต่างๆ ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีประสบการณ์และยึดมั่นในวิธีการที่มีศีลธรรมและโปร่งใส จะสามารถสนับสนุนการดำเนินการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี”
“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำสัญญาฉบับนี้ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของศักยภาพของเราในการนำทรัพยากรก๊าซธรรมชาติไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล” นายจอห์น แคมเปี้ยน ประธานกรรมการบริหารของเอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี กล่าว “ปัจจุบัน ประชากรพม่าที่ไม่มีไฟฟ้าใช้มีจำนวนถึงสามในสี่ โครงการนี้จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งจะส่งมอบไฟฟ้าและพลังงานให้แก่ประชาชนกว่า 6 ล้านคน เมื่อเร็วๆนี้ ทางบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าในอินโดนิเซียอีก 130 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โครงการในพม่านับว่าเป็นตัวอย่างการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเราเล็งเห็นในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค นับตั้งแต่ที่เราได้เปิดฮับที่มาเลเซียและสำนักงานเชิงพาณิชย์ที่สิงคโปร์”
นายคลีฟ เทอร์ตัน หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคของเอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี กล่าวเสริม “ข้อตกลงครั้งสำคัญนี้จะช่วยให้พม่าสามารถตอบสนองความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่มีความจำเป็นและขยายตัวอย่างต่อเนื่องได้ ผ่านการใช้ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติในท้องถิ่น พม่าเป็นตลาดเชิงกลยุทธ์หลักของเอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี ในขณะที่เราได้ขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคอย่างรวดเร็ว และเรามีความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการเติบโตและการพัฒนาภาคพลังงานของพม่าทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยความต้องการพลังงานไฟฟ้าที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในเอเชีย ประกอบกับศักยภาพของเราในการส่งมอบพลังงานในปริมาณมากผ่านโซลูชั่นเทิร์นคีย์ด้วยความรวดเร็ว นับเป็นการเปิดโอกาสอันดีสู่ความสำเร็จไม่ใช่แค่ในพม่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศอื่นๆในภูมิภาคอีกด้วย”
เกี่ยวกับ เอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี
เอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี เป็นธุรกิจพลังงานกังหันลมเคลื่อนที่แบบฟาสท์แทร็คชั้นนำของโลก เราผลิตพลังงานอย่างรวดเร็วในปริมาณมาก ทำให้ลูกค้าเข้าถึงไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วทุกที่ทุกเวลาตามความต้องการ เอพีอาร์ผสมผสานเทคโนโลยีประหยัดพลังงานที่ทันสมัยเข้ากับความเชี่ยวชาญระดับผู้นำในอุตสาหกรรม ก่อเกิดเป็นโรงไฟฟ้าแบบเทิร์นคีย์ที่สามารถใช้งาน ดัดแปลง และปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว เอพีอาร์ เอ็นเนอร์จี ให้บริการโซลูชั่นกำเนิดพลังงานแก่ลูกค้า และชุมชนต่างๆทั่วโลก ทั้งในภาคอุตสาหกรรม และสาธารณูปโภค โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา อเมริกา เอเชียแปซิฟิก และตะวันออกกลาง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทได้ที่เว็บไซต์: www.aprenergy.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit