นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อิตัลไทย โดย บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จํากัด เปิดเผยว่า บริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จํากัด (ITALTHAI Industrial : ITI) ซึ่งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายและเป็นหน่วยให้บริการหลังการขายเครื่องจักรกลจากบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้รับความไว้วางใจในการจำหน่ายและการให้บริการหลังการขายของเครื่องจักรกลหนักของ Volvo Construction Equipment หรือ Volvo CE แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย รวมถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ บริษัทฯ จึงได้ขยายสาขาและเปิดศูนย์บริการเครื่องจักรกลหนัก Volvo ครบวงจร หรือ อิตัลไทย เซ็นเตอร์ (Italthai Center) สาขามหาชัย ที่ทันสมัยเต็มรูปแบบตามมาตรฐานของ Volvo CE เพื่อเป็นการรองรับตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อิตัลไทย เซ็นเตอร์ : Italthai Center มหาชัย เป็นศูนย์บริการที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในจำนวนศูนย์บริการทั้งหมดของอิตัลไทย โดยจะรองรับการให้บริการแบบ คือ ส่วนงานขาย (Sale), ส่วนงานบริการ (Service) และ ส่วนงานอะไหล่ (Spare parts) ซึ่งถือเป็น Central Warehouse แบบครบวงจรให้แก่สินค้าประเภทเครื่องจักรกลหนักที่ทางบริษัท อิตัลไทยอุตสาหกรรม จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่าย โดยใช้งบประมาณในการลงทุนกับการปรับปรุงและสร้าง Italthai Center ที่มหาชัยนี้และรวมถึงที่ขอนแก่นด้วยงบประมาณ 100 ล้านบาท รองรับลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบการรับเหมารายใหญ่ หน่วยงานราชการ คู่ค้า รวมไปถึงบุคคลทั่วไป เพราะศูนย์บริการสาขามหาชัยนี้ให้การบริการที่ครบวงจรทั้งในด้านการขาย, การบริการ รวมถึงศูนย์ฝึกอบรมความรู้ต่างๆ ด้วย
ปัจจุบัน Italthai Center มีสาขาทั้งหมด 12 สาขา ในประเทศไทย และอีก 1 สาขาที่เวียงจันทน์ แบ่งออกเป็น สาขาหลัก ซึ่งเป็นสาขาที่รองรับการบริการแบบ 3S คือ ส่วนงานขาย (Sale), ส่วนงานบริการ (Service) และคลังอะไหล่ (Spare parts) มีทั้งหมด 4 สาขา ตั้งอยู่ที่จังหวัด ชลบุรี ขอนแก่น ลำปางและสมุทรสาคร สำหรับสาขาย่อย จะรองรับการบริการแบบ 2S คือ ส่วนงานขาย (Sale) และ ส่วนงานบริการ (Service) มีทั้งหมด 8 สาขา ตั้งอยู่ที่จังหวัด พิษณุโลก, นครราชสีมา, อุบลราขธานี, อยุธยา, ฉะเขิงเทรา, สุราษฏ์ธานี, สงขลา (หาดใหญ่) และภูเก็ต สำหรับสาขาในต่างประเทศที่นครเวียงจันทน์ สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นศูนย์ครบวงจร 3S เช่นกันเพื่อพร้อมรองรับการขยายตัวของตลาดอย่างครบวงจร และมีทีมช่างไว้คอยบริการกว่า 350 คน จะกระจายไปอยู่ในสาขาต่าง ๆ โดยจะให้บริการซ่อมบำรุงภายใน 24 ชม.
