วธ. ปั้นโมเดลสร้างภูมิคุ้มกันของสังคม เน้นบูรณาการทำงานเครือข่าย สร้างสังคมต้นแบบบนฐานวัฒนธรรม

26 Mar 2014
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 ที่โรงแรมรอยัลซิตี้ ดร.ปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะการขับเคลื่อนงานการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติวัฒนธรรม ตามโครงการยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติวัฒนธรรม (Cultural Vaccine) โดยมีผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม นักวิชาการทางวัฒนธรรมของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ และเครือข่ายในพื้นที่ จำนวน 320 คน มาร่วมกันกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติวัฒนธรรม (Cultural Vaccine) เพื่อสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานในพื้นที่ ในการสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันของสังคมในระดับต่างๆ ทั้งครอบครัว ชุมชน สังคม และระดับชาติ ให้เป็นสังคมที่เข้มแข็ง อบอุ่น และน่าอยู่ บนพื้นฐานของวัฒนธรรม

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและกระแสโลกาภิวัตน์ที่มีผลกระทบต่อวัฒนธรรม ประเพณีดั้งเดิมที่ดีงาม ส่งผลให้สังคมไทยเผชิญกับความเสื่อมถอยด้านค่านิยม คุณธรรมและจริยธรรม ทำให้เด็กและเยาวชนไทยขาดภูมิคุ้มกันทางสังคมในมิติของวัฒนธรรม ซึ่งปัจจุบันพบปัญหามากมายเกิดขึ้นในสังคม เช่น ปัญหาเด็กติดเกมและใช้เวลาเล่นอินเตอร์เน็ตมากเกินไป รวมถึงการใช้เทคโนโลยีสื่อสารโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังที่ปรากฎในสื่อมวลชนมากมาย เกี่ยวกับหญิงสาวถูกล่อล้วงผ่านการใช้โทรศัพท์มือถือ อีกทั้งพบปัญหาเด็กนักเรียนมั่วสุมตามโรงแรมจำนวนมากในบางจังหวัด ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้

“ผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ จะต้องช่วยกันวิเคราะห์ถึงปัญหาของแต่ละชุมชนในทุกจังหวัดเป็นสำคัญว่าจะเข้าไปขับเคลื่อนอย่างไรเพื่อการช่วยแก้ไขปัญหา และทำให้สังคมเกิดความอบอุ่นได้ ที่สำคัญกิจกรรมทั้งหมดต้องสอดแทรกเรื่องของสถาบันหลักของสังคม คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย โดยอาจจะใช้สถานศึกษาเป็นหลักในการสร้างภูมิคุ้มกันร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ สู่การสร้างสังคมต้นแบบ เต็มไปด้วยความสุขบนฐานของวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม เมื่อร่วมกันกำหนดโมเดลตรงนี้ได้แล้ว จะเกิดเป็นแผนพัฒนาสังคมที่สามารถนำไปขับเคลื่อนพร้อมกันทั่วประเทศได้ และเห็นควรต้องบรรจุไว้ในข้อบัญญัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งอบต. อบจ. รวมถึงเทศบาล เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมให้คนในพื้นที่ได้มากที่สุด” ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว