นายยุคล ลิ้มแหลมทอง
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่า
การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ
พัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติได้พิจารณาเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2557– 2559 เรียบร้อยแล้ว และเตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวตามลำดับต่อไป ทั้งนี้ ร่างยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์แห่งชาติ พ.ศ. 2557– 2559 ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ คือ 1) การบริหารจัดการองค์ความรู้และนวัตกรรม 2) การพัฒนาการผลิตเกษตรอินทรีย์ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน 3) การสร้างความเข้มแข็งด้านการตลาดและมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไทย และ 4) การบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ไทย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เกษตรอินทรีย์โลกที่มีแนวโน้มการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในทวีปเอเชีย ซึ่งพบว่าประเทศที่มีพื้นที่การผลิตมากที่สุด คือ จีน อินเดีย คาซัคสถาน และฟิลิปปินส์ ตามลำดับ สำหรับประเทศไทยมีพื้นที่การผลิตการเกษตรอินทรีย์เป็นอันดับที่ 55 ของโลก และอันดับ 7 ของทวีปเอเชีย จำนวน 0.21 ล้านไร่ ซึ่งมีปริมาณการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ 48,578.50ตัน มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 24.23 และมีมูลค่า 1,842.50 ล้านบาท
สำหรับเป้าหมายสำคัญในการจัดทำยุทธศาสตร์เกษตรอินทรีย์ฉบับนี้นั้นประกอบด้วย 1) เพื่อให้พื้นที่การผลิตในรูปแบบเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น 2) เพื่อให้การผลิตและการบริโภคสินค้าเกษตรอินทรีย์ในประเทศเพิ่มขึ้น 3) เพื่อสร้างมูลค่าของสินค้า บริการด้านเกษตรอินทรีย์ และผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้น 4) เพื่อให้สินค้าเกษตรอินทรีย์และมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ไทยเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และ 5) เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางของสินค้าและบริการด้านเกษตรอินทรีย์ในระดับสากล โดยการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยแนวคิดการพัฒนาแบบองค์รวมที่มีคนเป็นศูนย์กลางเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เน้นการผลิตตามวิถีพื้นบ้าน สามารถพึ่งพาตนเองและพึ่งพาซึ่งกันและกัน และดำเนินงานในเชิงบูรณาการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชน เครือข่ายเกษตรกรและศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน