ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค ฉลองความสำเร็จในความมุ่งมั่น รวมพลสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจกว่า 100 คน ตะลุย โตเกียว – ภูเขาไฟฟูจิ – นิกโก้ 6 วัน 5 คืน ฉ่ำอุรา

12 Dec 2013
ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค (Unilever Network) ธุรกิจเครือข่ายที่มีศักยภาพการเติบโตสูงสุด นำโดย สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด รวมพลเหล่าสมาชิก ผู้ร่วมธุรกิจกว่า 100 คน พาท่องแดนอาทิตย์อุทัย ตะลุย โตเกียวภูเขาไฟฟูจิ – นิกโก้ งานนี้ทั้งชม...ช็อป...ชิม ตลอด 6 วัน 5 คืน เพลินจนฉ่ำอุรา....

เหล่าผู้พิชิตทริปท่องเที่ยวสุดเอ็กซ์คูลซีฟจากยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค กว่า 100 คน มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพียงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางในวันแรก โดยการบินลัดฟ้าเดินทางสู่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น และผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเริ่มต้นวันที่ 2 ของการเดินทางด้วยการเยือน ย่านโอไดบะ ซึ่งอยู่ริมอ่าวโตเกียว พาไปชมสถานที่ที่ได้รับการโหวตว่า “โรแมนติกที่สุด” เพราะหนุ่มสาวญี่ปุ่นจะชักชวนกันมาออกเดท ณ ที่แห่งนี้ และพาชม สะพานเรนโบว์ ที่พาดผ่านจากโอไดบะสู่โตเกียว ซึ่งจะมองเห็น หอคอยโตเกียว ที่ตั้งตระหง่าน รวมทั้ง เทพีสันติภาพ เวอร์ชั่นญี่ปุ่นยืนถือคบเพลิงที่ริมอ่าวโตเกียว จากนั้นเดินทางสู่เมืองโยโกฮาม่า เมืองท่าเรือที่เป็นศูนย์กลางการค้า อุตสาหกรรม แฟชั่น และคมนาคมไปสู่ภูมิภาคอื่นๆ โดยมี โยโกฮาม่า แลนด์มาร์ค ทาวเวอร์ ตึกแลนด์มาร์คที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นที่สูงถึง 296 เมตร มี 70 ชั้น จากนั้นพาไปชิมราเมนหลากหลายเจ้าในตำนานที่ พิพิธภัณฑ์ราเมน ที่เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1994 ที่รวบรวมราเมนร้านเด็ดจากเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่น ที่มีทั้งหมด 9 ร้านด้วยกัน โดยออกแบบเป็นธีมบ้านเรือนสมัยโชวะ ในบรรยากาศแบบเอ้าท์ดอร์ เรียกน้ำย่อยของเหล่าผู้ร่วมธุรกิจยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เป็นอย่างมาก ทำให้อาหารมื้อกลางวัน จึงเป็นราเมนเมนูรสชาติเยี่ยมที่ผ่านรายการทีวีแชมเปี้ยนจากเมืองต่างๆ มาให้เลือกชิมกัน จากนั้นเดินทางต่อสู่เมือง ฮาโกเน่ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง และมีบ่อน้ำพุร้อนมากมาย ซึ่งต้องเดินทางด้วยเคเลิ้ลคาร์สู่ โอวาคุดานิ หุบเขานรกที่เกิดจากการปะทุขึ้นมาของภูเขาไฟฮาโกเน่เมื่อหลายพันปี ทำให้เกิดบ่อน้ำพุร้อนจากใต้ดิน โดยน้ำและควันมีส่วนผสมของกำมะถัน หากนำไข่ไปต้ม เปลือกของไข่จะมีดำเสนิท โดยชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า หากกินไข่ดำหนึ่งฟอง จะอายุยืนขึ้นอีกเจ็ดปี จากนั้นเหล่าสมาชิกทั้งหมดเดินทางสู่ย่าน ทะเลสาปคาวากุจิโก๊ะ เพื่อเข้าสู่ที่พักที่โรงแรม Fuji Mihana Hotel แล้วผ่อนคลายด้วยการแช่ออนเซ็น ที่ช่วยคลายความเมื่อยล้า และยังทำให้เลือดลมดี ผิวพรรณสดใส สุขภาพดีอีกด้วย

วันที่ 3 ของการเดินทาง เหล่าสมาชิกเตรียมตัวมุ่งหน้าสู่ ภูเขาไฟฟูจิ ด้วยความสูง 3,776 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพื่อชมทัศนยภาพที่สวยงาม ที่จะมองเห็นทะเลสาปทั้ง 5 กระจายตัวอยู่โดยรอบ พร้อมพาไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลเจ้าฟูจิเซ็นเก็น ซึ่งอยู่เชิงเขาภูเขาไฟฟูจิ อีกทั้งศาลเจ้ายังมีประวัติอันยาวนานตั้งแต่สมัยจักรพรรดิเคโคะ โดยมีประตูไม้ขนาดใหญ่พร้อมคำจารึกที่มีความหมายว่า ภูเขาที่สูงที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศทั้งสาม ได้แก่ จีน อินเดีย และญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังได้ชม 1 ใน 3 ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ โกะชินโบะคุ ซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปีมาแล้ว จากนั้นทุกท่าน