นายยุทธชัย กล่าวต่อไปว่า ในการเปิด อิตัลไทย เซ็นเตอร์ สาขามหาชัย บริษัทฯ ยังได้จัดให้เป็นศูนย์ฝึกอบรม “อิตัลไทยเทคนิคอลอะคาเดมี” (Italthai Technical Academy : ITA) ซึ่งได้รับการรับรองจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อสอนการใช้งานเครื่องจักร รวมถึงหลักสูตรเกี่ยวกับด้านเทคนิค การจัดการ งานขาย และระบบการทำงานมาตรฐานโลกให้แก่พนักงานและคู่ค้า ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 หลักสูตร แบ่งเป็น
ปัจจุบันหลักสูตรต่างๆ เหล่านี้กำลังเปิดสอนเพื่อพัฒนาศักยภายให้ทีมงานของ ITI เพื่อให้มีความชำนาญการมากขึ้น และในอนาคต ITA ก็จะร่วมมือกับกรมพัฒนาแรงงานและฝีมือทั่วประเทศในการเปิดอบรมให้กับผู้ที่สนใจเพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้และทักษะต่อไป
นายยุทธชัย กล่าวอีกต่อไปว่า และเพื่อเป็นการขยายตลาดให้มากขึ้น บริษัทฯ จึงได้นำเข้า รถขุด Volvo EC 350DL ใหม่ มารองรับตลาดที่กำลังขยายตัว ซึ่งปัจจุบันในตลาดตอนนี้มีรถขุดขนาด 33 ตันอยู่แล้วแต่เป็นขนาดที่เล็กเกินกว่าจะทำงานในเหมืองหินหรือโรงโม่หิน ในขณะที่รุ่นที่ใหญ่กว่าจะเป็นขนาด 38 ตัน ซึ่งจะมีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ แต่สำหรับ รถขุด Volvo EC350DL เป็นรถขุดขนาด 35 ตัน รุ่นใหม่ล่าสุดจากวอลโว่ ซึ่งเป็นรถขุดที่เหมาะสำหรับการทำงานหนักในเหมืองหินหรือโรงโม่หิน นอกจากนี้ แขนขุดยังถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง รองรับงานหนักได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ที่สำคัญที่ Volvo EC350DL เป็นรถขุดที่เน้นในเรื่องความประหยัดน้ำมัน โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ D8 ใหม่ล่าสุดจากวอลโว่ สามารถใช้งานในโหมด ECO ที่ช่วยการเผาผลาญน้ำมันดียิ่งขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และยังมี Option เสริมต่างๆ เช่น กล้องมองหลัง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและมุมมองขณะทำงาน รวมถึงอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงยิ่งขึ้น ดังนั้นราคา Volvo EC350DL จะมีหลากหลายขึ้นอยู่กับ Option เสริม โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 20 คันในปีแรก ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6.2 ล้านบาทต่อคัน
“ภาพรวมตลาดเครื่องจักรกลหนักในปัจจุบันมีประมาณ 3,800 ยูนิต เนื่องจากตลาดได้มีการสต็อกเครื่องจักรเข้าไปใช้งานตั้งแต่ปีที่และปีนี้เป็นจำนวนมาก และด้วยความที่ตลาดเป็นเครื่องจักรกลหนักที่มีอายุการใช้งานยาวนาน คาดว่าการขยายตัวในปีหน้าอาจจะไม่มากนัก โดยเฉพาะรถขุด Volvo ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 5 หรือ 12% อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างฐานในการบริการให้เต็มรูปแบบและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ในปีหน้าบริษัทฯ มีแผนการปรับเปลี่ยนสาขาแบบ 2S ให้เป็นสาขาแบบ 3S ใน 2 พื้นที่คือที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยงบประมาณ 100 ล้านบาท ที่ผ่านมา ITI ในกลุ่มอุตสาหกรรมมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปี 2554 มียอดขายอยู่ที่ 2,400 ล้านบาท และปี 2555 ยอดขายอยู่ที่ 2,900 ล้านบาท และปี 2556 นี้ จะกระโดดไปที่ 4,000 กว่าล้านบาท และในปีหน้า 2557 คาดว่าจะมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4,500 ล้านบาท ” นายยุทธชัย กล่าวสรุปในตอนท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit