นายภัทรพล ศิลปาจารย์ ศิษย์เก่าสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin) EMBA 2009 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง หุ้นส่วนของบริษัท ซี.เอ.พี.พี. กรุ๊ป (ประเทศไทย) หรือ C.A.P.P. GROUP เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจและการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทว่า การตัดสินใจเข้าเรียน EMBA ที่ศศินทร์ถือเป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้ตนเอง เนื่องจากได้รับความรู้และประสบการณ์ดี ๆ จากสถาบันแห่งนี้ เพราะความความโดดเด่นของสถาบันที่มีอาจารย์เก่ง และยังมีโครงการแลกเปลี่ยนหลักสูตรกับมหาวิทยาลัยระดับโลก รวมทั้งเพื่อน ๆ ในชั้นเรียนมาจากหลากหลายอาชีพและเป็นคนเก่ง ทำให้ได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนทัศนคติจากการนำเสนอเนื้อหาในห้องเรียน ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานและในชีวิตจริงได้เป็นอย่างดี
“การบริหารจัดการธุรกิจยาที่ทำให้มียอดจำหน่ายนับร้อยล้าน บอกได้เลยว่ามาจากความรู้ที่เรียนจากศศินทร์ ประสบการณ์ต่าง ๆ และคอนเนคชั่นในห้องเรียน มีส่วนทำให้ธุรกิจยาเติบโตอย่างรวดเร็ว ผลิตภัณฑ์ “CAPPRA” เกิดจากการเรียนกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กฤตินี ณัฎฐวุฒิสิทธิ์ อาจารย์เป็นคนจุดประกายให้ผู้เรียนไปคิดโปรดักส์ใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอโครงการเนื้อหา และแผนธุรกิจในชั้นเรียน ซึ่ง เป็นเวลาเดียวกับการเริ่มต้นธุรกิจยา ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ CAPPRA ขึ้น จากจุดเริ่มต้นในชั้นเรียนสามารถนำมาปรับใช้กับการทำธุรกิจได้ และประสบความสำเร็จมาจนวันนี้ ถือว่าศศินทร์ให้โอกาสที่ดีในการทำธุรกิจ” นายภัทรพลกล่าว และเปิดเผยเพิ่มเติมถึงผลิตภัณฑ์ CAPPRA ว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก เนื่องจากเป็นสมุนไพรปัจจุบันคนทั่วโลกให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์หรือตัวยาจากธรรมชาติมากขึ้น ทำให้มีมูลค่าทางการตลาดทั่วโลกกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ ทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาตลาดสมุนไพรเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง CAPP GROUP ตั้งเป้าไม่เกิน 3 ปีผลิตภัณฑ์จะเป็นที่รู้จักทั้งในตลาดเอเชียและทั่วโลก
นายภัทรพล กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์สุขภาพและอาหารเสริมจะเข้ามามีบทบาทในไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะสมุนไพรตะวันออกซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ทั้งนี้ CAPP GROUP ให้ความสำคัญกับการวิจัยและวิเคราะห์ในเชิงการตลาดโดยร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำหน้าที่วิจัยและพัฒนาสมุนไพรทุกประเภทของบริษัท เพื่อให้สมุนไพรตะวันออกเป็นที่ยอมรับเช่นเดียวกับยาตะวันตก สำหรับการจัดจำหน่ายนั้นนอกจากในประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันมีการสั่งซื้อจากประเทศต่างๆ เพื่อนำไปจำหน่าย ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน สหรัฐอเมริกาและยุโรป
"จากการเก็บข้อมูลพบว่าผู้ชายอายุ 30 ปีขึ้นไปจำนวน 30-40 เปอร์เซ็นต์ เริ่มประสบปัญหาของร่างกาย และเมื่ออายุมากขึ้นเปอร์เซ็นต์จะมากขึ้นเรื่อยๆ จากสถิติพบว่าผู้ชายไทยที่มีปัญหาประมาณ 7 ล้านคน เป็นตลาดที่ใหญ่มาก แต่ที่ใหญ่กว่านั้นคือกลุ่มที่ยังไม่มีปัญหาและต้องการป้องกัน ทำให้ตัวเลขกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการบริโภคยานี้สูงถึง 15-20 ล้านคน ที่สำคัญธุรกิจยาในกลุ่มเดียวกันมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหา แต่ผลิตภัณฑ์ของเราเน้นไปที่การป้องกันจึงเป็นสินค้าที่ไร้คู่แข่ง" สำหรับผลิตภัณฑ์ CAPPRA เป็นอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรตะวันออกจากธรรมชาติ ผสมผสานด้วยสูตรตัวยาที่เน้นการบำรุงร่างกายของแต่ละประเทศ ทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลี อินเดีย และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. รวมทั้งได้มาตรฐานตะวันตก สำหรับผลิตภัณฑ์อีกตัว คือ Koolcappยาลดไข้แก้ร้อนใน จากธรรมชาติ ได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติปี 2556 โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์สามารถหาซื้อได้ในร้านขายยาทั่วประเทศ
นายภัทรพลกล่าวและเปิดเผยถึงเป้าหมายการทำงานว่า หลังจากที่ทำงานจนเราสามารถเกษียณตัวเองและมี FINANCIAL FREEDOM แล้ว ตั้งใจจะทำงานเพื่อตอบแทนสังคม เช่น มีมูลนิธิของตัวเอง โดยให้ความสนใจทางด้านการศึกษาของเด็กที่ด้อยโอกาสเพื่อแบ่งปันคนอื่น ๆ ให้มากขึ้น จากเป้าหมายที่ต้องการเกษียณเร็ว และในขณะเดียวกันมีฐานะทางด้านการเงินที่มั่นคง จึงแบ่งปันประสบการณ์ ความคิด และมุมมองของตัวเองผ่านหนังสือที่มีชื่อว่า “เหนื่อยชั่วคราว สบายชั่วโคตร”ได้เปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อต้องการให้ค้นหาช่องทางในการทำงาน ที่สามารถบริหารเวลาของตัวเองได้ หากมองหาลู่ทางได้เร็ว เราก็จะเกษียณได้เร็วขึ้น นอกจากนี้เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ ยังบอกถึงวิธีการเกษียณก่อนเวลา 20-30 ปีแต่ยังมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมออีกด้วย (for more info, please visit www.financialfreedomlife.org )
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit