สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ร่วมกับ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดการแข่งขันกอล์ฟสตรีรายการใหญ่แห่งปี "ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2014" ชิงเงินรางวัลรวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 46 ล้านบาท) ณ สนามสยามคันทรีคลับ พัทยา โอลด์คอร์ส ระหว่างวันที่ 20-23 กุมภาพันธ์นี้ โดยเป็นการประชันฝีมือของนักกอล์ฟสตรี 60 คน จากการจัดอันดับของแอลพีจีเอ ประจำปี 2014 (2014 LPGA Priority List) และนักกอล์ฟรับเชิญอีก 10 คน รวม 70 คน ร่วมแข่งขัน 4 วัน 72 หลุม ไม่มีการตัดตัว โดยรายการนี้จัดเป็นครั้งที่ 8 นับจากปี 2006 เป็นต้นมา นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษ รถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ดใหม่ รุ่น 2.4 EL Navi มูลค่า 1.66ล้านบาท สำหรับผู้ที่ทำโฮลอินวันได้ที่หลุม 16
สำหรับ 5 นักกอล์ฟไทยที่พร้อมร่วมดวลวงสวิงกับกับยอดฝีมือของแอลพีจีเอในปีนี้ประกอบด้วย สองพี่น้องเจ้าของฉายา “เดอะซิสเตอร์ส” โมรียา-เอรียา จุฑานุกาล, โปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ, โปรปลาย-พัชรจุฑา คงกระพันธ์ และน้องออม-สุภมาส แสงจันทร์ นักกอล์ฟสมัครเล่นหนึ่งเดียวของไทย
ย้อนกลับไปในการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการมีลุ้นถึงแชมป์โดยพ่ายต่อ ปาร์ค อินบี โปรชื่อดังจากเกาหลีใต้ ไปเพียงสโตรคเดียว มาปีนี้เธอพร้อมกลับมาแก้มือหลังจากที่พักแข่งไปนาน 8 เดือน เนื่องจากอาการบาดเจ็บหัวไหล่ โดยจะต้องประชันฝีมือกับหนึ่งในคู่ปรับคนสำคัญอย่าง อินบี ที่นอกจากจะมาป้องกันตำแหน่งแชมป์แรกของปีแล้ว ยังลงแข่งขันในฐานะมือหนึ่งของโลกอีกด้วย
โปรเม-เอรียา ซึ่งกำลังแข่งขันในรายการของเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ เผยถึงความพร้อมในการกลับมาแก้มือที่ สนามสยาม คันทรีคลับอีกครั้งว่า “ตอนนี้อาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ดีขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซนต์แล้ว สามารถตีลูกฟูลสวิงได้ เหลือแค่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และก็ซ้อมลูกสั้นให้มากขึ้น เพราะว่าไม่ได้แข่งนานถึง 8 เดือน ตั้งใจว่าต้นปีจะทำแรงกิ้งให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับ 20 ของโลกให้ได้ ส่วนการพลาดแชมป์ฮอนด้าแอลพีจีเอปีที่แล้วทำให้แข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการวางแผนการเล่นที่ต้องทำให้ดีกว่าเดิม
โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล และโปรแหวน-พรอนงค์ เพชรล้ำ เป็นสองนักกอล์ฟชื่อดังของไทยที่ลงแข่งขันรายการนี้ด้วยฝีมือยอดเยี่ยมจากการทำผลงานติดหนึ่งใน 60 อันดับแรกของแอลพีจีเอ ทั้งนี้โมรียาครองรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี 2013 ของแอลพีจีเอทัวร์ ส่วนพรอนงค์ เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียนทัวร์ที่ไต้หวันเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
"จากการที่ได้ลงเล่นในแอลพีจีเอทัวร์มา 1 ปี เป็นเรื่องที่เราต้องปรับตัวเนื่องจากยังเป็นน้องใหม่ที่ต้องเรียนรู้กับรุ่นพี่ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าว่าจะต้องคว้าอย่างน้อย 1 แชมป์ ซึ่งก็หวังให้เป็นรายการฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ เพราะเป็นรายการที่ลงแข่งขันแล้วรู้สึกสนุก มีแฟนกอล์ฟมาให้กำลังใจมากมาย แต่ก็จะไม่กดดันตัวเองจนเกินไป" โมรียา รุ้กกี้แห่งปีของแอลพีจีเอกล่าว
ทางด้าน โปรปลาย-พัชรจุฑา คงกระพันธ์ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้ารางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีพร้อมครองมือหนึ่งของซีเมทรา ทัวร์ ฤดูกาล 2013 ก่อนคว้าการ์ดทัวร์เล่นแอลพีจีเอทัวร์ 2014 แบบเต็มตัวปีนี้ ขณะที่ น้องออม-สุภมาส แสงจันทร์ นักกอล์ฟสมัครเล่นทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์ ฟิลิปปินส์ เลดี้ส์ โอเพ่น 2 สมัยซ้อน
ไม่เพียงแต่นักกอล์ฟของไทยที่ต่างหวังสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นชาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ยังมียอดฝีมือของแอลพีจีเอที่จะลงชิงชัยในครั้งนี้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นโปรท็อปเท็นของโลกนำโดย ซูซาน เพตเตอร์เซน และสเตซี่ ลูอิส ดีกรีมือสองและสามของโลก รวมถึง “พิงค์แพนเตอร์” พอลลา ครีมเมอร์ นักกอล์ฟชวัญใจชาวไทย
สำหรับทำเนียบแชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ที่ผ่านมาได้แก่ ฮี-วอน ฮาน จากเกาหลีใต้ (ปี 2006), ซูซานน์ เพตเตอร์เซ่น จากนอร์เวย์ (ปี 2007), ลอรีนา โอชัว จากเม็กซิโก (ปี 2009), ไอ มิยาซาโตะ จากญี่ปุ่น (ปี 2010) เจิ้ง หยาหนี จากไต้หวัน เป็นแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันในปี 2011-2012 และปาร์ค อินบี โปรจากเกาหลีใต้ (2013)
แฟนกอล์ฟที่ต้องการชมวงสวิงของโปรกอล์ฟระดับโลกอย่างใกล้ชิด สามารถซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ซึ่งบัตรเข้าชมรอบแรกและรอบสอง (20-21 กุมภาพันธ์) ราคา 300 บาท รอบสาม (22 กุมภาพันธ์) ราคา 400 บาท และรอบสุดท้าย (23 กุมภาพันธ์) ราคา 500 บาท และบัตรแพคเกจเข้าชมแบบ 4 วัน ราคา 800 บาท ผู้ชมอายุต่ำกว่า 18 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปเข้าชมฟรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02-262-3456 หรือที่เว็บไซต์ www.thaiticketmajor.com
สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ถ่ายทอดสดการแข่งขันทั้ง 4 วัน และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขัน “ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2014” ได้ทางเว็บไซต์ www.lpgathailand.com หรือ www.hondalpgathailand2014.com