เติมพลังด้วยอาหารกลางวัน และเดินทางต่อสู่ โอชิโนะ ฮัคไค บ่อน้ำที่เกิดจากการละลายของหิมะบนภูเขาไฟฟูจิ ที่นี่ยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 แหล่งน้ำจากธรรมชาติที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น และเดินทางกลับสู่โตเกียวเพื่อท่องเที่ยวในย่าน ชินจูกุ ย่านช็อปปิ้งที่มีชื่อเสียง ที่รายล้อมด้วยห้างสรรพสินค้า และร้านขายของเป็นพันๆ ร้าน และมีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า, IPOD, MP3, โน๊ตบุ๊ค, เกม ช็อป, นาฬิกา, เสื้อผ้า, รองเท้า และแฟชั่นทันสมัย และรับประทานอาหารค่ำก่อนเดินทางเข้าสู่ที่พักที่ Tokyo Dome Hotelวันที่ 4 ของการเดินทาง เหล่าสมาชิกทุกคนจะได้เดินทางเข้าสู่ นิกโก้ เมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นที่ตั้งของน้ำตกและเส้นทางชมทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยพาไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่อุทยานแห่งชาตินิกโก้ และพาไปชม น้ำตกเคกอน ที่มีความสูง 97 เมตร ยิ่งหากเป็นช่วงหน้าหนาว จะได้เห็น “บลูไอซ์” ซึ่งน้ำที่ตกลงมาจะกลายเป็นน้ำแข็ง จากนั้นพาไปชม ทะเลสาปชูเซนจิ ทะเลสาปขนาดใหญ่ ที่นับว่าเป็นแหล่งกำเนิดน้ำตกเคกอนก็ว่าได้ จากนั้นเหล่าสมาชิกรับประทานอาหารกลางวัน และมุ่งหน้าสู่ นิกโก้ เอโดะมุระ หรือ เอโดะ วันเดอร์ แลนด์ เมืองจำลองสมัยเอโดะ ที่ให้สัมผัสกับบรรยากาศสภาพแวดล้อม บ้านเรือน ร้านค้า ท้องถนนและการแต่งกายของผู้คนที่ราวกับย้อนยุคเมื่อ 200 กว่าปีก่อน พร้อมชม บ้านนินจา ที่มีห้องลับต่างๆ ที่ซ่อนอาวุธ เส้นทางลับต่างๆ และการแสดงทั้งการต่อสู้ การพลางตัวในรูปแบบต่างๆ และการใช้ชีวิตแบบนินจา จากนั้นรับประทานอาหารค่ำ และเข้าสู่ที่พักที่ Tokyo Dome Hotel

วันที่ 5 ของการเดินทาง พาเหล่าสมาชิกผู้ร่วมธุรกิจยูนิลีเวอร์ น์ทเวิร์ค ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ วัดเซ็นโซจิ หรือ วัดอาซากุสะ วัดที่เหล่าโชกุนและซามูไรให้ความเลื่อมใสศรัทธา นมัสการองค์เจ้าแม่กวนอิมทองคำ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับ คามินาริมง ประตูฟ้าคำรณ ที่ประดับประดาด้วยโคมไฟสีแดง ที่ได้ชื่อว่าเป็นโคมไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีร้านรวงต่างๆ แหล่งรวมสินค้าของที่ระลึกมากมาย จากนั้นรับประทานอาหารกลางวัน และไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อเพื่อความเป็นสิริมงคลที่ ศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าชินโตที่สำคัญของโตเกียว และเคยถูกทำลายเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีเอกลักษณ์เด่นคือ ซุ้มประตูที่ทำด้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น จากนั้นพามาเพลิดเพลินต่อกับการช็อปปิ้งที่ย่าน ฮาราจูกุ แหล่งรวมแฟชั่นทันสมัยของวัยรุ่นญี่ปุ่น ตื่นตาตื่นใจกับ ตรอกทาเทาเคชิตะ ที่รายล้อมด้วยร้านค้าขายของวัยรุ่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ อีกมากมาย และย่านนี้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ยังเป็นแหล่งนัดพบของบรรดาพวก Cosplay นอกจากนี้ยังมีถนน โอโมเตะซันโด ย่านสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย หรูหราเพราะคราคร่ำด้วยร้านค้าแบรนด์เนมชั้นนำ และพามาต่อที่ย่าน ชิบุยะ ศูนย์กลางแฟชั่นวัยรุ่นโตเกียวอีกหนึ่งแห่ง และหามุมถูกใจเพื่อถ่ายภาพกับ ฮาจิโกะ รูปปั้นสุนัขแสนรู้ที่กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยม ก่อนจะพาไป ตึก 109 อิจิมารุคิว อีกหนึ่งแหล่งอัพเดทแฟชั่นของหนุ่มสาวโตเกี่ยว

โดยเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 6 เหล่าผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เดินทางเหินฟ้ากลับสู่ประเทศเทย ด้วยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG 661 ถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ

ทริปท่องเที่ยวแห่งความสนุกสุดเอ็กซ์คูลซีฟ รางวัลแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ มีที่ “ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค”